- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 15 August 2016 17:11
- Hits: 7989
บล.โนมูระ พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ย่อจำกัด และน่าจะฟื้นตัวจากแรงหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายใน แนะนำกลุ่มเด่นรับน้ำมันฟื้น (PTT) + กำไรดี (LH, TPCH)
Nomura : Key Factors
(+) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ WTI +2.3% สู่ $44.49/bbl / Brent +2% สู่ $47.12/bbl
(+) Int Factor: โค้งสุดท้ายงบ 2Q16 ออกมาแล้ว 74.8% กำไรดีกว่า cons คาด +13.6%
(+/*) TH Econ: จับตา 2Q16GDP ไทยวันนี้ Nomura คาด 3.6%y-y / con คาด 3.3%
(*) MSCI Aug16 Rebalance: การรายงาน MSCI รอบนี้ ไม่มีการนำหุ้นไทย เข้า-ออก
(*) Fund Flow: ต่างชาติซื้อ 4556 ลบ., Short Future 729 สัญญา, ซื้อ Bond 631 ลบ.
(-) Int Factor: เหตุระเบิดหัวหิน และภาคใต้ ช่วงสุดสัปดาห์กดดันความเชื่อมั่นระยะสั้น
(-) Currency: ค่าเงินเอเชียอ่อนค่าเล็กน้อยราว 0.1% กดดันเชิง sentiment เล็กน้อย
(-) Japan Econ: 2Q16GDP ญี่ปุ่น ที่ 0.0%q-q จาก +0.5% และต่ำกว่าคาดที่ +0.2%
(-) US Econ: ดัชนียอดค้าปลีก ก.ค. US ที่ 0.0% จาก +0.6% และต่ำคาดที่ +0.4%
(-) Valuation: SET ปัจจุบันเทรด PER16F ที่ 16.68 เท่า สูงกว่า LT Avg PER 14.7 เท่า
SET PER 16F: CNS 16.64x (EPS 93.25) vs Cons.16.68x (LT-Avg 15x)
2017 SET Target: CNS Base-Bull case 1638-1716pts(PER17F 15.75-16.5x)
2016 SET Target: CNS Base 1515 pts (EPS 93.25, PER16.25x)
Nomura Daily Top Picks: PTT, LH, TPCH
Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ ย่อแล้วฟื้นตัว ในกรอบแนวรับ 1542/1533จุด และแนวต้าน1561/1563จุด เหตุการณ์ระเบิดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในหัวหิน และ 7 จังหวัดภาคใต้ เป็น Srntiment เชิงลบ กระทบความเชื่อมั่นของไทย รวมถึงภาคท่องเที่ยวในช่วงสั้น ซึ่งหากพิจารณาข้อมูลในอดีตช่วงเดือน สค. 2015 ซึ่งเกิดเหตุการณ์ระเบิดรุนแรงที่ราชประสงค์ พบว่า SET -2.4%, HOTEL -9%, TRANS -4.8% และทำจุดต่ำสุดหลังจากนั้นราว 1 สัปดาห์ (SET -8.1%, HOTEL-9.7%, TRANS -7.4%) และใช้เวลาราว 2 เดือนฟื้นตัวกลับสู่จุดเดิม แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ระเบิดภาคใต้ในรอบนี้ คาดจะไม่รุนแรงเท่าเหตุการณ์ราชประสงค์ เนื่องภาพการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น และแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง แตกต่างจากปี 2015 ที่อยู่ในช่วงความเชื่อมั่นหดหาย ผสานกับเม็ดเงินจากต่างชาติที่ยังไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ เป็นปัจจัยที่จำกัด Downside ของตลาดได้ ส่วนปัจจัยเพิ่มเติมในประเทศ ยังคงแนะติดตาม 2 ประเด็น คือ 1) การเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนกลุ่มภาคการผลิต (Real Sector) โดยหากพิจารณาล่าสุดมีการรายงานออกมาแล้ว 74.8% ของทั้งหมดที่ตลาดคาดการณ์ พบว่ามีกำไรสุทธิรวม 1.24 แสนล้านบาท ดีกว่าตลาดคาดราว 13.6% โดยมีจำนวนบริษัทที่รายงานงบดีกว่าคาด คิดเป็น 46%ของทั้งหมด ตามคาด 27% และต่ำคาดเพียง 27% สะท้อนทิศทางกำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยโดยรวมนั้นค่อนข้างดีกว่าคาด ซึ่งน่าจะบ่งชี้ถึงโอกาสในการ Upgrade Revision ในช่วงถัดไปได้ เป็นปัจจัยหนุน Upside Risk ต่อ SET เพิ่มเติม ส่วนประเด็นที่ 2 แนะติดตาม การรายงานดัชนี GDP2Q16 ของไทยในวันนี้ โดยมุมมอง Nomura คาดจะเติบโตถึงระดับ +3.6%y-y ดีกว่าไตรมาสก่อนที่ +3.2%y-y เช่นเดียวกับ Consensus ที่คาดจะเติบโต +3.3%y-y (Max consensus 3.9%, Min Consensus 2.7%) โดยหากตัวเลขดังกล่าวออกมาดีกว่าที่ consensus ประเมินไว้ จะเป็น sentiment เชิงบวกกระตุ้นความเชื่อมั่นต่อการลงทุนจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะเพิ่มโอกาสต่อแรงเก็งกำไรของสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่ม หนุนโอกาส SET ยังคงเดินหน้ามุ่งสู่แนวต้าน 1580-1600 จุด ในช่วงถัดไปได้
Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%
Short-Term Strategy : เหตุการณ์ระเบิดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคาดกระทบ sentiment เชิงลบต่อภาคท่องเที่ยวไทยในระยะสั้น แต่ไม่ได้กระทบต่อ earning อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น จังหวะหุ้นท่องเที่ยวย่อเน้นตั้งรับ (AAV, BA, ERW) ส่วนกลุ่มที่อาจจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาพยุง SET ได้ แนะกลุ่ม ENERG (PTT, PTTEP) ขานรับราคาน้ำมั้นดิบที่รีบาวน์กว่า 2% ผสานกับกลุ่มที่ 2H16 Earning Momentum เด่น เน้นกลุ่ม FOOD (CPF, GFPT), BANK (BBL, SCB, KBANK), รับเหมา (CK, BEM, SCC), Renewable Energy (TPCH, PSTC) ส่วนประเด็น MSCI ประกาศไม่มีหุ้นไทย และ EM-ASIA เข้าออกรอบนี้จะเป็นปัจจัยลบต่อ BJC สั้นจากการเก็งการเพิ่มน้ำหนักล่วงหน้า จึงแนะนำนักเก็งกำไรจากประเด็นนี้ขายเล่นรอบออกไปก่อน ส่วนนักลงทุนถือต่อได้ สำหรับนักลงทุนระยะกลางแนะนำ หุ้นใน Theme “Road to Election 2017” (SCB, BBL, BJC, SCC, LH, CK และ ERW) และ หุ้น Portfolio Top picks AUG 2016 CPF, AAV, BJC, ERW, BCP, PSTC สำหรับวันนี้แนะนำ êDaily Top Picks: PTT, LH, TPCHê
Mid-Long Term Strategy : คาดตลาดเดือน สค 2016 ผันผวนช่วงต้น ก่อนฟื้นตัวเชิงบวก สู่ต้าน 1550/1565จุด จากความกังวลการทำประชามติช่วงสุดสัปดาห์แรกของเดือน ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และ Flow ยังเป็นแรงหนุน กลยุทธ์เน้นลดพอร์ตหุ้นเหลือ 50% ช่วงต้น ก่อนรอประเมินรอยต่อการเมืองที่ชัดเจนค่อยกลับมาเพิ่มน้ำหนักอีกครั้ง ดังนั้น Defensive Play น่าสนใจได้แก่ 1) ICT ปันผลสูง(ADVANC, INTUCH) 2) BANK 2H16 Earning Recovery (BBL, SCB, KBANK) 3) Earning 2Q16 Play (BCP, CPF, GFPT, BJC, ERW, WORK, GLOBAL) 4) Seasonal (AAV, BCH) 5) พลังงานทางเลือก ประมูล Biomass 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ (TPCH, PSTC) และ ความคืบหน้าไฟฟ้าขยะอุตฯ 50MW (BWG) และ 6) โครงการรัฐฯ (CK, ITD, PYLON, SEAFCO, ILINK, SCC) สำหรับ Portfolio Top picks AUG 2016 CPF, AAV, BJC, ERW, BCP, PSTC ส่วน DARK Horse IVL, BRR, TPCH
Investment Theme :
· 2016 AEC Connectivity :
Wellness & discover Thainess: ERW, KAMART, BCH, BDMS
Infrastructure: BBL, CK, AMATA. DCC
Spending Recovery: ROBINS, CI, LH, TCAP
Eco Friendly: SCC, KSL, BRR, NYT
· 3Q16 Top Picks : Inflation Play SCB, BBL, TCAP, HMPRO, GLOBAL, CPF, GFPT
: Earning Momentum Play PYLON, ERW, PSTC
Fundamental & Tactical Daily Top Picks :
PTT (Nomura TP374**): Support 335/330 Resistance 342/350
Theme : Oil Price Rebound
Earning Outlook : คาดกำไรสุทธิ 2Q16 ที่ 2.63 หมื่นล้านบาท (+11%y-y) จากต้นทุนการผลิตก๊าซที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับบริษัทลูกในกลุ่มปิโตรเคมีมีแนวโน้มกำไรที่ดีขึ้น
Valuation : ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ PER16F 11.7 เท่า และ PER17F เพียง 11 เท่า
Catalyst : ราคาน้ำมันดิบโลกเริ่มสร้างฐานได้บริเวณ 40 เหรียญต่อบาร์เรล และกำลังฟื้นตัวขึ้นรอบใหม่ / แรงเก็งการประชุม OPEC เดือน กย. เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม
LH (Trading Buy): Support 9.9/9.6 Resistance 10.4/11
Theme : Property Tax Reduction
Earning Outlook : คาดกำไรสุทธิ 2Q16F เติบโต y-y, ลดลงเล็กน้อย q-q ประกอบกับ คาด Norm Profit 16F เติบโตสูงสุดในกลุ่มฯที่ +13% y-y ตามการโอน Backlog คอนโดที่มากขึ้นจากกลุ่ม Low-rise
Valuation : ราคาเป้าหมาย 9.8 บาทต่อหุ้น ปัจจุบันซื้อขายที่ PER16F 16.0x เท่า
Catalyst : คาดกำไรสุทธิ 2Q16F เติบโต y-y, ลดลงเล็กน้อย q-q โดดเด่นจาก Presale กลุ่ม Low rise โดยเฉพาะกลุ่ม High-end segment
TPCH (TP24.2*): Support 19/18.6 Resistance 20/21
Theme : Biomass Bidding 36 MW
Earning outlook : คาดกำไรสุทธิปี 2016F เติบโตที่ 229.1 ลบ. เติบโต 391.3% y-y จากการ COD โรงไฟฟ้าชีวมวลถึง 3 โครงการพร้อมกันและเปลี่ยนสัญญาซื้อขายไฟโครงการช้างแรกทัน
Valuation : มูลค่าเหมาะสมปี 2017F ที่ 24.20 บาทต่อหุ้น โดยในปี 2019F เมื่อบันทึกรายได้บนทุกโครงการชีวมวลแล้วจะส่งผลให้ PER19F ลดลงสู่ระดับเพียง 7x เท่า
Catalyst : เตรียมพร้อมประมูลโครงการชีวมวลภาคใต้ 36 MW โดยในเบื้องต้น TPCH เป็นตัวเต็งผ่านคุณสมบัติด้านเทคนิคทั้งหมด 36 MW
Note : TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)
Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
[email protected] : 0-2287-6771, 0-2638-5771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
[email protected] : 0-2287-6871, 0-2638-5871
Chavaratt Changpakorn : Assistant Strategist
Yada Kampalanonwat: Assistant Strategist