- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 26 August 2016 15:48
- Hits: 1299
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : EPG, TK
Our Portfolio Aug 2016 : AAV, BEM CK, SCB, TACC
2016SET Target 1650
SET เริ่มปรับตัวลงอีกครั้งตามคาด ซึ่งมองเป็นโอกาสทยอยซื้อสะสมต่อ
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ขยับขึ้นแกว่งบวกต่อเนื่องได้อีกในช่วงครึ่งวันเช้าหลังจากวันก่อนหน้าตลาดปิดบวกได้ดี จากแรงซื้อหนุนในหุ้นหลักของตลาดหุ้นไทย แต่เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดจากที่ประชุมแจ็คสัน โฮล ในค่ำวันนี้(26 ส.ค.) ด้วย จึงทำให้ SET ยังแกว่งตัวย้อนลบลงอีกครั้งตามคาด
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เช้านี้ตลาดหุ้นต่างประเทศยังไม่สดใส โดยตลาดหุ้นสหรัฐปิดเป็นลบต่อเนื่อง คาดว่านักลงทุนยังรอติดตามฟังสุนทรพจน์ของประธานเฟดจากการประชุมที่แจ็คสัน โฮล เพื่อจับสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปก็ปิดเป็นลบ หลังดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีร่วงลงอย่างหนักในเดือน ส.ค. ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ยังมีจังหวะแกว่งลบต่อเนื่องเช่นเคย ถึงแม้ว่ากรอบลบไม่ลึกนัก แต่คาดว่าจะทำให้ SET มีจังหวะแกว่งลบต่อเนื่องด้วย อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาพยุงบ้าง หลังจากสัญญาน้ำมันร่วงลงเกือบ 3% เมื่อวันก่อน ซึ่งนักลงทุนยังมีความหวังว่าผลประชุมอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน(26-28 ก.ย.) จะได้ข้อสรุปที่ดี ดังนั้นยังลุ้นตลาดปรับลงเพื่อรอขึ้นใหม่รอบถัดไปตามคาดได้
กลยุทธ์ : ยังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยซื้อสะสมช่วง SET ปรับตัวลงเช่นเดิม
แนวรับ 1540-1538 , 1535-1528 จุด
แนวต้าน 1546-1548 , 1552-1555 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TTA, ERW, WHA(short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนกลับมาไหลเข้าภูมิภาคเบาบาง US$19ล้านเม็ดเงินไหลเข้าไต้หวัน US$255ล้าน อินโดนีเซีย US$52ล้าน และไทยUS$29ล้าน ขณะที่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$292ล้าน และฟิลิปปินส์US$23ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจชะลอลงเพื่อรอคำกล่าวของประธานเฟดในคืนนี้ในการส่งสัญญาณระยะเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (+) TPCH ชนะประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ 3 โครงการ รวม 26.1 MW แต่มีส่วนลดค่า FiT 67.78% - 81.17% ส่วนลดมากกว่าที่เราคาด จึงเพิ่มมูลค่าให้ TPCH เพียง 1.75บาท/หุ้น (บนสมมติฐานถือ 65%) เมื่อรวมกับราคาพื้นฐานที่รวมโรงไฟฟ้าขยะ 8MW (ถือ45%) ที่เพิ่งร่วมทุน ที่ 21.50 บาท ทำให้ราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 23.25 บาท มี upside17% จากราคาปิดวานนี้ที่ถูก sell on fact ไปแล้ว จึงแนะนำซื้อ
• (+) EPG เรายังชอบและแนะนำซื้อ กำไรปกติ 1Q17 (เม.ย.-มิ.ย.16) ที่ +28% Q-Q,+63% Y-Y คิดเป็น 23% ของกำไรทั้งปี สะท้อนความแข็งแกร่งของธุรกิจท่ามกลางความผันผวนของค่าเงินหลายสกุล ราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น และเศรษฐกิจในหลายประเทศที่เป็นตลาดของบริษัทยังไม่ฟื้นนัก แต่รายได้รวมกลับทำ New high และยังรักษา Marginsได้ไม่ต่ำกว่าเดิม แนวโน้มธุรกิจยังสดใส เราปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 16 บาทจาก 15บาทหลังปรับอัตราการเติบโตของกำไรในช่วง 2 ปีนี้ (ปี 2017-18) สูงกว่าเดิม
• (+) TACC การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ เรายังมองบวกต่อการเติบโตในช่วงต่อจากนี้ ที่จะมีสินค้าใหม่ Sanrio และโดนัทที่จะวางขาย ก.ย. ซึ่งเป็นการขายขาดให้ 7-11 (ยกเว้นสินค้า Cosmetic ที่เป็นขายฝาก) ถ้าขายไม่หมด Sanrio HK จะรับซื้อคืนเพื่อไปกระจายในตลาดต่างประเทศต่อไป ความเสี่ยงของ TACC จึงจำกัด และใน 4Q16 มีแผนออกเครื่องดื่มตัวใหม่ในกัมพูชา และปีหน้ามีสินค้าใหม่ที่ร่วมพัฒนากับ 7-11 อีกหลายรายการเรายังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 9.50 บาท
• (+) KKP ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 2 บาท (Payout 70%) XD 6 ก.ย. เป็นPositive surprise เพราะปกติจ่ายระหว่างกาล 1 บาท/หุ้น และถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกของผู้บริหารที่มั่นใจในแนวโน้มกำไรใน 2H16 เรายังคงราคาพื้นฐานปีนี้ที่ 61 บาทและแนะนำซื้อ โดย KKP เป็นหนึ่งใน Top pick ของกลุ่มแบงก์ นอกเหนือจาก SCB
• (0) TK เราชอบ TK น้อยลง แม้จะปรับราคาพื้นฐานไปเป็นปีหน้าที่ 12 บาทแต่ราคาหุ้นมีupside เพียง 3% และคาด Dividend yield อีก 4% ไม่จูงใจในการซื้อ ลดคำแนะนำเป็นถือ เราปรับกำไรปีนี้ลง 17% เหลือโตเพียง 6.7% Y-Y เพราะบริษัทใช้ประโยชน์ทางภาษีครบแล้ว จึงต้องเริ่มจ่ายภาษีในอัตราปกติ 20% ตั้งแต่ 3Q16 ส่วนปี 2017 คาดกำไร+15% Y-Y จากการขยายตัวของสินเชื่อในประเทศ ส่วนธุรกิจในกัมพูชาและลาวยังไม่น่าสร้างกำไรได้มากนัก
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
29 ส.ค. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ก.ค.), ดุลการค้า (ก.ค.)
31 ส.ค.-2 ก.ย. - ไทย: Thailand Focus 2016 - A New Growth Strategy
31 ส.ค. - ไทย: TM (ราคา IPO 3 บาท) เริ่มเทรด, ธปท.รายงานภาวะ
เศรษฐกิจเดือน ก.ค.
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ส.ค.)
1 ก.ย. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.), อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- จีน: Manufacturing & Non-manufacturing PMI (ส.ค.)
2 ก.ย. - เกาหลีใต้: 2Q16 GDP
- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ส.ค.)
5 ก.ย. - ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวัน Labor Day
- จีน: Caixin China PMI Composite (ส.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ส.ค.)
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนยังปิดลบอีกเล็กน้อยโดยยังถูกถ่วงจากหุ้นในกลุ่ม Healthcare ขณะที่นักลงทุนจับตาดูถ้อยแถลงของประธานFED คืนนี้
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดลบแรงพอสมควรหลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีในเดือน ส.ค.ออกมาแย่กว่าคาดและต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบเช่นกันนำโดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นหลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ค. ออกมาติดลบมากกว่าคาด
(0) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 34.50-34.60 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 0.56ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 47.33 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีแรงซื้อกลับหลังราคาร่วงแรงในวันก่อนหน้า รวมถึงความคาดหวังว่าดอลลาร์จะอ่อนค่าลงภายหลังจากถ้อยแถลงของประธาน FED
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 5.10 ดอลลาร์/ออนซ์มาอยู่ที่ 1,324.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ FEDออกมาสนับสนุนให้ขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของประธาน FED วันนี้ที่ JacksonHole
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research