- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 24 July 2014 21:57
- Hits: 2505
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : แนวต้านจุดสูงเดิม 1,545
Technical : แนวรับ 1,532 / 1,525 แนวต้าน 1,545 / 1,551
หุ้นแนะนำพิเศษ : HMPRO แนวรับ 10.30/9.80 แนวต้าน 11/11.50
หุ้นเด่นรายวัน : SIM MACO ITD CK STEC
วันพุธตลาดหุ้นไทยปิดพุ่ง 20.75 จุด แนวเดียวกับภูมิภาค ขานรับเงินทุนไหลเข้า-รัฐธรรมนูญชั่วคราว โดยดัชนี SET INDEX ปิดที่ 1,541.56 จุด เพิ่มขึ้น 20.75 จุด (+1.36%) มูลค่าการซื้อขาย 47,606.74 ล้านบาท นักลงทุน ต่างชาติขายสุทธิ 762.87 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,500-1,551 นักลงทุน(หรือตลาด)วกกลับเข้าซื้อคืน โดยระดับดัชนีเปิดยืนSMA10วันขึ้นมาซึ่งเป็นสัญญาณซื้อในระหว่างวัน ซึ่งตลาดยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้นตลาด และยังคงคาดหวังเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่ดีขึ้นตามลำดับและการจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว ในขณะที่ SET50 ระดับดัชนีที่วกกลับขึ้นมาและปิดยืน 1,030 ได้มั่นคงเป็นสัญญาณบวกต่อการทดสอบผ่านแนวต้านจุดสูงเดิม 1,035.93 แนวต้านต่อไป 1,040 แนวรับ 1,028-1,025 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,610-19,990 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 19,650-20,030
กลยุทธ์ การคาดการณ์ผลประกอบการฟื้นตัวครึ่งปีหลัง เป็นปัจจัยบวกต่อการถือครองหุ้นระยะกลางและปรับลงแรงซื้อเพิ่ม กลุ่มธนาคาร มีแรงซื้อกลับเพิ่มเข้ามาโดดเด่น การปรับตัวลงซื้อระยะสั้นเพื่อเล่นรอบ KTB BBL KBANK กลุ่มพลังงาน BAPU PTT PTTEP EARTH EGCO กลุ่มสื่อสาร Div. Yieldของกลุ่มและหุ้นรายหลักทรัพย์สื่อสารเพิ่มสูงขึ้น แนะนำทยอยซื้อเข้า หรือปรับลงแรงเข้าซื้อถือระยะกลางเพื่อหวังเงินปันผลตอบแทน ADVANC DTAC INTUCH กลุ่มรับเหมา ปรับตัวลงแรงซื้อเพื่อเล่นรอบ CK STEC หุ้นรายหลักทรัพย์ AOT HMPRO SCC APURE BJCHI ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง
หุ้นแนะนำพิเศษ
HMPRO (ราคาปิด 10.60 ซื้อ เป้าปี 57, 12.50) รายได้มีศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่องจากแผนเปิดสาขาเพิ่ม 11 สาขาในปี 57 แบ่งเป็นโฮมโปร 8 สาขา เมกาโฮม 2 สาขา และในประเทศมาเลเซีย 1 สาขา ใน 2Q57 มีแผนเปิดโฮมโปร 3 สาขา ที่ลำปาง (11 เม.ย.) ประจวบฯ (9 พ.ค.) สุรินทร์ (16 พ.ค.) และเมกาโฮมอีก 1 สาขาที่บ่อวิน จ.ชลบุรี ฝ่ายวิจัยคาดการณ์รายได้จากการขายในปี 57 จะขยายตัวราว 15% เป็น 4.6 หมื่นล้านบาทและคาดการณ์กำไร 3.5 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 15% ซึ่งอาจมี upside จากการขายโฮมโปรสาขาหัวหินเข้ากองทุนรวมฯ ซึ่งอาจเกิดในช่วงครึ่งหลังของปี 57 หากภาวะตลาดเอื้ออำนวย ในช่วง 1Q57 มีกำไรสุทธิ 726 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 5%YoY คิดเป็น 21% ของประมาณการทั้งปี คาดผลประกอบการ 2Q57 เพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY จากการเปิดสาขาใหม่ประกอบกับยอดขายสาขาเดิมยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติจึงเริ่มมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
หุ้นเด่นรายวัน
SIM (ปิด 3.20 ซื้อเก็งกำไร) คาดกำไรสุทธิ 2Q57 จะปรับตัวสูงขึ้นทั้ง QoQ และ YoY โดยมีปัจจัยหนุนจากยอดจำหน่ายโทรศัพท์และสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ในส่วนของความสามารถในการทำกำไรก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน เนื่องจากยอดขายกว่า 70% เป็นสมาร์ทโฟนซึ่งมีมาร์จิ้นที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับการขายโทรศัพท์มือถือ
MACO (ราคาปิด 15.50 ซื้อเก็งกำไร) ผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2557 หลังจาก VGI เข้ามาถือหุ้นมีแนวโน้มสดใสจากเม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้น หลังความมั่นใจผู้บริโภคฟื้น ผู้บริหารยืนยันเป้าปี 2557 รายได้โต 15% จากปีก่อนที่ 745 ล้านบาท ล่าสุดลงทุน 300 ล้านบาทขยายจอแอลอีดี-บิลบอร์ดเพิ่ม เสริมรายรับอนาคต
ITD (ราคาปิด 5.5 ซื้อเก็งกำไร) CK (ราคาปิด 23.4 ซื้อเก็งกำไร) STEC (ราคาปิด 24 ซื้อเก็งกำไร 26.25) หุ้นรับเหมาก่อสร้างได้รับประโยชน์จากบอร์ดสิ่งแวดล้อมแห่งชาติไฟเขียวผลศึกษา EIA 6 โครงการก่อสร้าง วงเงินกว่า 7.2 หมื่นล้านบาท อาทิ โครงการก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* AJD / TFI / TH / TRUE / UV??????????มีผลบังคับใช้ 16 มิ.ย. - 25 ก.ค. 57
* IFEC / PF / SLC???????????????มีผลบังคับใช้ 23 มิ.ย. - 1 ส.ค.57
* EFORL / TSF????????????????มีผลบังคับใช้ 30 มิ.ย. - 8 ส.ค.57
* BTC/ KC/ MAX/ NUSA/ TFD/ VIH / VTE?????มีผลบังคับใช้ 7 ก.ค. - 15 ส.ค. 57
* ABC / ACAP/ AQ / BKD/ EMC/ WIIK?????? มีผลบังคับใช้ 14 ก.ค. - 22 ส.ค. 57
* AIRA / MPG / PAE??????????????มีผลบังคับใช้ 21 ก.ค. - 29 ส.ค.57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 26.91 จุด
ดัชนี ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 26.91 จุด หลัง IMF ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้ลงสู่ระดับ 1.7% จากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 2% นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากความกังวลต่อเหตุการณ์รุนแรงในยูเครนและฉนวนกาซา หลังมีรายงานว่าเครื่องบินรบยูเครน 2 ลำ ถูกยิงตกในพื้นที่ทางภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กลุ่มกบฏควบคุมอยู่ ขณะที่สถานการณ์ในฉนวนกาซาก็ยังน่าวิตก โดยปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซานั้น ได้ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 660 คน และบาดเจ็บอีกประมาณ 4,300 คนทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ลดลง 26.91 จุด หรือ -0.16% ปิดที่ 17,086.63 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 3.48 จุด หรือ +0.18% ปิดที่ 1,987.01 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 17.68 จุด หรือ +0.40%ปิดที่ 4,473.70 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 73 เซนต์
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หลัง EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 4 ล้านบาร์เรล ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงประมาณ 2.5 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากเหตุการณ์รุนแรงในยูเครนและฉนวนกาซาหลังมีรายงานว่าเครื่องบินรบยูเครนถูกยิงตก 2 ลำในพื้นที่ควบคุมของกลุ่มกบฏ ขณะที่เหตุการณ์ในฉนวนกาซามียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 660 คน และบาดเจ็บอีกประมาณ 4,300 คน ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ ปิดที่ 103.12 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 108.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst – ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์