- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 11 August 2016 17:42
- Hits: 3738
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
พักฐาน
คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงด้วยแรงกดดันจากตลาดหุ้นโลกที่ต่างปิดลบ และราคาน้ำมันที่ร่วงลงอีก นักลงทุนทั่วโลกเทขายทำกำไรหลังจากตลาดบวกอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญจากสหรัฐที่จะชี้นำทิศทางตลาดจนวันศุกร์ที่จะมีตัวเลขค้าปลีก นักลงทุนบ้านเราก็คงไม่อยากลงทุนมากนักก่อนวันหยุดยาว สภาพัฒน์ฯ จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 ซึ่งแม้ในระยะหลังนักลงทุนจะมีมุมมองบวกกันมากขึ้นต่อเศรษฐกิจไทย แต่ SET วิ่งไปแล้ว 1.6% ในเดือนนี้ จึงมีโอกาศที่จะมีการขายทำกำไรออกมาด้วย
หุ้นเด่นวันนี้ : DELTA (Bt72.00; NR; 16TP Bloomberg Bt72.75)
บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) เป็นผู้ผลิตชั้นนำระดับโลกด้านชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์พาวเวอร์ซัพพลาย ระบบบริหารจัดการพลังงาน ซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในผู้ได้ประโยชน์จากอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์เหล่านี้ที่จะหนุนจากกระแสรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รวมถึงเสาโทรคมนาคมซึ่งจำเป็นจะต้องมีพาวเวอร์ซัพพลายในแต่ละเสา กำไรสุทธิของบริษัทหนุนโดยผลิตภัณฑ์ชั้นสูงที่ให้มาร์จิ้นที่สูงซึ่งผลิตให้แก่ประเทศพัฒนาแล้ว รวมถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับรถยนต์ซึ่งมีอุปสงค์รองรับต่อผลิตภัณฑ์ระบบควบคุมทางอิเล็กทรอนิกส์สูงโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกรถระดับบนที่น่าจะถูกกระทบโดยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวน้อยกว่า DELTA น่าจะได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในระยะกลางถึงระยะยาวจากที่นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐและประเทศอื่นๆน่าจะยิ่งไปคนละทิศทางกัน
นอกจากนี้ บริษัทมุ่งเน้นที่จะขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ เช่น อาเซียนและอินเดียที่ซึ่งมีโอกาสและอุปสงค์รองรับ ซึ่ง DELTA ได้ลงทุนตั้งศูนย์วิจัยและโรงงานผลิตในภูมิภาคเหล่านี้ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ยี่ห้อตนเพื่อผู้ใช้ปลายทางในประเทศนั้นๆ โดยตรง บริษัทยังให้บริการเชิงโซลูชั่นด้านพลังงานอีกด้วย โดยศูนย์วิจัยและโรงงานคาดว่าจะเสร็จปี 60 และ 61 ตามลำดับ จากค่าเฉลี่ยการคาดการณ์ที่สำรวจโดย Bloomberg แม้กำไรของ DELTA น่าจะหดตัว 8%
สำหรับปีนี้ เพราะค่าใช้จ่ายจากการขยายธุรกิจและการวิจัยพัฒนา แต่คาดว่าจะฟื้นและเติบโต 11% ในปีหน้า Price Pattern ของ DELTA ยังคงมีความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal แม้ว่าปัจจุบัน Price Pattern ของ DELTA ยังคงมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิด Monthly Sell Signal อยู่ก็ตาม ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ DELTA จากความแข็งแกร่งที่เกิดขึ้น คาดว่ามีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 75.25 บาท ซึ่งหาก Price Pattern ของ DELTA สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 75.25 บาทได้สำเร็จ จะมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 79.50 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 83.75 บาท ตามลำดับ โดย DELTA มีจุด Stop Loss ระยะสั้นในรอบนี้อยู่ที่ 70.75 บาท (แนวต้าน: 72.50, 73.00, 73.75; แนวรับ: 71.50, 70.75, 70.25)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ไทย-จีนคุยโครงการระบบรางเพื่อสรุปรายละเอียด ไทยและจีนจะจัดการประชุมครั้งที่ 13 เดือนนี้เพื่อสรุปแผนก่อสร้างและการเวนคืนที่ดินสำหรับระบบราง 252 กม. สาเหตุที่ทำให้การเจรจายืดเยื้อเพราะเจ้าหน้าที่ของแต่ละประเทศประมาณการต้นทุนต่างกัน (Bangkok Post)
กพช.ผ่านแผนพัฒนาระบบไฟฟ้ารองรับเขตศก.พิเศษ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบหลักการแผนงานพัฒนาระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 1 (SEZ1) ใน 6 พื้นที่จังหวัดชายแดน นอกจากนี้ที่ประชุม กพช. ยังได้เห็นชอบในหลักการแนวทางการลงทุนปรับปรุงและก่อสร้างระบบส่งและระบบจำหน่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) วงเงินรวมกว่า 7,350 ล้านบาท (The Nation) ความเห็น: เรามองว่ารัฐบาลกำลังอยู่ในความคืบหน้าเชิงบวกในการสร้างระบบไฟฟ้าพื้นฐานในพื่นที่ทางภาคเหนือ โดยเฉพาะระบบสายส่งไฟฟ้าที่ยังไม่เพียงพอในปัจจุบัน เรามองว่า DEMCO น่าจะเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการขยายระบบสายส่งไฟฟ้าดังกล่าว
IVL (34.25 บ.) รายงานกำไรสุทธิงวด 2Q59 อยู่ที่ 5.95 พันลบ. ปรับตัวสูงขึ้น 45% QoQ และ 10% YoY (SET/ Bloomberg) ความเห็น: IVL ยังสามารถรายงานกำไรสุทธิได้ในระดับสูงต่อเนื่องในงวด 2Q59 โดยยังคงได้แรงหนุนจากการบันทึกกำไรพิเศษจากการต่อรองราคาซื้อกิจการ โดยในไตรมาส 2Q59 มีการรับรู้จำนวน 3.55 พันลบ. จากการเข้าซื้อกิจการ Cepsa ในสเปน กำไรสุทธิที่รายงานออกมาถือว่าสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 4.23 พันลบ. (Bloomberg consensus) จากกำไรพิเศษดังกล่าวที่มากกว่าคาด ทั้งนี้หากไม่รวมรายการพิเศษข้างต้น กำไรปกติจะอยู่ที่ 3.46 พันลบ. ปรับตัวสูงขึ้น 318% QoQ และ 26% YoY จากการรับรู้กำลังการผลิตใหม่ผ่านการเข้าซื้อกิจการในช่วงที่ผ่านมา
PTTGC (61.00 บ. ซื้อ ราคาเป้าหมาย AWS 67.00 บ.) รายงานกำไรสุทธิงวด 2Q59 ในระดับต่ำอยู่ที่ 4.92 พันลบ. ทรงตัว QoQ และปรับตัวลดลง 45% YoY (SET/ Bloomberg) ความเห็น: ผลประกอบการถือเป็นไปตามที่เราคาดที่ 4.54 พันลบ. และสอดคล้องกับที่ตลาดคาดไว้ที่ 5.24 พันลบ. เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และราคาเป้าหมายไว้เช่นเดิม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็มวันนี้
ต่างประเทศ
ราคาพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันพุธ ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจอันจำกัดและความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความมีประสิทธิผลของนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลก ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีล่าสุดเพิ่มขึ้น 11/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.509% ส่วนราคาพันธบัตรอายุ 30 ปี เพิ่มขึ้น 21/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.229% (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อวันพุธ ขณะที่นักลงทุนรอฟังสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวในการประชุมในเดือนนี้เนื่องจากไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญใหม่ ๆ ออกมาซึ่งอาจส่งสัญญาณความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปิดลดลง 0.53% อยู่ที่ 95.673 จุด หลังจากที่ร่วงลงอยู่ที่ระดับ 95.442 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่วันพฤหัสที่แล้ว (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลดลงเมื่อวันพุธ เนื่องจากไม่สามารถยืนอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้หลังจากการร่วงลงราคาน้ำมันได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนหุ้นวอลท์ ดิสนีย์ปรับตัวขึ้นเนื่องจากมีผลประกอบการที่ดีเกินคาดและมีข่าวการเข้าซื้อกิจการ (Reuters)
ข้อมูลที่น่าจับตามองในลำดับต่อไป น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจสหรัฐและการดำเนินการต่อไปของ Fed เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยจากการประกาศรายงานยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ค. ที่จะมีการเผยแพร่ในวันศุกร์และสุนทรพจน์ของนางเจเน็ท เยลเลน ประธานเฟดในเดือนนี้ (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพุธปรับตัวลดลง โดยราคาหุ้น Novozymes ซึ่งเป็นบริษัท Biotechnology ปรับตัวลดลงหลังจากรายงานผลการดำเนินงานออกมาอ่อนแอ เช่นเดียวกับการปรับตัวลงของราคาหุ้น E.ON ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าและสาธารณูปโภค หลังรายงานผลประกอบการเป็นขาดทุน (Reuters)
เอเชีย :
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นสูงขึ้นในช่วงปลาย ก.ค. เป็นการตอบสนองต่อนโยบายการเงินและการคลังล่าสุด ที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศใช้ ตามความเห็นของ ฟิทช์เรตติ้ง ราคาของพันธบัตรที่มีผลตอบแทนที่ติดลบในญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ในขณะที่ ของยุโรปปรับเพิ่มขึ้น หุ้นทั่วโลกของหนี้สาธารณะที่มีผลตอบแทนติดลบ ก็ลดลงพอสมควรมาอยู่ที่ 11.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ 2 ส.ค. เมื่อเทียบกับ 11.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ 15 ก.ค.(Reuters)
หุ้นจีนปรับตัวลงในวันพุธ จากหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากปรับตัวขึ้นหกวันต่อกัน หุ้นสถาบันการเงินยังอยู่ภายใต้แรงกดดัน หลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแล ตรวจสอบทั่วประเทศ ในกลุ่มธนาคาร การปรับตัวลงถูกชดเชยด้วยความแข็งแกร่
ของหุ้นทรัพยากรและหุ้นวัสดุก่อสร้าง หุ้นเหล็กและถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางความหวังว่าปักกิ่งจะพยายามลดการผลิตที่ล้นตลาดช่วงครึ่งหลังของปี(Reuters)
ความต้องการใช้เหล็กในจีนแข็งแกร่งขึ้น: ฟิวเจอร์เหล็กของจีน มีราคาตีกลับในวันพุธ หลังจากที่ราคาขึ้นไปทำระดับสูงสุดเดือน เม.ย. ความต้องการของเหล็กในจีน กระตุ้นราคาวัสดุก่อสร้าง และนักวิเคราะห์มองแนวโน้มการบริโภคข้างหน้าของเหล็กเส้นจะดีขึ้นมากที่สุด ตลาดฟิวเจอร์สของผลิตภัณฑ์เหล็กก่อสร้างในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ปิดอ่อนตัวลง 0.2% ที่ 2,587 หยวน (389 หยวน) ต่อตัน หลังจากแตะสูงสุด 2,639 หยวน ก่อนหน้านี้ในวันพุธนับตั้งแต่ 26 เม.ย.(Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันร่วงราว 2% วันพุธ หลังจากตัวเลขถอนใช้สต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐหน้าร้อนนี้ถูกหักล้างโดยการเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบที่ไม่เป็นไปตามฤดูกาล สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว US EIA ระบุ เป็นการเพิ่มติดกันรายสัปดาห์ 3 สัปดาห์แล้วซึ่งผิดจากที่ตลาดคาดว่าน่าจะถอนออก 1 ล้านบาร์เรลด้วยซ้ำ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าลบ 1.06 ดอลลาร์สหรัฐ (-2.5%) ปิดที่ 41.71 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล Brent ล่วงหน้าปรับลง 93 เซนต์ (-2.0%) ปิดที่ 44.05 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองปรับเพิ่มวันพุธ เพราะดอลลาร์อ่อนค่าเนื่องจากไม่มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจหลักใหม่ๆ ออกมาที่จะช่วยทำเพิ่มสัญญาณของความแข็งแรงของเศรษฐกิจ ราคาทองคำตลาดจรซึ่งมักถูกจัดให้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเศรษฐกิจและการเงินนั้นเพิ่ม 0.84% ปิดที่ 1,351.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun, FRM (No.49234) Tel: 02 680 5094
0000000000000000000
? 2016 PricewaterhouseCoopers. All rights reserved.