- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 22 August 2016 17:18
- Hits: 4179
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ผันผวนคาดมีแนวโน้มลบ ภายใต้น้ำหนักจากความกังวลว่าเฟดอาจมีการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20 – 21/9/59 อย่างไรก็ตามคาดยังมีความไม่แน่นอนอยู่ หลังการเปิดแผยรายงานการประชุมเฟด (26 -27/7/59) คณะกรรมการเฟดยังมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย? รวมถึงยังอยู่ระหว่างรอการประชุมประจำปีของเฟดในวันศุกร์นี้ (26/8/59)
ขณะที่ประเด็นในประเทศ ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ แค่คาดยังได้รับปัจจัยบวกบ้างจากประเด็น Fund Flow โดยต่างชาติยังซื้อสุทธิต่อเนื่อง แม้มูลค่าจะลดลงเหลือ ประมาณ 440 ล้านบาท แต่ YTD ยอดซื้อสุทธิสะสม ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 106,000 ล้านบาท และคาดยังมีแรงเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง
รวมถึงในระยะกลาง – ยาว คาด Sentiment ยังเป็นบวกจากสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ คาดกระบวนการเลือกตั้ง จะเกิดขึ้นตาม Road Map เดิม ประมาณปลายปี’60 ซึ่งคาดช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนให้ดีขึ้นตามลำดับ
โดยยังคงติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังมุมมองของ ธปท. เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อน 2 เรื่องหลัก (1) เริ่มมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเริ่มมี Downside Risk จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น และ (2) เงินเฟ้ออาจจะกลับเข้าสู่เป้าหมายได้ช้ากว่าที่เคยประเมินไว้เล็กน้อยจากราคาพลังงานที่ต่ำกว่าคาด
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC และ VNG
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK,UNIQ,PYLONและ SEAFCO
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ BCP และ IRPC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
SET SET50 SET100
1,538.76 -8.25 981.26 -6.47 2,197.81 -13.77
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศDJIA -45.13, NASDAQ -1.77, S&P -3.15,FTSE -10.01, CAC -36.54 และDAX -58.67ภายใต้การซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวังหลังเจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่20 - 21 ก.ย.นี้เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นในช่วง 2H/59 และตลาดแรงงานยังคงมีการสร้างงานเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ยังอยู่ระหว่างรอการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสันโฮลรัฐไวโอมิ่งในวันที่26/8/59 โดยเฉพาะถ้อยแถลงของประธานเฟด ที่คาดอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยกดดันเพิ่มจากความกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของภาคธนาคารของอิตาลี หลังประธานธนาคาร Banca Monte dei Paschi di Siena SpA (BMPS) ของอิตาลีได้ถูกเจ้าหน้าที่ของอิตาลีสอบสวนในข้อหาตบแต่งบัญชีและปั่นตลาดในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับตราสารอนุพันธ์ในอดีตและBMPS ยังมีทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ในระดับสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธนาคารรายอื่นๆ ของอิตาลี และสถานภาพสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ของอิตาลีด้วย
ราคาน้ำมันดิบ(NYMEX)ส่งมอบเดือน ก.ย. +US$0.30 อยู่ที่US$48.52 ต่อบาร์เรล ภายใต้การซื้อขายที่เป็นไปอย่างระมัดระวัง หลังปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยยังอยู่ระหว่างรอการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่ม โอเปก ในวันที่ 26-28/9/59 ที่แอลจีเรียคาดอาจเห็นชอบให้ตรึงกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันและรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในระยะยาว
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
22.57 1.96 3.08
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 51,397.52
สถาบัน -1,495.25
บัญชีหลักทรัพย์ -484.21
ต่างประเทศ 441.9
ในประเทศ 1,537.57
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$11.0 อยู่ที่ US$ 1,346.2ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +442 ล้านบาท สะสม YTD +106,650 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 22 - 26 ส.ค. 2559
22/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนก.ค.
23/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.
24/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนส.ค.
ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.
สต็อกน้ำมัน
25/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.
26/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP – 2Q/59
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนส.ค.
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (CENTEL, MINT, ERW) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี’59 ที่คาด อยู่ที่ 33 ล้านคน เพิ่มจากประมาณการเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT
(9) กลุ่มหลักทรัพย์ จากมูลค่าการซื้อขายต่อวันที่สูงขึ้นในเดือน ก.ค. และ ส.ค. เช่น ASP, MBKET
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.04 อยู่ที่ 1.58% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.09 อยู่ที่ 11.34
หุ้นแนะนำ : AP
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788