- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 18 August 2016 16:29
- Hits: 3000
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ไม่ไปไหน
คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบวันนี้ หลังจากรายงานการประชุมของ Fed ล่าสุดเดือน ก.ค. ชี้ให้เห็นว่า คณะกรรมการที่มีสิทธิ์ออกเสียงมีจำนวนก่ำกึ่งกันพอดี ระหว่างผู้ที่เห็นว่าควรขึ้นดอกเบี้ยในไม่ช้ากับผู้ที่เห็นว่าควรประวิงเวลาไปก่อน ผู้มีส่วนในตลาดหุ้นและตลาดการเงินต่างๆ ก็มีความเห็นกันไปคนละทาง เช่นกัน ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอันที่จะชี้ทิศทางของตลาด ออกจะเป็นกลางๆด้วยซ้ำ
หุ้นเด่นวันนี้ : SIRI (Bt1.75; BUY, AWS TP Bt2.24)
เลือก SIRI สำหรับการลงทุนวันนี้ จากประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ คาดว่าครึ่งหลังของปี 2559 จะมีการออกโครงการใหม่อีก 12 โครงการ รวม 34.5 พันล้านบาท แยกเป็นไตรมาส 3/59 จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 5.8 พันล้านบาท และไตรมาส 4/59 จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 28.7 พันล้านบาท โดยโครงการที่คาดว่าเป็น Flag Ship ได้แก่ The Base Garden พระราม 9 (2.1 พันล้านบาท) จะเปิด Presales ในวันที่ 10-11 ก.ย. นี้ โครงการ 98 Wireless (8.2 พันล้านบาท) จะสร้างเสร็จราวและเริ่มโอนได้ในไตรมาส 4/59 ขายไปได้แล้ว 40% โครงการใหม่ The Monument ทองหล่อ (6 พันล้านบาท) The Line ปฎิพัทธ์ (5.0 พันล้านบาท) เป็นต้น การรับรู้รายได้ช่วงครึ่งปีหลังจะมากกว่าในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งจาก Backlog ที่มี 32,000 ล้านบาท คาดว่าถึงปัจจุบันก็สามารถรับรู้รายได้ค่อนข้างแน่นอนแล้วราว 75% เราคาดว่ายังเป็นสัดส่วน 40%:60% ซึ่งเราเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นของ SIRI ในช่วงครึ่งปีแรกปรับเพิ่มขึ้นมาเป็น 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 29.3% เราคาดหวังว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ SIRI จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราคาดการณ์กำไรปกติในปี 2559 เติบโต 20.3% YoY เป็น 3.2 พันล้านบาท และปี 2560 เติบโต 9.4% YoY เป็น 3.5 พันล้านบาท จุดเด่นสำคัญทางธุรกิจการเงิน คือ PER ต่ำเพียง 8.0 เท่า ในปี 2559 และลดเป็น 7.2 เท่า ในปี 2560 PBV อยู่ที่ 0.95 เท่า และปันผลตอบแทนสูงถึง 6.8% ต่อปี ปกติจ่ายปีละครั้ง แต่ในปีนี้จะเป็นครั้งแรกที่จ่ายปันผลระหว่างกาล ประกาศจ่าย XD วันที่ 25 ส.ค.59 จำนวน 0.04 บาท (เราคาดทั้งปีจ่าย 0.12 บาท) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 2.24 บาท ราคาหุ้น SIRI ยังมีแนวโน้มหลักอยู่ในขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิด Monthly Buy Signal แต่ในระยะสั้นและระยะกลางยังอยู่ในช่วงของการปรับฐาน เพราะเกิด Daily & Weekly Sell Signal แต่จะกลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่เมื่อสามารถสามารถปิดตลาดเหนือ 1.79 บาทได้สำเร็จ โดยเป้าหมายแรกอยู่ที่ 2.24 บาท และ 2.72 บาท ตามลำดับ (Resistance: 1.76, 1.77, 1.79; Support: 1.74, 1.72, 1.71)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ธปท.ยังระวังไตรมาส 3/59 จากรายงานแนวโน้มธุรกิจของ ธปท. ภาคธุรกิจไตรมาส 3/59 คาดจะค่อยๆ ดีขึ้นหนุนโดยการบริโภคภาคเอกชนและท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามการลงทุนภาคเอกชนยังไม่เปลี่ยนแปลงเพราะผู้ประกอบการยังรอดูสถานการณ์ (Bangkok Post) ความเห็น: รายงานนี้เก็บข้อมูลจากช่วง เม.ย.ถึง มิ.ย. และไม่ได้คิดผลจากเหตุระเบิดล่าสุดในภาคใต้ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจไตรมาส 2/59 ที่ออกมาดี เรายังเชื่อว่าการเร่งลงทุนของรัฐและนโยบายกระตุ้นยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้น
ร่างเงื่อนไขโครงการบรอดแบนด์เสร็จ กระทรวงไอซีทีได้ร่างเงื่อนไขการประกวดราคาสำหรับโครงการบรอดแบนด์แห่งชาติเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย เราคาดว่าจะประกาศรายชื่อผู้ชนะใน 15 ก.ย. ซึ่งจะเป็นคนหลักในการจัดหาโครงข่ายใยแก้วนำแสง (Bangkok Post) ความเห็น: ข่าวนี้ช่วยบรรเทาความกังวลว่าการรับรู้รายได้ของบริษัทที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ FORTH (7.45 บาท) จะเลื่อนออกไปจากเดิมที่โครงการนี้ล่าช้าไป
เจรจารถไฟสายสีแดงสัปดาห์หน้า การรถไฟแห่งประเทศไทยจะพูดคุยเจรจากับผุ้รับเหมาโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ได้แก่ ITD และ SU Joint Venture (STEC และ UNIQ) ในสัปดาห์หน้าในการที่จะขยายสัญญาการก่อสร้างออกไปเนื่องจากเกิดปัญหาความล่าช้าจากการโยกย้ายพื้นที่ของชุมชน อย่างไรก็ตามการรถไฟฯ คาดว่าจะไม่ทำให้โครงการล่าช้าออกไปและจะเปิดใช้จริงได้ในช่วงต้นปี 2563 (Bangkok Post)
กกพ. มีมติคงค่าเอฟทีไว้เช่นเดิม คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้พิจารณาค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บในงวดเดือนก.ย. - ธ.ค.59 ในอัตรา -33.29 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งมีค่าคงที่เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเอฟทีที่เรียกเก็บในเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2559 (Bangkok Post) ความเห็น: เรามองว่าต้นทุนก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้า รวมไปถึงราคาถ่านหินนำเข้าจะผ่านจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาสสี่ปีนี้ และจะเริ่มทยอยปรับตัวสูงขึ้น และจะส่งผลให้ค่า Ft สูงขึ้นในทิศทางเดียวกัน
ต่างประเทศ
ราคาพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันพุธ เนื่องจากรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ Fed ประจำเดือนก.ค. แสดงว่ามีกรรมการกำหนดนโยบายบางรายคาดว่ามีความจำเป็นในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมก่อนขึ้นอัตราดอกเบี้ย ราคาพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้น 10/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.542% ลดลง 3 bps จากเมื่อวันอังคาร (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเทียบกับเงินยูโรและเงินเยนเมื่อวันพุธ หลังจากรายงานการประชุมของ Fed ประจำเดือนก.ค. แสดงถึงความเห็นพ้องกันว่าจำเป็นต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งถัดไป ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ล่าสุดปรับตัวลง 0.04% อยู่ที่ระดับ 94.753 จุดหลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.3% อยู่ที่ระดับ 95.102 จุดในช่วงต้นของการซื้อขายเมื่อวันพุธ (Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันพุธ หลังจากรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบาย Fed ครั้งล่าสุดบ่งชี้ว่า กรรมการ Fed ยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย (Reuters)
รายงานของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ Fed (FOMC) เปิดช่องในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed คงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิมในรายงานการประชุมครั้งล่าสุดในเดือนก.ค. อย่างไรก็ตาม จากรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายเมื่อวันที่ 26-27 ก.ค. ความเสี่ยงระยะสั้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐได้ลดลงแล้ว และเปิดโอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ กรรมการผู้มีสิทธิออกเสียงบางส่วนมีความเห็นต่างกันเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งกรรมการบางคนคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ นักลงทุนคาดว่าจะมีข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมประจำปีของธนาคารกลางจากทั่วโลกซึ่งจะจัดขึ้นที่เมือง Jackson Hole มลรัฐไวโอมิงในสัปดาห์หน้า (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพุธปรับตัวลดลง กดดันจากหุ้นที่ประกาศผลการดำเนินงานออกมาน่าผิดหวัง อาทิ Wienerberger ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างสัญชาติออสเตรีย และ Carlsberg ซึ่งประกอบธุรกิจเบียร์ รวมไปถึง Admiral ซึ่งเป็นบริษัทประกันสัญชาติสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ตลาดฯ ยังได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มธนาคารท่ามกลางความกังวลต่อฐานะทางการเงินของธ.พ. ใหญ่หลายๆ ราย ทั้งนี้ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลงในปีนี้ไปแล้วราว 30% (Reuters)
เอเชีย :
ยอดส่งออกของญี่ปุ่นร่วงลง 14.0% ในเดือนกรกฎาคม มากสุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลก จากค่าเงินเยนที่แข็งและภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอในต่างประเทศ ตรงกับประมาณนักเศรษฐศาสตร์จากการสำรวจความคิดเห็นของสำนักข่าวรอยเตอร์(Reuters)
BOJ จะดำเนินการ "ทบทวนอย่างเข้มข้น" ของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณและอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ติดลบในที่ประชุม ในเดือนถัดไป หลังจากวางเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ที่ 2% (Reuters)
ตลาดซื้อขายล่วงหน้าเหล็กเซี่ยงไฮ้ในวันพุธที่ผ่านมาขึ้นใกล้จุดสูงสุดนับจากเดือน เม.ย. ได้รับการสนับสนุนจากความพยายาม ของรัฐบาลที่จะลดกำลังการผลิตส่วนเกินในอุตสาหกรรมเหล็ก ซึ่งราคาซื้อขายล่วงหน้าเหล็กเส้นในเซี่ยงไฮ้ ลดลง 0.3% เป็น 2,622 หยวน (หรือ 396 เหรียญสหรัฐฯ) ต่อตัน ผลิตภัณฑ์เหล็กก่อสร้างแตะ 2,687 หยวน ในวันอังคารในระดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ 25 เมษายน (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันที่วิ่งไปเกือบเต็มสัปดาห์ถูกกดดันในวันพุธ หลังการถอนใช้น้ำมันดิบสหรัฐและสต็อกน้ำมันเบนซินผิดคาดถูกหักล้างโดยความกังวลว่าซาอุฯ จะผลิตน้ำมันออกมาทำสถิติแม้จะมีการเจรจาโอเปคเพื่อลดน้ำมันโลกล้นเกิน ราคาน้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าลดลง 5 เซนต์ ปิดที่ 46.53 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล Brent ล่วงหน้าปรับลง 42 เซนต์ปิดที่ 49.65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยได้ไปแตะจุดสูงสุดรอบ 5 สัปดาห์ที่ 49.75 ดอลลาร์ (Reuters)
ราคาทองคงที่วันพุธ หลังจากเคลื่อนไหวทั้งขึ้นลงจากรายงานประชุม Fed ประจำเดือน ก.ค. ออกมาชี้ว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางคาดจะเห็นการขึ้นดอกเบี้ยในไม่ช้าแต่ก็ยังรอข้อมูลเพิ่มเติมประกอบ ราคาทองคำตลาดจรบวก 0.02% ปิดที่ 1,345.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองคำล่วงหน้าสหรัฐลบ 0.6% ปิดที่ 1,348.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก่อนที่ข่าวจะออกมา (Reuters)
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun, FRM (No.49234) Tel: 02 680 5094