- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 22 August 2016 16:53
- Hits: 770
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : ---
Our Portfolio Aug 2016 : AAV, BEM CK, SCB, TACC
2016SET Target 1650
แนะนำเลือกหุ้นค่อยๆ ทยอยซื้อช่วง SET ลบ แล้วเน้นถือเพื่อรอรอบขึ้น
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET รีบาวด์ต่อเนื่องขึ้นได้อีกเพียงเล็กน้อยในช่วงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากวันก่อนหน้าตลาดรีบาวด์บวกขึ้นแรงพอควร จากความคาดหวังว่าเฟดอาจจะยังชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไว้ก่อน รวมทั้งการบวกแรงต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกด้วย แต่เนื่องจากยังไม่ได้มีความชัดเจนทั้งเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐและผลประชุม OPEC จึงทำให้ยังมีแรงขายช่วงบวกกดดันให้ SET ปรับย้อนลงปิดลบกว่า 8 จุด
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มแกว่งทรงตัวแคบๆ โดยมีทั้งบวกและลบ โดยนักลงทุนระมัดระวังมากขึ้นหลังราคาน้ำมันดิบขยับสูงขึ้นมากว่า 20% ในช่วง 6 วันก่อนหน้า ขณะที่ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการเจรจาหาข้อสรุปเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาดนอกจากนี้เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดก็เริ่มออกมาแสดงความเห็นด้วยกับการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ จึงกดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่ในช่วงค่ำวันศุกร์ปิดปรับตัวลงพอควร และส่งผลต่อภาวะการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่เปิดเป็นลบด้วย ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวลงได้อีกมากกว่า แต่เรายังคาดว่าเป็นการปรับตัวลงช่วงสั้น ก่อนลุ้นขึ้นรอบใหม่เป้าดัชนีตามพื้นฐานยังอยู่ที่ 1650 จุดเช่นเดิม
กลยุทธ์ : ดังนั้นแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยซื้อสะสมในช่วง SET ปรับตัวลงได้
แนวรับ 1535-1530 , 1525-1520 จุด
แนวต้าน 1540-1542 , 1547-1552 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : EA, CSS, GLOBAL(short)
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเบาบาง US$49ล้านเม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$211ล้าน และไหลเข้าไทยประเทศเดียวในกลุ่ม TIP US$13ล้าน ขณะที่ไหลออกอินโดนีเซีย US$40ล้าน และเวียดนาม 12 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาค ตลาดรอคอยคำแถลงของประธานเฟดที่การประชุมแจ๊คสันโฮลในวันศุกร์นี้เพื่อดูสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (0) สินเชื่อธนาคาร ก.ค. (ไม่รวม KTB) -0.6% M-M ส่วนใหญ่เกิดจากการคืนหนี้ระยะสั้น รวมสินเชื่อใน 7 เดือนแรก -0.1% YTD โดย BAY มีสินเชื่อโตดีที่สุด+3.4% YTD ตามด้วย TMB +2.1% YTD เราอยู่ในระหว่างปรับไปใช้ราคาเหมาะสมปี 2017 ส่วน Top Pick ยังคงเป็น SCB (ราคาเป้าหมาย 182 บาท) และ KKP (ราคาเป้าหมาย 71 บาท)
• (+) BEM รถไฟฟ้าสายสีม่วง คลองบางไผ่-เตาปูน นับแต่เริ่มให้บริการเป็นทางการ 6ส.ค. ถึงปัจจุบัน มีผู้ใช้บริการเฉลี่ย 2 หมื่นคน/วัน ต่ำกว่าที่รฟม.คาดการณ์คือ 6.7หมื่นคน/วัน แต่ไม่น่าห่วงเพราะต้องให้เวลากับประชาชนในการปรับตัวกับการเดินทางรูปแบบใหม่ และไม่เป็นความเสี่ยงต่อ BEM เพราะเส้นนี้รับรายได้เป็นค่าจ้างเดินรถคงที่ตลอดอายุสัญญา และน่าจะเป็นตัวเร่งให้การเจรจาสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายโดยเฉพาะช่วงที่เชื่อมต่อกับสายสีม่วง จบเร็วขึ้น เพื่อความสะดวกของผู้ใช้บริการที่จะเชื่อมต่อได้ เรายังคงแนะนำซื้อ คงราคาพื้นฐานที่ 12 บาท
• (+) EA กำไรสุทธิ 1H16 เติบโต 29% Y-Y เป็น 1.7 พันล้านบาท โดยที่กำไรใน2Q16 ทำได้ 992 ล้านบาทสูงสุดเป็นประวัติการณ์เพราะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ขนาด 90MW ที่จ.พิษณุโลก เข้ามาตั้งแต่ 1 เม.ย. รวมเป็นกำลังการผลิตทั้งหมด 278MW และ 2Q เป็น high season กำไรใน 1H16 คิดเป็น 40% ของประมาณการทั้งปี ที่เราคาด 4.3 พันล้านบาท +60% Y-Y เพราะในช่วง 2H16 จะะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่จะทยอยเข้ามา 126MW และปีหน้าอีก 260MWซึ่งเราคาดกำไรปีหน้า +21% Y-Y คงราคาพื้นฐาน 28 บาท คงคำแนะนำซื้อ
• (+) BJC วันนี้มีประชุมนักวิเคราะห์เรื่องผลการดำเนินงานใน 2Q16 ซึ่งผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จากนี้ไป BJC จะเริ่มฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มเห็น Synergy จากการซื้อ BIGC(BJC ถือ 98%) โดยกำไรของ BIGC กลบภาระดอกเบี้ยจ่ายจนหมด และใน 3Q16น่าจะมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยนราว 1 พันล้านบาท เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ +43% Y-Y แต่EPS -50% Y-Y จากการเพิ่มทุน แต่ EPS ปี 2017 จะโตก้าวกระโดด 105% Y-Y ทำให้ PE ปีหน้าเหลือ 25 เท่า ต่ำสุดในกลุ่ม Modern trade ราคาพื้นฐานปีหน้า 54 บาทแนะนำซื้อ
• (0) PTTGC เกิดเหตุไฟไหมุ้ถังเก็บน้ำเสียเมื่อเช้ามืดวันนี้ ไม่กระทบตัวเครื่องจักรของโรงงานแต่บริษัทต้องหยุดเดินเครื่องเพื่อตรวจสอบสาเหตุก่อน โรงงานนี้สร้างรายได้ให้คิดเป็น 10% ไม่กระทบประมาณการและราคาเป้าหมายของเราที่ 70 บาท ยังแนะนำซื้อ
• (+) กกพ.เปิดซองราคาโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้เช้านี้ โดยจะเพิ่มอีก 16โครงการซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนหลังจากกกพ.ประกาศให้ผ่านรอบเทคนิคไปแล้ว 28โครงการเมื่อวันที่ 5 ส.ค. จึงรวมเป็น 44 โครงการ รวมเป็น 338.3MW ผู้ได้รับเลือกจะต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ภายใน ธ.ค. 2018 ระวัง Sell on fact ในระยะสั้นเรายังคงชอบ TPCH (ราคาเป้าหมายปีนี้ 20.50 บาท) ที่สุดในกลุ่มนี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
22 ส.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ก.ค.)
23 ส.ค. - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ส.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่น
ผู้บริโภค (ส.ค.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ก.ค.)
24 ส.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ก.ค.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ก.ค.)
26 ส.ค. - สหรัฐ: 2Q16 GDP (ตลาดคาด +1.1% Q-Q ลดลงจากคาดการณ์ครั้งแรก
ที่ +1.2%), การประชุมประจำปีของ Fed ที่ Jackson Hole
29 ส.ค. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ก.ค.)
31 ส.ค. - ไทย: TM (ราคา IPO 3 บาท) เริ่มเทรด, ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจ
เดือน ก.ค.
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ส.ค.)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดลบเล็กน้อยท่ามกลางปริมาณซื้อขายที่เบาบางเนื่องจากเจ้าหน้าที่ FED หลายคนได้ออกมาส่งสัญญาณความเป็นไปได้ในการขึ้นดอกเบี้ย
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดในแดนลบนำโดยหุ้นในกลุ่มเหมืองและธนาคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาดูราคาน้ำมันดิบที่ผันผวน
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมจากบรรยากาศการลงทุนที่ไร้ปัจจัยบวกใหม่ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูถ้อยคำแถลงของประธาน FEDในวันศุกร์นี้
(0) ค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้นเล็กน้อย ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.60-35.72 บาท/ดอลลาร์
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.30 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 48.52 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยกรอบการบวกเริ่มแคบลบหลังจากที่ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 6 วัน และเริ่มมีจังหวะปรับตัวลงเช้านี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในเดือนหน้า
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 11.00 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,346.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังเจ้าหน้าที่ FEDออกมาระบุว่ามีความเป็นไปได้ในการขึ้นดอกเบี้ย
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research