- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 17 August 2016 16:50
- Hits: 875
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : GL, PTTGC
Our Portfolio Aug 2016 : AAV, BEM CK, SCB, TACC
2016SET Target1650
SET ปรับลงเพื่อลดความร้อนแรงช่วงก่อน ซึ่งมองเป็นโอกาสซื้อเพิ่ม!!ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังมีจังหวะแกว่งตัวลงต่อเนื่อง และเคลื่อนไหวอยู่ในด้านลบมากขึ้น หลังจากยังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะบวกต่อขึ้นอีกเกือบ 2% จากคาดการณ์ที่ว่าการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของโอเปกในวันที่ 26-28 ก.ย.ที่แอลจีเรียอาจจะมีการเห็นชอบให้ตรึงกำลังการผลิตก็ตาม โดยเราเริ่มเห็นนักลงทุนต่างประเทศขายทำกำไรหลังจากก่อนหน้านี้มียอดซื้อในหุ้นไทยมาอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มตลาดวันนี้ : บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเริ่มอ่อนแอลงจากแรงขายทำกำไร หลังหลายตลาดขยับขึ้นมาพอควรแล้ว ซึ่งวานนี้ประธานเฟดสาขานิวยอร์กและแอตแลนตาได้ออกมาส่งสัญญาณที่ค่อนข้างชัดเจนว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปเดือน ก.ย. (20-21 ก.ย.) ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดันหนักจากแรงขายในหุ้นกลุ่มรถยนต์ หลังมีรายงานว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐเตรียมดำเนินคดีอาญากับบริษัทโฟล์กสวาเกน จากประเด็นการโกงผลทดสอบการปล่อยมลพิษในรถยนต์ดีเซล อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นในเอเชียหลายแห่งแม้จะปรับตัวลง แต่ก็มีแรงซื้อพยุงเข้ามาให้เห็น ทำให้ FSS คาดว่า SET จะปรับลงในลักษณะพักตัวก่อนขึ้นต่อ โดยเรายังคงเป้าหมายปีนี้ไว้ที่ 1650 จุดอยู่
กลยุทธ์ : แนะนำให้เลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อสะสมช่วง SET ปรับตัวลงได้
แนวรับ 1535-1532 , 1530-1524 จุด
แนวต้าน 1540-1546 , 1549-1551 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TTA, PTTGC, BEC(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาคเป็นวันแรกในรอบ 2สัปดาห์ โดยไหลออกจากไทย US$27ล้าน และเกาหลีใต้ US$21ล้าน ขณะที่ไหลเข้าอินโดนีเซีย US$45ล้าน ทิศทางกระแสเงินทุนเริ่มชะลอตัวลงหลังจากประธานเฟดสาขานิวยอร์กระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า (ประชุม 20-21 ก.ย.)
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (-) ความเห็นของ Fed หลายสาขาทำให้ตลาดกลับทิศ ประธานเฟดหลายสาขาทั้งนิวยอร์ก (Dudley) แอตแลนตา (Lockhart) และซานฟรานซิสโก (Williams) ให้ความเห็นก่อน Fed Minutes คืนนี้ทำนองว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งพอที่จะทนทานการขึ้นดอกเบี้ยได้และควรขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 20-21 ก.ย. นี้ ทำให้การคาดการณ์ว่าFed จะขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 22% จาก 21% Fund Flow เริ่มนิ่งเพื่อรอดู Fedminutes และคำแถลงของ Yellen ในงานประชุมประจำปีที่ Jackson Hole 26 ส.ค. นี้
• (0) ราคาน้ำมันขึ้นต่อเป็นวันที่ 4 จากความคาดหวังในการเจรจาระหว่างกลุ่ม OPECกัย Non-OPEC ประกอบกับความวุ่นวายในไนจีเรียที่ถูกโจมตีท่อส่งน้ำมันดิบของผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เราเชื่อว่าการเจรจาเพื่อ Freeze production น่าจะล้มเหลวเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา เรายังคงคาดราคาน้ำมันเฉลี่ยปีนี้ที่ US$43/บาร์เรล สูงกว่าปัจจุบันที่เฉลี่ยUS$38 YTD แต่เป็นการปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของน้ำมันรอบนี้ 10% กลับไม่มีผลต่อราคาหุ้นกลุ่มน้ำมันและปิโตรฯเลย
• (+) PTTGC ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1H16 ด้วยกำไรสุทธิที่ -34.1% YYคิดเป็นเพียง 38% ของประมาณการทั้งปีของเรา แนวโน้มกำไร 2H16 จะฟื้นโดดเด่นที่สุดในกลุ่มหลังผ่านการหยุดซ่อมโรงงานและผ่านการ Debottleneck แล้วซึ่งทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น บวกกับราคาน้ำมันที่มีทิศทางขาขึ้นช่วยหนุนกำไรของธุรกิจโอเลฟินส์เรายังคาดกำไรปีนี้ 2.57 พันล้านบาท +25% Y-Y คงราคาพื้นฐานปีนี้ 70 บาท แนะนำซื้อ
• (+) BJC กำไรสุทธิผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 2Q16 และจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆตั้งแต่ 3Q16เพราะค่าใช้จ่ายดีลซื้อ BIGC ลดลง ส่วนกำไรของ BIGC (BJC ถือ 98%) กลบภาระดอกเบี้ยจ่ายจนหมด และจะมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยนราว 1 พันล้านบาท เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ +43% Y-Y แต่ EPS -50% Y-Y จากการเพิ่มทุน แต่ EPS ปี 2017 จะโตก้าวกระโดด105% Y-Y จาก Synergies ที่ได้จาก BIGC ทำให้ PE ปีหน้าเหลือ 25 เท่า ต่ำสุดในกลุ่มModern trade ราคาพื้นฐานปีหน้า 54 บาท มี upside มากสุดในกลุ่มเช่นกัน แนะนำซื้อ
• (-) GL เราลดคำแนะนำเป็นขาย จากเดิมถือ เพราะราคาหุ้นเต็มมูลค่าปีหน้าที่ 41 บาทแล้ว แม้กำไร 2Q16 จะดีกว่าคาด (1H16 +94% Y-Y) ทำให้เราปรับกำไรทั้งปีขึ้น 8%เป็นโตก้าวกระโดด 84% Y-Y และคาดปีหน้า +44% Y-Y เป็น 1.5 พันล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของธุรกิจในกัมพูชา สำหรับธุรกิจที่อินโดนีเซียซึ่งให้บริการตั้งแต่ก.ค. (GL ถือ 65%) เป็นโอกาสมหาศาลแต่เชื่อว่าจะมีนัยสำคัญต่อผลประกอบการตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
17 ส.ค. - สหรัฐ: FOMC Meeting Minutes
18 ส.ค. - ฟิลิปปินส์: 2Q16 GDP
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
19 ส.ค. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประขุม
- ไต้หวัน: 2Q16 GDP
20 ส.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (ก.ค.)
23 ส.ค. - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ส.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ส.ค.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ก.ค.)
24 ส.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ก.ค.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ก.ค.)
26 ส.ค. - สหรัฐ: 2Q16 GDP (ตลาดคาด +1.2% Q-Q annualized เท่าที่คาดครั้งแรก), การประชุมประจำปีของ Fed ที่เมืองแจ็คสันโฮล
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบโดยนักลงทุนจับตาMinute การประชุม FED ขณะที่ประธานสาขานิวยอร์กและแอตแลนต้าต่าออกมาส่งสัญญาณเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้า
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบแม้ราคาสินค้าCommodity จะปรับตัวขึ้น โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นเอเชียที่ปิดลบในช่วงก่อนหน้า
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมโดยราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นถูกหักล้างไปกับ Sentiment เชิงลบจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวลดลง
(0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวหลังจากแข็งค่าขึ้นในช่วงก่อนหน้า ล่าสุดเคลื่อนไหวแถว 34.50-35.65 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.84ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 46.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดบวก 4 วันทำการติดต่อกัน โดยยังได้แรงหนุนจากการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่ม OPEC ในเดือนหน้าซึ่งอาจมีข้อตกลงเรื่องการตรึงกำลังการผลิตได้
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.40 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,356.90 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยยังได้รับอานิสงส์จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่ารวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อที่อ่อนแอของสหรัฐฯ
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research