- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 10 August 2016 18:22
- Hits: 936
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
พักหายใจ
คาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ แนวโน้มเป็นบวก หลังจากปรับตัวขึ้นมาพอสมควร ล่าสุดตัวเลขผลิตภาพของแรงงานสหรัฐที่อ่อนแอช่วยลดสถานการณ์ว่า Fed จะรีบขึ้นดอกเบี้ย ขณะเดียวกันก็บ่งชี้ว่ากำไรของ บจ.สหรัฐ อาจจะลดลงต่ออีก แม้ตัวเลขว่าจ้างงานนอกภาคเกษตรจะออกมาแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตามการแสวงหาอัตราผลตอบแทนสูงของเงินทุนโลกน่าจะยังดำเนินต่อซึ่งจะช่วยหนุนหุ้นเอเซียโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีผลตอบแทนสูง ภายในประเทศผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ประกาศกันออกมาส่วนใหญ่สอดคล้องหรือดีกว่าที่เราคาดซึ่งถือว่าดี มหาวิทยาลัยหอการค้าเป็นอีกหนึ่งสถาบันวิจัยชั้นนำที่ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยขึ้น
หุ้นเด่นวันนี้ : SAWAD (ราคาปิด 39.25 บาท, ซื้อ, ราคาเป้าหมายปี 59 ของ AWS 57.00 บาท)
บมจ. ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 เป็นหุ้นเด่นในวันนี้จากการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2/59 และแนวโน้มที่ยังดูสดใสในช่วงที่เหลือของปี โดยที่กำไรในไตรมาส 2/59 อยู่ที่ 434 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% QoQ และ 49.1% YoY การเติบโตดังกล่าวมาจากสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องกับการขยายสาขาของบริษัท ซึ่งสินเชื่อในไตรมาสดังกล่าวเพิ่มขึ้น 13.3% QoQ และ 21.2% YTD และจำนวนสาขาอยู่ที่ 1,896 สาขา เพิ่มขึ้นจาก 1,759 สาขาในไตรมาส 1/59 เราคาดว่า SAWAD จะยังแสดงการเติบโตต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เนื่องจากบริษัทกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น อีกทั้งบริษัทวางแผนที่จะขยายสาขาต่อ โดยตั้งเป้าจำนวนสาขาในปี 59 ที่ 2,000 สาขา นอกจากนี้ การเติบโตของบริษัทน่าจะได้แรงหนุนจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยอีกด้วย ซึ่งรวมถึงธุรกิจบริหารหนี้เสียและธุรกิจใหม่ในประเทศเมียนมาร์ที่ให้บริการสินเชื่อและให้บริการด้านการบริหารจัดการและให้คำปรึกษา ธุรกิจเหล่านี้น่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตโดยรวมของบริษัท เราคาดการณ์กำไรของ SAWAD จะเติบโต 30.2% ในปี 59 และ 40.7% ในปี 60 Price Pattern ของ SAWAD กลับมาเกิดความแข็งแกร่งในระยะสั้นอีกครั้งจากการเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ และหาก SAWAD สามารถกลับมาปิดตลาดรายสัปดาห์นี้ได้เหนือ 38.50 บาท ก็จะทำให้กลับมาเกิดความแข็งแกร่งในระยะกลางเพิ่มเข้ามาจากการกลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ ซึ่งมีลุ้นว่า Price Pattern ของ SAWAD จะกลับมาเกิดความแข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางจากการกลับมาเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal ในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ SAWAD ที่สามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือเป้าหมายเบื้องต้นที่ 39 บาทไปได้แล้ว คาดว่าจะมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 40.75 บาท และมีเป้าหมายสำคัญอยู่ที่ 42.50 บาท ตามลำดับ โดย SAWAD มีจุด Stop Loss ระยะสั้นในรอบนี้อยู่ที่ 36.25 บาท (Resistance: 39.75, 40.50, 41.50; Support: 39.00, 38.25, 37.25)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ม.หอการค้าปรับเศรษฐกิจเติบโตเป็น 3.3% ม.หอการค้าปรับคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจปี 59 ขึ้นเป็น 3.3% จากเดิม 3% เพราะมีสัญญาณที่ดีขึ้นจากการเร่งลงทุนของรัฐบาลและเสถียรภาพทางการเมืองหลังลงประชามติ ม.หอการค้ายังคาดการเติบโตเศรษฐกิจไตรมาส 2/59 ชนะไตรมาส 1/59 ที่ 3.2% หนุนโดยมาตรการกระตุ้นและภาคท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง (Bangkok Post) ความเห็น: การปรับคาดการณ์ชี้ว่าแนวโน้มในช่วงที่เหลือดูสดใสขึ้นและเศรษฐกิจประเทศกำลังฟื้นตัว
อนุมัติมาตรการจูงใจด้านภาษีสำหรับ SME ครม.วานนี้ได้เห็นชอบมาตรการจูงใจด้านภาษีแก่ SME ที่ดำเนินการโดยตัวเจ้าของเองที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลและจ่ายภาษีถูกต้อง ได้แก่การหักลดหย่อนภาษี 60% สำหรับค่าใช้จ่ายนับจาก 1 ม.ค. 60 ลดภาษีธุรกิจเฉพาะเหลือ 0.01% จาก 2% ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและแวต ลดภาษีโอนอสังหาริมทรัพย์เหลือ 0.01% จาก 2% มาตรการภาษีนี้จะมีผลถึง 31 ธ.ค. 60 (Bangkok Post)
ยอดปฏิเสธสินเชื่อบ้านของผู้มีรายได้น้อยช่วงครึ่งปีแรกยังคงสูง สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัยเปิดเผยว่ายอดสินเชื่อบ้านกว่าครึ่งในช่วงครึ่งปีแรกถูกปฏิเสธ ซึ่งจำนวนดังกล่าวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยหลักๆ มาจากการเสนอกู้ของผู้ที่มีรายได้ต่ำซึ่งมีกำลังซื้ออ่อนแอภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัว (Bangkok Post) ความเห็น: เราคาดหวังจะเห็นการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลังภายใต้สถานการณ์ภัยแล้งที่บรรเทาลง รวมไปถึงการค่อยๆ ฟื้นตัวของเศรษฐกิจและแรงหนุนจากมาตรการสนับสนุนต่างๆ ของรัฐบาล
BCP (35.75 บ. ซื้อ ราคาเป้าหมาย AWS 40.50 บ.) รายงานกำไรสุทธิงวด 2Q59 อยู่ที่ 2.4 พันลบ. ฟื้นตัวจากฐานกำไรที่ต่ำในงวด 1Q59 ก่อนหน้าที่ 47 ลบ. แต่ปรับตัวลดลง 13% YoY ผลประกอบการถือเป็นไปตามที่เราคาดที่ 2.2 พันลบ. และสอดคล้องกับที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.3 พันลบ. (Bloomberg consensus) (SET/ Bloomberg) ความเห็น: เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ และราคาเป้าหมายไว้เช่นเดิม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในรายงานฉบับเต็มวันนี้
BLA (45.00 บ.) รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/59 ที่ 9.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 236.4% QoQ และ 409.2% YoY สูงกว่าประมาณการเฉลี่ยบลูมเบิร์ก 109.5% ปัจจัยหลักของกำไรที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวมาจากค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยที่ลดลงเนื่องจากมีการกลับการตั้งสำรองพิเศษ (LAT reserve) จำนวน 9.5 พันล้านบาท นอกจากนี้บริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.32 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 25 ส.ค. 59 (SET)
ต่างประเทศ
ราคาพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันอังคาร จากรายงานตัวเลขอัตราผลผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรที่อ่อนแอบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอาจไม่ขยายตัวรวดเร็วอย่างที่คาดไว้ ทำให้นักลงทุนตัดคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวออกไป ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 6/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.588% ส่วนราคาพันธบัตรอายุ 30 ปี เพิ่มขึ้น 21/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 2.286% (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อวันอังคารหลังจากรายงานอัตราผลผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรที่ลดลง ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลง 0.24% อยู่ที่ 96.174 จุด ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.53% เทียบกับเงินเยนอยู่ที่ 101.88 เยน เงินปอนด์อ่อนค่าลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อวันอังคารหลังจากผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษเผยว่าการเพิ่มวงเงิน QE อาจเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นหากเศรษฐกิจของอังกฤษยังคงตกต่ำต่อไป (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดใกล้ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากราคาน้ำมันที่ลดลงหักกลบการเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพและกลุ่มเทคโนโลยี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนจะปรับตัวลงจากราคาน้ำมันที่ลดลง (Reuters)
อัตราผลผลิตของแรงงานในสหรัฐลดลงติดต่อกัน 3 ไตรมาสในไตรมาส 2/59 เป็นการบ่งชี้ว่ากำไรของบริษัทขนาดใหญ่อาจลดลงต่อเนื่องและการเติบโตของค่าจ้างยังคงชะลอตัว อัตราผลผลิตของแรงงานซึ่งวัดจำนวนผลผลิตรายชั่วโมง ของแรงงานต่อคน ลดลงอยู่ที่ 0.5% ต่อปีในไตรมาส 2/59 เป็นการลดลงยาวนานที่สุดนับแต่ปี 2522 อัตราผลผลิตดังกล่าวลดลงอยู่ที่อัตรา 0.6% ในไตรมาส 1/59 (ยังไม่มีการทบทวนตัวเลขใหม่) ในไตรมาส 2/59 อัตราผลผลิตลดลงอยู่ที่อัตรา 0.4% YoY ซึ่งลดลงเร็วมากที่สุดในรอบ 3 ปี (Reuters)
ข้อมูลที่น่าจับตามองในลำดับต่อไป กำไรของบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐลดลง 5.3% ในปี 2558 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐและราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ก่อนเห็นการดีดกลับขึ้น 8.1% ในไตรมาส 1/59 จากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐ ข้อมูลกำไรของบริษัทขนาดใหญ่ในไตรมาส 2/59 จะมีการเผยแพร่ในเดือนนี้ นอกจากนี้ จีดีพีสหรัฐขยายตัวที่อัตรา 1.2% ต่อปีในไตรมาส 2/59 หลังจากที่ขยายตัว 0.8% ในไตรมาส 1/59 อาจมีการปรับตัวเลขประมาณการการขยายตัวของจีดีพีในไตรมาส 2/59 ขึ้นเล็กน้อยหลังจากมีรายงานเมื่อวันอังคารเกี่ยวกับสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนมิ.ย. (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันอังคารปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่น ซึ่งนับเป็นการปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 โดยได้แรงหนุนจากผลการดำเนินงานที่ประกาศออกมาดีของ Munich Re ซึ่งเป็นบริษัทรับประกันภัยต่อ รวมไปถึงบริษัทโทรคมนาคม Altice (Reuters)
เอเชีย :
ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรหลักของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ 8.3% MoM ในเดือน มิ.ย. ส่งสัญญาณว่างบลงทุนเริ่มฟื้นตัว ตัวเลขดังกล่าวดีกว่าเมื่อเทียบกับประมาณการนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 3.1% YoY การเพิ่มขึ้นของยอดสั่งซื้อหลักที่เป็นตัวบ่งชี้การใช้จ่ายเงินทุนในอีก 6-9 เดือนข้างหน้า ลดลงเพียง 0.9% ในเดือน มิ.ย. เทียบกับประมาณการที่คาดลดลง 4.2% YoY ผลสำรวจผู้ผลิตที่จัดทำโดยสำนักงานคณะรัฐมนตรีคาดการณ์ว่าคำสั่งหลักจะเพิ่มขึ้น 5.2% ในไตรมาส 3/59 หลังจากที่ลดลง 9.2% ในไตรมาส 2/59 (Reuters)
ภาวะเงินฝืดราคาโรงงานของจีนชะลอลงต่อในเดือน ก.ค. เป็นอัตราราคาที่ลดลงช้าที่สุดในสองปีที่ผ่านมา ทำให้ลดความกดดันที่ธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แล้วหันไปโฟกัสการปฏิรูปโครงสร้างและเพิ่มการปล่อยสินเชื่อ ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิตลดลง 1.7% YoY ในเดือน ก.ค.น้อยกว่าเดือน มิ.ย. ที่ลดลง 2.6% (Reuters)
ดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนเพิ่มขึ้น 1.8% YoY ในเดือน ก.ค.เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 1.9% ในเดือน มิ.ย. ต่ำพอกับเดือนที่ต่ำสุดของปี คือเดือน ม.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8% เช่นกัน อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคยังคงต่ำกว่าเป้าหมายอย่างเป็นทางการของจีนประมาณ 3% ในปี 2559 (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันดิบเมื่อวันจันทร์ปรับตัวสูงขึ้น 3% หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) เตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในเดือนก.ย. เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าปรับตัวสูงขึ้น 1.12 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล (+2.5%) มาอยู่ที่ 45.39 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ล่วงหน้าปรับตัวสูงขึ้น 1.22 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล (+2.9%) มาอยู่ที่ 43.02 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำเมื่อวันจันทร์ทรงตัวหลังจากปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ หลังจากก่อนหน้านี้ได้รับแรงกดดันจากโมเมนตัมเชิงบวกทางเศรษฐกิจผ่านข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง โดยราคาทองคำตลาดจรปรับตัวสูงขึ้น 0.07% มาอยู่ที่ 1,335.99 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำสหรัฐฯ ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวลดลง 0.2% มาอยู่ที่ 1,341.30 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ (Reuters)
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun, FRM (No.49234) Tel: 02 680 5094