- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 11 August 2016 18:13
- Hits: 3661
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ : แกว่งตัวออกด้านข้าง
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ คาดจะแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยแรงขายทำกำไรจากการทยอยประกาศงบไตรมาสที่ 2/59 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ออกมามากขึ้น คาดจะยังกดดันทิศทางตลาด ส่วนเช้านี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนต่างชาติวานนี้ยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อที่ 3,496 ล้านบาท
แนวรับ/แนวต้าน : 1535/1560 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
กลยุทธ์ : ทยอยลดพอร์ต ซื้อหุ้น กลุ่ม ธนาคาร ค้าปลีก รับเหมา ที่ยัง laggard
หุ้นแนะนำ
SPRC (15.00) : คาดกำไร 2/59 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ส่งผลให้กำไรครึ่งปี แรกโดดเด่นที่ประมาณ 4.5 พันล้านบาท ส่งผลให้ตลาดจะปรับประมาณการขึ้น นอกจากนี้คาดบริษัทจะประกาศจ่ายปันผลสำหรับในงวดครึ่งปี แรกคิดเป็นอัตราผลตอบแทนกว่า 5% อีกทั้งแนวโน้มผลประกอบการใน 3Q59 ยังอยู่ในระดับสูงจากค่าการกลั่นที่ยังดีอยู่ประกอบกับนโยบายการลดต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
ASEFA (7.50) : กำไร 2Q59 โดดเด่น (+47% yoy) จากงานทั้งภาครัฐและเอกชนและต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลงจากงานที่เพิ่มขึ้น เราแนะนำให้ทยอยซื้อสะสม เนื่องจาก ASEFA ได้รับผลบวกจากทิศทางของอุตสาหกรรมที่มีความต้องการไฟฟ้ าโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีการประมูลใหม่ๆเข้ามา นอกจากนี้ในช่วง 2H59 ยังเป็ นช่วง high season ของธุรกิจ ทั้งนี้ปัจจุบัน ASEFA ซื้อขายที่ PEปี59 เพียง 13 เท่า และคาดอัตราปันผลที่ประมาณ 4%
CK (40.00) : คาดกำไรปี 59 โดดเด่นอย่างมาก เนื่องจากอาจมีการรับรู้งานส่วนเพิ่มเติมในโครงการเขื่อนไซยะบุรีมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบาท (ปกติรายได้ประมาณไตรมาสละ 9 พันล้านบาท) อีกทั้งคาดว่าจะมีงานประมูลของทางภาครัฐและเอกชนออกมาเรื่อยๆไม่ว่าจะป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสี ส้ม เหลือง ชมพู และสุวรรณภูมิเฟส 2 นอกจากนี้ CK ได้รับผลประโยชน์จากการเป็ นผู้ถือใหญ่ในบริษัทฯ BEM CKP และ TTW ซึ่งอยู่ในอุตสาหกกรมที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มเติบโต
THAI (31.75) : คาดผลประกอบการ 2Q59 จะดีขึ้น yoy แต่ลดลง qoq เนื่องจากเป็นช่วง low season ซึ่งหลังจากนี้เราคาดว่าผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่องอย่างน้อยจนถึง 1Q60 จากช่วง high season นอกจากนี้บริษัทยังได้รับผลบวกจากการท่องเที่ยวที่ยังแรงต่อเนื่องโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวชาวจีนและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ต้นทุนลดลงจากการปฏิรูปองค์กรในปี 58 และการรับรู้ต้นทุนราคาน้ำมันที่ตํ่าเต็มที่เมื่อเทียบกับปี 58 ที่ทำประกันราคาน้ำมันในระดับสูงที่ 80-90 เหรียญ/บาเรลล์
ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการลงทุน
ปัจจัยภายในประเทศ
+ ร.ฟ.ท. คาดรายได้บริหารทรัพย์สินปีนี้ทะลุเป้ าถึง 3.4 พันล้าน หลังนโยบายรัฐไฟเขียวหยิบที่ดินทำเลทองเปิดพีพีพีพร้อมให้ประเมินราคาใหม่ เฟสแรกเตรียมส่ง 12 สถานีศักยภาพสูงทั่วประเทศเป็ นตัวชูโรง "อาคม" จี้สรุปโมเดลแต่ละแห่งให้ชัดภายใน 3 เดือน ด้านรถไฟไทย-จีนนัดถกคืบหน้าลงทุนปลายเดือนนี้
+ แอร์เอเชียขอร่วมลงทุนพัฒนาสนามบินดอนเมือง "สมคิด" เปิดทาง ทอท.เจรจา ระบุยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก พร้อมสั่ง ทอท.หารือพัฒนาสนามบินในภูมิภาค ด้านบอร์ด ทอท.รับพิจารณาข้อเสนอ พร้อมเปิดเอกชนรายอื่นยื่นข้อเสนอ ขณะกรมท่าอากาศยานเปิดทางเอกชนร่วมพัฒนาสนามบินภูมิภาค
+ "ไทยเบฟ" ปูพรมขยายธุรกิจ ปั้น "ธุรกิจอาหาร" ผ่าน "ฟู้ด ออฟ เอเชีย" ดันเป็ นอีกเสาหลักธุรกิจในอนาคตนอกเหนือจากสุรา-เบียร์-นอนแอลกอฮอล์ หลังผนึกยักษ์อาหารเอเชีย "แม็กซิม กรุ๊ป" รุกเจาะตลาดเอเชีย ใช้เครือข่ายทีซีซี กรุ๊ปต่อยอดธุรกิจเดินหน้ารักษาแชมป์ ชาเขียวยั่งยืน
ปัจจัยต่างประเทศ
- ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงจากระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในวันพุธ หลังราคาน้ำมันร่วงลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานขณะที่หุ้นวอลท์ ดีสนีย์พุ่งขึ้นรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดและการเข้าซื้อกิจการบริษัท BAMTech ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 37.39 จุดหรือ 0.2% สู่ 18,495.66, ดัชนี S&P 500 ปิ ดลดลง 6.25 จุดหรือ 0.29% สู่ 2,175.49 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวลง 20.90 จุดหรือ 0.4% สู่ 5,204.58
+ ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นอังกฤษปิดปรับขึ้นในวันพุธเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน ในขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินทะยานขึ้น และปัจจัยบวกนี้ช่วยบดบังการดิ่งลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งรูดลงตามราคาน้ำมัน ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดบวกขึ้น 15.12 จุด หรือ 0.22 % สู่ 6,866.42
- ดัชนีนิกเกอิที่ตลาดหุ้นโตเกียวปิ ดลดลง ขณะที่เยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังการเปิ ดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ยํ่าแย่ของสหรัฐ และนักลงทุนขายทำกำไรก่อนวันหยุดของญี่ปุ่น ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิปิ ดตลาดลดลง 29.85 จุด หรือ 0.18% ที่ 16,735.12 หลังจากที่ปรับตัวขึ้นในช่วงบ่ายก่อนที่จะลดช่วงบวกลง
+ ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 2.5 % ในวันพุธ หลังจากสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้สต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐดิ่งลงอย่างรุนแรงก็ตาม ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ย.ดิ่งลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 2.5 % มาปิดตลาดที่ 41.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
0000000000000000000
? 2016 PricewaterhouseCoopers. All rights reserved.