- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 August 2016 17:03
- Hits: 1010
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
แรงหนุนจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบ หลังเจ้าหน้าที่เฟดออกมาส่งสัญญาณว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นในเดือนหน้า ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.45%, -0.66%, -0.55%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ หลังหุ้นกลุ่มยานยนต์ปรับตัวลงจากคดีความของหุ้น โฟล์คสวาเกน ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.58%, -0.68%, -0.83%, -1.21%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 0.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 0.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.23 ดอลลาร์/บาร์เรล คาดการณ์ว่าอาจมีการตรึงกำลังการผลิตในการประชุมเดือนหน้านี้
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกันกับภูมิภาคสวนทางกับกลุ่ม TIPs ที่ปรับตัวขึ้น แต่ในส่วนของไทยมีแรงขายทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่ทั้งสื่อสาร ปูนซีเมนต์ และธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศปรับตัวขึ้นมาไม่ต่ำกว่า10%รวมปันผลที่บางตัวได้ขึ้นเครื่องหมาย XD ไปแล้ว บวกกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นราว ๆ 1.5-2% รวม ๆ กันแล้วน่าจะได้ผลตอบแทนประมาณ 15% จึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนต่างประเทศที่จะขายทำกำไรปรับพอร์ต เพื่อรอจังหวะซื้อกลับเมื่อราคาอ่อนตัว กอปรกับค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้แข็งค่าอย่างรวดเร็วทำจุดต่ำใหม่ในรอบปีที่ระดับต่ำสุดแถว ๆ 34.51 บาท/ดอลลาร์ และแข็งค่าสุดในรอบ 13 เดือน หลังตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาส 2/2559 ขยายตัวดีกว่าที่ตลาดคาด
แม้จะมีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้มีกระแสข่าวว่าธปท. เริ่มเข้าแทรกแซงค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็วในสัปดาห์นี้ เพื่อป้องกันความผันผวนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากค่าเงินบาทยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจะเป็นอุปสรรคสำคัญต่อธุรกิจ และการปรับตัวของเอกชนและเศรษฐกิจไทย แต่ในส่วนของหุ้นกลุ่มพลังงานมีแรงซื้อเข้ามาหนุนหลังราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นไปทดสอบจุดสูงเดิมแถว ๆ 50-52 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการแห่เก็งกำไรของเฮดจ์ฟันด์ หลังโอเปกส่งสัญญาณเจรจาคงการผลิต เพื่อผลักดันราคาน้ำมันดิบ นอกจากนี้มีข่าวว่ารัสเซียและซาอุฯ กำลังหารือเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดการตรึงการผลิตในการประชุมในเดือนก.ย.นี้ เนื่องจากปัจจุบันกำลังการผลิตในส่วนของ 3 ลำดับแรกของกลุ่มโอเปกผลิตที่เกือบเต็มกำลังการผลิตแล้ว
ทางด้านสำนักงานพลังงานสากล (IEA) รายงานว่า โอเปกผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1.5 แสนบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 33.39 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนที่แล้ว หลังซาอุฯ เพิ่มการผลิตน้ำมันสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และอิหร่านเพิ่มกำลังการผลิตเช่นกัน แต่ทางธนาคารยูบีเอสคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันของอิรักจะลดลงในเดือนนี้ หลังเกิดการโจมตีที่บ่อน้ำมันทางตอนเหนือของอิรัก นอกจากนี้ยูบีเอสคาดว่า การผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกอาจจะลดลงในเดือนส.ค. นี้ เนื่องจากมีความไม่สงบในหลายประเทศ เช่น อิรัก ไนจีเรีย และลิเบีย ส่งผลให้การซื้อขายน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ในส่วนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปปรับตัวลง หลังการแสดงความเห็นของประธานเฟดสาขานิวยอร์กว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบื้ยในการประชุมเดือนก.ย. นี้ แต่อย่างไรก็ตามวันนี้จะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดเดือนก.ค. ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า น่าจะมีความผันผวนเข้ามาต่อเนื่องจากแรงขายทำกำไร
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ปรับตัวขึ้นไปแถว ๆ 1,550-1,570 จุด แนะนำขายทำกำไร
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]