- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 25 August 2016 17:16
- Hits: 2447
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
ปรับขึ้นสวนทางภูมิภาค
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงและรายงานยอดขายบ้านมือสองที่ร่วงลงในเดือนก.ค. ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.35%, -0.81%, -0.52%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด 0.28%, -0.48%, 0.32%, 0.68%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 1.33 ดอลลาร์ปิดที่ 46.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 0.91 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ปรับลงหลังสต๊อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นสวนทางกับภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง โดยมีแรงซื้อในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ วัสดุก่อสร้าง และรับเหมาก่อสร้าง ได้แรงหนุนจากการที่ครม. ผ่านร่างพรบ. ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนประกอบด้วย ทั้งร่างพรบ. เขตเศรษฐกิจพิเศษ ร่างพรบ. การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยร่างพรบ. ส่งเสริมการลงทุน โดยจะเพิ่มอำนาจให้ BOI อนุมัติการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ลงทุนได้สูงสุด 13 ปี สำหรับกิจการที่ใช้เทคโนฯ และนวัติกรรมชั้นสูงเพื่อการวิจัยและพัฒนาและการให้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับนักลงทุนที่อยู่ในอุตฯ เป้าหมายถึง 15 ปี และร่างพรบ. การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตฯ เป้าหมาย 10 อุตฯ
รวมทั้งมีการเร่งรัดให้มีการเร่งเบิกจ่ายงบปี 2559 ที่จะสิ้นสุดในเดือนก.ย. นี้โดยเร็ว โดยในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้มีการเบิกจ่ายเพียง 77% จากกรอบวงเงินที่รัฐบาลต้องการให้มีการเบิกจ่าย 90% ทำให้คาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีการเร่งรัดให้มีการเปิดประมูลทั้งรถไฟทางคู่อีก 5 เส้นทาง ซึ่งรวมงบประมาณปีนี้และปีหน้าด้วย ทางด้านดัชนีความเชื่อมั่นอุตฯ เดือนก.ค. อยู่ที่ 84.7 ปรับลงจากระดับ 85.3 ในเดือนมิ.ย. ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ต่ำสุดในรอบปีและลดลงต่ำสุดในรอบ 9 เดือน จากคำสั่งซื้อยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิตและผลประกอบการที่ลดลง แต่ดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 100.7 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 99.8 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินระดับ 100 ในรอบ 5 เดือน เนื่องจากผู้ประกอบการเห็นว่าการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2559 จะส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวและการใช้จ่ายภาคเอกชนในระยะต่อไป
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในเดือนส.ค. คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น จากภาคอุตฯ หลาย ๆ ตัวที่น่าจะมียอดการผลิตที่ดีขึ้น เช่น อุตฯ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็คทรอนิกส์ ส่วนสินค้าเกษตรก็น่าจะมียอดส่งออกที่ดีขึ้น จากผลผลิตรอบใหม่ที่ออกสู่ตลาด เช่น ข้าว ซึ่งน่าจะทำให้การบริโภคในภาคการเกษตรปรับตัวสูงขึ้น ทางด้านค่าเงินบาทอาจจะมีการเปลี่ยนทิศทางจากแข็งค่าเป็นอ่อนค่า หากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในเดือนก.ย. นี้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจริง ก็จะส่งผลให้ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่า และจะทำให้การส่งออกกลับมาดีขึ้น ส่วนการท่องเที่ยวถ้าสามารถทำได้ตามเป้าหมาย ก็จะทำให้การขยายตัวของ GDP ของไทยในปีนี้ขยายตัวได้ 3.5% ทางด้านการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้ปรับตัวลงเล็กน้อย ทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้มีทั้งบวกและลบ ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยคาดว่า จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบจุดสูงเดิมหรืออาจมีจุดสูงใหม่ที่แถว ๆ 1,560-1,570 จุด แต่เรายังคงแนะนำให้ขายทำกำไรเมื่อปรับตัวขึ้นไปที่ระดับดังกล่าว
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ต่ำกว่าแถว ๆ 1,530 จุด แนะนำขายทำกำไร
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]