- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 August 2016 17:11
- Hits: 4073
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ผันผวน? อิงไปทางปรับลง ภายใต้ที่ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ ที่เป็นบวกเข้ากระตุ้นเพิ่มเติม ขณะที่คาดได้รับ Sentiment ลบบ้างจากการกลับมาขายสุทธิของต่างชาติ ประมาณ 930 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม YTD ยอดซื้อสุทธิสะสมยังอยู่ในระดับที่สูงเกือบ 105,000 ล้านบาท นอกจากนี้แรงเก็งกำไรผลประกอบการ – 2Q/59 ลดลง ทำให้มีการขายทำกำไร – Sell on Fact ออกมา
ส่วนทางด้านประเด็นต่างประเทศ (+) ตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้มีการคาดการณ์ในเชิงบวกว่าเฟดอาจะยังไม่พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ (-) ภายใต้แนวโน้มเศรษฐกิจและการจ้างงาน ของสหรัฐฯ ที่ดีขึ้นตามลำดับ ทำให้เจ้าหน้าที่เฟดอย่างน้อย 2 ราย คาดเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 20 – 21/9/59
ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น คาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน รวมถึง PTT ที่ผลการดำเนินงาน 2Q/59 มีกำไรสุทธิสูงเกือบ 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นทั้ง qoq และ yoyและในระยะกลาง – ยาว คาด Sentiment ยังเป็นบวกจากสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ คาดกระบวนการเลือกตั้ง จะเกิดขึ้นตาม Road Map เดิม ประมาณปลายปี’60 ซึ่งคาดช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนให้ดีขึ้นตามลำดับ
และยังคงติดตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังมุมมองของ ธปท. เปลี่ยนแปลงจากการประชุมครั้งก่อน 2 เรื่องหลัก (1) เริ่มมองว่าการเติบโตของเศรษฐกิจเริ่มมี Downside Risk จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น และ (2) เงินเฟ้ออาจจะกลับเข้าสู่เป้าหมายได้ช้ากว่าที่เคยประเมินไว้เล็กน้อยจากราคาพลังงานที่ต่ำกว่าคาด
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC และ VNG
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK,UNIQ,PYLONและ SEAFCO
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ BCP และ IRPC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี
SET SET50 SET100
1,537.52 -11.59 981.84 -7.22 2,196.93 -17.74
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -84.03, NASDAQ -34.90, S&P -12.00, FTSE -47.27, CAC -37.42 และ DAX -62.56
หลังประธานเฟด สาขานิวยอร์ก ส่งสัญญาณชัดเจนว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า (20 – 21/9/59) เช่นเดียวกับประธานเฟดสาขาแอตแลนตา ภายใต้แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นในช่วง 2H/59 โดยตลาดแรงงานมีการสร้างงานเพิ่มมากขึ้น และเข้าใกล้จุดที่มีความเหมาะสมที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจ (1) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) – ก.ค. ทรงตัว MoM ที่ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับจากกพ. ที่ผ่านมา และ (2) การผลิตภาคอุตสาหกรรม – ก.ค. เพิ่มขึ้น 0.7% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่พ.ย.’57 และสูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%
โดยยังอยู่ระหว่างรอ (1) รายงานการประชุมเฟด (เมื่อ 26-27/7/59) ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณเรื่องแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และ (2) การประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 26/8/59 โดยเฉพาะถ้อยแถลงของประธานเฟด ที่คาดอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยลบเพิ่มจากประเด็นที่กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ เตรียมดำเนินคดีอาญากับบริษัทโฟล์คสวาเกน จากการโกงผลทดสอบการปล่อยมลพิษในรถยนต์ดีเซล
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
22.55 1.96 3.08
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 70,979.21
สถาบัน -3,219.98
บัญชีหลักทรัพย์ -49.69
ต่างประเทศ -929.6
ในประเทศ 4,199.27
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ก.ย. +US$0.84 อยู่ที่ US$46.58ต่อบาร์เรล ภายใต้คาดการณ์ว่าการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันที่ 26-28 ก.ย. นี้ ที่ประเทศแอลจีเรีย ที่ประชุมอาจเห็นชอบให้ตรึงกำลังการผลิต เพื่อพยุงราคาน้ำมันและรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันในระยะยาว และยังได้รับปัจจัยหนุนจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$9.4 อยู่ที่ US$ 1,356.9ต่อออนซ์ ภายใต้ปัจจัยหนุน (1) เงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง และ (2) ข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอของสหรัฐฯ คาดช่วยลดน้ำหนักของการคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -930 ล้านบาท สะสม YTD +104,480 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 17 - 19 ส.ค. 2559
17/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
สต็อกน้ำมัน
18/8/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ผลสำรวจดัชนีกิจกรรมการผลิตเขตมิด-แอตแลนติกเดือนส.ค.
ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ค.
19/8/59 : ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่อง จากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (CENTEL, MINT, ERW) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี’59 ที่คาด อยู่ที่ 33 ล้านคน เพิ่มจากประมาณการเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT
(9) กลุ่มหลักทรัพย์ จากมูลค่าการซื้อขายต่อวันที่สูงขึ้นในเดือน ก.ค. และ ส.ค. เช่น ASP, MBKET
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.02 อยู่ที่ 1.58% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.83 อยู่ที่ 12.64
หุ้นแนะนำ : AP
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788