- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 23 August 2016 18:11
- Hits: 997
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1560
SET Index: 1533.48 ปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1530 จุดในช่วงเปิดตลาดแต่ยังสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ในระยะสั้น แต่การปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญของเส้นแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นที่ 1536 จุดลงไป ทำให้ความเสี่ยงในการระยะสั้นของ SET Index มีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1520 จุด เพื่อปิดช่องว่างที่เปิดเอาไว้ แต่โครงสร้างในระยะยาวยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านที่ 1560 และ 1590 จุดเป็นเป้าหมายในการปรับตัวเพิ่มขึ้น
แนวต้าน : 1536 และ 1540
แนวรับ : 1532 และ 1530
CPALL = 60.00 / 61.00, KTB = 18.50 / 18.80, PTTGC = 60.50 / 61.50, PTT = 345 / 348, KBANK = 196 / 198
TTCL (TTCL TB; THB 25.25) - ซื้อ
แนวต้าน : 27.00 และ 28.00
แนวรับ : 25.25 และ 25.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นไปทดสอบจุดสูงสุดเดิม ในขณะที่โครงสร้างหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ TTCL โดยมีแนวรับที่ 25.25 และ 25.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 27.00 และ 28.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 24.20 ลงไป
Inter Far East Energy Corporation (IFEC TB; THB 6.60) - ซื้อ
แนวต้าน : 7.00 และ 7.40 / แนวต้านสำคัญ 7.80
แนวรับ : 6.60 และ 6.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่งต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมแต่สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ IFEC โดยมีแนวรับที่ 6.60 และ 6.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.00 และ 7.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.35 ลงไป
SET50 Index Futures
S50U16 ปรับตัวลดลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 974 ซึ่งเรากำหนดให้เป็นแนวรับสำคัญในระยะสั้น แต่ไม่มีแรงซื้อกลับเข้ามา ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 965 ซึ่งเป็นแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น และมีเส้นค่าเฉลี่ย 200 ชั่วโมงที่ 962 เป็นจุด STOp LOSS สถานะ Long
แนวต้าน : 974 และ 978
แนวรับ : 970 และ 967
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน S50U16 ที่แนวรับ 974 และ 965 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 990 และ 1000
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50U16 ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 962 ลงไป
SIRIU16
เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่องหลังจากฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 1.80 เหนือแนวรับสำคัญของเส้นแนวโน้มขาขึ้น 1.74-1.75 ซึ่งเราแนะนำให้ Open Long เอาไว้ที่บริเวณ 1.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.90 และ 2.00 และมีแนวรับสำคัญที่ 1.74 ถ้าหลุดจะเป็นจุด STOP LOSS สถานะ Long
แนวต้าน : 1.84 และ 1.87
แนวรับ : 1.78 และ 1.77
คำแนะนำ: เราแนะนำให้เน้นการ Open Long ใน SIRIU16 ที่แนวรับ 1.78 เพื่อคาดหวังการปรับเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.90 และ 2.00
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า SIRIU16 ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1.74 ลงไป
VGIU16
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นไปทดสอบระดับ 5.50 แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบ 6.90 และ 7.40
แนวต้าน : 6.80 และ 6.90
แนวรับ : 6.50 และ 6.45
คำแนะนำ: เราแนะนำให้เน้นการ Open Long ใน VGIU16 ที่แนวรับ 6.50 เพื่อคาดหวังการปรับเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 6.90 และ 7.40
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า VGIU16 ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 6.25 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ยังทรงและซึม
สถานการณ์ตลาดหุ้นโดยรวมในอาทิตย์นี้ คาดยังไม่ไปไหนหรืออาจเกิดการแกว่งตัวแรงๆได้ในช่วงปลายสัปดาห์ จากการแถลงของประธาน FED ถึงทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ หลังมีประธานธนาคารกลางหลายสาขาของสหรัฐ ออกมาย้ำว่ามีโอกาสที่ทาง FED จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. ดังนั้นทิศทางดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งไทย อาจจะได้เห็นการแกว่งตัวที่แรงทั้งเชิงบวกและลบในต้นสัปดาห์หน้า นอกจากนั้นหากกลับมามองการประเมินความถูกความแพงผ่านค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของตลาดหุ้นเอเชีย จะพบว่าตลาดหุ้นไทยเป็นเพียงตลาดเดียวที่ค่า P/E ขึ้นไปสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ 15 เท่า เราจึงมองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีสิทธิ์ที่จะย่อตัวลงหลังจากนี้
สถานการณ์การลงทุนหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในปีนี้ถือว่ามีแรงซื้อเข้ามา หลังมีแรงขายอย่างมากในปีที่ผ่านมา เป็นที่น่าสังเกตว่าหุ้นธนาคารใหญ่ ที่ลงไปลึกในปีที่ผ่านมา แล้วมีแรงซื้อคืน คือ SCB และ KBANK ปีที่ผ่านมาลงไปเกือบ 40% แต่ปีนี้มีแรงซื้อคืนจนราคาหุ้นขึ้นมาประมาณ 30% คล้ายๆกับ BAY และ BBL ส่วนหุ้นที่ยัง Cover loss ไม่หมดคือ KTB โดยหุ้นที่ขึ้นได้ทั้ง 2 ปีหรือขึ้นแรงในปีนี้จะอยู่ที่หุ้นขนาดเล็กที่เน้นสินเชื่อเช่าซื้อและนาโนไฟแนนซ์ อย่าง KKP TISCO TCAP และที่เด่นสุดคือ KTC ที่ราคาหุ้นขึ้นทั้ง 2 ปีซ้อน
หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หากมองผ่านค่า P/E หรือ P/BV ถือว่ายังไม่แพง เพียงแต่ในช่วงสั้นๆนี้ยังมีปัจจัยกดดันทั้งจากการขยายตัวของสินเชื่อที่ยังไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัว แรงกดจาก NIM และ คุณภาพสินทรัพย์ และการลดน้ำหนักของ MSCI ในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เรามองว่าหุ้นในกลุ่มนี้ที่ยังพอเล่น Trading ยังคงเป็นหุ้นเล็ก อย่าง KTC KKP TISCO และ TCAP ส่วนหุ้นธนาคารใหญ่ อาจยังต้องรอผลดำเนินงาน Q3/16 หรือให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมากกว่านี้ แต่หากมองหุ้นที่ถือว่ายังขึ้นได้น้อยมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา คือ KTB
สำหรับการลงทุนหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี หลังราคาน้ำมันยืนเหนือ 50 ดอลลาร์ต่อบารเรล์ได้ ถือเป็นปัจจัยบวกกับกลุ่ม การที่จะเข้าไปลงทุนในกลุ่มนี้ ยังให้เน้นเก็งกำไรช่วงสั้นไปก่อน จนกว่าจะทราบผลการแถลงของประธาน FED ในวันศุกร์นี้ รวมทั้งการประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในวันที่ 2 ก.ย. ผ่านไปก่อน ในกลุ่มนี้ที่น่าสนใจ เรายังมอง PTT PTTGC TOP และ IVL ส่วน PTTEP มองราคาน้ำมันจะต้องขึ้นไปเหนือจุดสูงสุดเดิมที่ประมาณ 53 ดอลลาร์ จึงน่าสนใจ
กลยุทธ์การลงทุน ยังเน้นเก็งกำไรหุ้นรายตัวและพร้อมที่จะลดพอร์ตการลงทุนในหุ้นที่ขึ้นมาแรงในกลุ่มที่ไม่ใช่พลังงานและปิโตรเคมี หากเกิดความผันผวนขึ้นมา ประเด็นในการลงทุน เมื่อหุ้นเกือบทุกกลุ่มใช้ทั้งข่าวและผลดำเนินงานเล่นกันหมดแล้ว ตอนนี้เราจึงหันไปมองหุ้นรายตัวที่นักวิเคราะห์มีมุมมองในเชิงบวกกับกำไรใน Q3/16 หรือ มีการปรับค่า EPS Q3/16 เพิ่มขึ้นเป็นรายสัปดาห์(WoW%) จากฐานข้อมูลใน IBES พบว่าหุ้นที่มีการปรับค่า EPS Q3/16 รายสัปดาห์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจะเป็นหุ้นในกลุ่มพลังงานและธนาคารขนาดเล็ก
วันนี้มองตลาดยังจะถูกกดดันจากดัชนีในภูมิภาคและดัชนีดาวโจนส์ ซึ่งสภาพดังกล่าวจะลากยาวไปถึงปลายสัปดาห์นี้ จนกว่าจะเกิดความชัดเจนของการแถลงของประธานเฟด โดยวันนี้มองแนวต้าน 1,544 - 1,548 และแนวรับที่ 1,532 - 1,528 วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร KKP TISCO
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,534.42 จุด ลดลง 4.82 จุด (-0.31%) มูลค่าการซื้อขาย25,924.47 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลง โดยมีแรงขายในกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี หลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลง กด SET ลงต่ำสุด 1528 จุด ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย เนื่องจากรอการประชุมของเฟด (ศุกรนี้)
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งแดนลบต่อ ในระยะสั้นตลาดยังขาดปัจจัยหนุนในขณะที่ราคาน้ำมันเปลี่ยนมาเป็นปัจจัยลบกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมีซึ่งปกติ Q3 ราคาน้ำมันมักจะปรับตัวลง เรายังแนะนำให้ชะลอการลงทุนโดยให้รอซื้อที่บริเวณ 1500-1520 จุด ส่วนระยะสั้นสามารถเก็งกำไรหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว และสายการบินตามรอบฤดูกาลของธุรกิจ โดยเราชอบ BA และราคาหุ้นยังปรับตัวช้ากว่ากลุ่ม
Technical Pick (PM) ...
TTCL (TTCL TB; THB 25.25) - ซื้อ
Inter Far East Energy Corporation (IFEC TB; THB 6.60) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]