- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 04 August 2016 17:36
- Hits: 1226
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ขึ้นต่อแต่ผันผวน
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ฟื้นตัวต่อแต่ไม่แรง และน่าจะผันผวน (วานนี้รีบาวด์แรงช่วงบ่าย ดีกว่าคาด) ปัจจัยภายนอกเป็นบวกเล็กน้อย หลังราคาน้ำมันเด้ง 3.6% รับตัวเลขสต็อกน้ำมันเบนซินรายสัปดาห์ที่ลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล (หนุนหุ้นพลังงาน) ขณะที่ตัวเลขจ้างงานเอกชนสหรัฐฯ เพิ่ม 1.75 แสนตำแหน่ง (สูงกว่าตลาดคาด) และตลาดการเงินโลกมีความคาดหวังในระดับหนึ่ง ว่าการประชุม ธ.กลางอังกฤษในวันนี้อาจลดดอกเบี้ยสู่ 0.25% และอาจเพิ่มวงเงิน QE อย่างไรก็ดีการฟื้นตัวของ SET น่าจะจำกัด หลังจากนักลงทุนส่วนหนึ่งจะรอผลประชามติของไทย และสัญญาณของฟันด์โฟลว์ชะลอลงในช่วงสั้น หลังนักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายสุทธิเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 เดือน ภาพรวมวันนี้เราจึงมองดัชนีฯ ไซด์เวย์/บวกจำกัด แนะเก็งกำไรในกรอบแคบๆ ไปก่อน รอผลประชามติรัฐธรรมนูญวันอาทิตย์นี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
ซื้อ IFEC* + TPCH / เก็งกำไร AP*
IFEC* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) “Earnings momentum play + Downside จำกัด” 1) โดยกำไรจะเริ่มเป็นขาขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/59 โดย i) ไตรมาส 2/59 – ไตรมาส 3/59 บันทึกกำไรพิเศษรวม > 1 พันล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานธุรกิจหลักมีกำไรแล้ว ii) 2H59 COD โรงไฟฟ้าพลังลม 14MW และโซลาร์สหกรณ์ 6MW iii) ไตรมาส 3/59 รับรู้รายได้การเปลี่ยนสัญญาโรงไฟฟ้าชีวมวล 6.8MW เป็น FiT 2) คาดไตรมาส 3/59 ปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศที่ COD แล้ว ชดเชยโครงการที่ล่าช้า (คาด >50MW ซึ่งไม่อยู่ในประมาณการฯ) 3) การเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชน (คาดออกประกาศฯ ได้ในเดือน ก.ย.) โดยปัจจุบัน IFEC มี PPA โรงไฟฟ้าขยะชุมชน 6MW (จ.สระแก้ว) และธุรกิจรับกำจัดขยะที่ จ.ชลบุรี (300 ตัน/วัน คาดขอ PPA ได้ 5MW) 4) Replacement cost ±6.1 บาท นับเฉพาะโครงการที่ COD แล้ว (±40MW ไม่รวมโครงการที่กำลังก่อสร้าง) + รร ดาราเทวี + เงินสดในมือ
TPCH (เป้า Consensus 22.1 บาท) 1) ประเมินราคาหุ้นพักฐานเสร็จ แกว่งตัวขึ้นทดสอบแนวต้านแรกที่ 19 บาท, 19.6 บาท และถัดไปที่ ±21 บาท แนวรับ 18 บาท 2) แนวโน้ม Earnings momentum เป็นขาขึ้น จากการ COD โรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มในไตรมาส 2/59 และไตรมาส 4/59 รวมถึงการเปลี่ยนสัญญา Adder เป็น FiT ซึ่งจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/59 (คาดกำไรรายไตรมาสบวก QoQ ต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 4/59 เป็นอย่างน้อย)
AP* (เป้าพื้นฐาน 8.8 บาท) 1) ราคาหุ้นวานนี้ทะลุแนวต้าน 7.4 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 7.7 บาท และ 8.0 บาท ตามลำดับ 2) ฝ่ายวิจัยฯยังคงประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมฯ พ้นจุดต่ำสุด ขณะที่การเร่งเปิดโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ จะเป็น Sentiment บวกต่อผู้พัฒนาอสังหาฯติดแนวรถไฟฟ้า 3) PE ไม่แพง ประเมินปีนี้ 8.6 เท่า และลดเหลือ 6.5 เท่าในปีหน้า
หุ้นในกระแส
MACO ประกาศปันผล และเพิ่มทุนแบบ PP แจ้งปันผล 0.018 บ./หุ้น XD 16 ส.ค. และเพิ่มทุนขาย PP ที่ราคา 1.28 บาท/หุ้น จำนวน 334 ล้านหุ้น รองรับซื้อหุ้น 70% ของ บ. มัลติไซน์ จำกัด ที่ทำธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้าน
หุ้นกลุ่มเหล็กแท่งทรงยาว (TSTH, MILL, BSBM) เราประเมินเหล็กแท่งทรงยาวจะมีแนวโน้มที่สดใสกว่าเหล็กแผ่น จากการลงทุนก่อสร้างโครงการภาครัฐฯ ทำให้ดีมานด์เพิ่มขึ้น แนะนำ “เก็งกำไร” MILL ที่ราคา Laggard TSTH และ BSBM
หุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC*, TPCH, GUNKUL*, SUPER, PSTC, UWC) จากประเด็นข่าว กกพ เตรียมเปิดรับซื้อไฟฟ้ากพลังงานทดแทนเพิ่มใน 2H59 > 1 พัน MW รวมถึงประเด็นการลงทุนเฉพาะตัว เราแนะนำ “ซื้อ” หุ้น Top pick 3 ตัวคือ IFEC* (Earnings momentum play + ดีลซื้อธุรกิจ), TPCH (Earnings momentum play + ประมูล FiT) และ GUNKUL* (ดีลซื้อธุรกิจ + วางแผนออก Infrastructure fund) … สำหรับ GUNKUL ราคาหุ้น Oversold ขณะที่มีข่าวบวกเพิ่มเติม วานนี้เซ็นผู้รับเหมาฯก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น 40.4MW FiT 36 เยน/MW กำหนด COD ไตรมาส 4/61
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (ITD*, UNIQ*, CK*, STEC*, SEAFCO, PYLON) และวัสดุฯ (SCC*, TASCO*) จากการเร่งผลักดันแผนการลงทุนนโยบายภาครัฐฯ (มอเตอร์เวย์ + รถไฟฟ้า + รถไฟรางคู่ + รถไฟความเร็วสูง) เลือก CK* เป็น Top pick ของกลุ่มรับเหมาฯตัวใหญ่ เลือก PYLON เป็น Top pick กลุ่มรับเหมาตัวเล็ก (งานเสาเข็ม) และ TASCO* เป็น Top pick หุ้นกลุ่มวัสดุฯ
หุ้นมีข่าว
(+) กนง. คงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% “…คณะกรรมการฯ ประเมินว่า “...เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ทำได้ต่อเนื่องตามคาดและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ตามรายได้และความเชื่อมั่นของครัวเรือนในภาคเกษตรที่ปรับดีขึ้น...” (ธนาคารแห่งประเทศไทย) ภาวะเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง เรายังคาดว่า กนง. คงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ไปจนถึงปีหน้า ขณะที่ดัชนีเศรษฐกิจหลักยังคงขยายตัวต่อเนื่อง จึงไม่มีเหตุผลจำเป็นที่จะต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ในทางตรงกันข้าม อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจรายไตรมาสและรายปีที่ยังคงต่ำกว่า 4.0% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวในระดับที่ไม่สูง เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ กนง. ยังไม่จำเป็นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น เรายังคงคาดว่าอัตราการขยายตัว GDP ปี 2559 ไว้ที่ 3.4% และ กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ไปจนถึงปีหน้า ดัชนีเศรษฐกิจหลักรายเดือนที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นเทียบกับไตรมาสที่ 1/59 โดยเฉพาะผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัว 1.5% YoY ในไตรมาสที่ 2/59 เทียบกับที่หดตัว 0.9% YoY ในไตรมาสที่ 1/59 เบื้องต้นเราคาดว่า GDP ไตรมาสที่ 2/59 จะสามารถขยายตัวได้ประมาณ 3.5%
(+ หุ้นการบริโภค CPALL*, TWZ) หมดภัยแล้งหนุนกำลังใจชาวบ้าน ลุ้นรัฐเร่งลงทุนดันการบริโภคฟื้น (คมชัดลึก) "ออมสิน" เผยดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฐานรากเดือนมิ.ย.59 กระเตื้อง หลังปัญหาภัยแล้งคลี่คลาย ยังหวังปลายปีรัฐอัดลงทุนหนุนการบริโภคฟื้นปลายไตรมาส 3
(+) TOP* เล็งขยายกำลังกลั่นน้ำมันดิบ เปิดโรงงานผลิตสาร LABและโรงไฟฟ้า 2 โครงการ (ข่าวหุ้น) “ไทยออยล์” เตรียมขยายกำลังกลั่นน้ำมันดิบแตะ 4 แสนบาร์เรล/วัน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ คาดได้ข้อสรุปไตรมาส 3/60 ขณะที่พับแผนลงทุนอินโดฯ-พม่าเหตุไม่คุ้ม วานนี้เปิดโรงงานผลิตสาร LABและโรงไฟฟ้า SPP 2 โครงการ
(-) BA* ไตรมาส2แย่ พิษภาษีย้อนหลัง จ่อขาดทุน268ล. (ข่าวหุ้น) “BA” โดนภาษีย้อนหลังเล่นงาน 447 ล้านบาท โบรกฯ คาดผลประกอบการไตรมาส 2/59 พลิกขาดทุน 268 ล้านบาท แต่เชื่อกระทบแค่ระยะสั้น และต้องจ่ายภาษีเพิ่ม 2-3% ต่อปีเท่านั้น ขณะที่แนวโน้มทั้งปี 59 คาดกำไรพุ่งทะลุ 2,200 ล้านบาท
(+) ECF ผุดคลังสินค้าอาเซียน ออเดอร์ใหญ่ญี่ปุ่นจ่อเสียบ (ทันหุ้น) "อารักษ์ สุขสวัสดิ์" บิ๊กบอส ECF เล็งผนึกพันธมิตรผุดคลังเก็บสินค้าในแถบประเทศอาเซียนอัพยอด สบช่องรวยจ่อคว้าออเดอร์จากลูกค้ารายใหญ่แดนปลาดิบอื้อ คาดโกยรายได้เดือนละ 12-15 ล้านบาท ส่องผลงานครึ่งปีหลังพุ่งกระฉูด ไฮซีซันหนุนงบโตไม่หยุด มั่นใจรายได้มาตามนัดหรือโต 12-15%
(+) TTA แจ้งส่งบริษัทลูก ถือหุ้น “เลเซอร์ เกมฯ” มูลค่าลงทุน36ล้าน (ข่าวหุ้น) TTA ส่งบริษัทลูกเข้าถือหุ้น “เลเซอร์ เกม เอเชีย” ผู้ให้บริการเลเซอร์เกม ในสัดส่วน 30% มูลค่าลงทุน 36 ล้านบาท ลุยทำตามกลยุทธ์ ลงทุนในบริษัทที่เติบโตเร็ว
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 38.85 บาท) ราคาหุ้นเริ่มรีบาวด์จากภาวะ Oversold หากวันนี้ยืนเหนือ 27 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 29 บาท ... คาดงบไตรมาส 2/59 เป็นจุดต่ำสุด ซึ่งตลาดรับรู้ไปพอสมควรแล้ว
TWZ (เป้าพื้นฐาน 0.49 บาท) แกว่งตัวในกรอบ 0.36 – 0.40 บาท แนะนำ “สะสม” และในกรณีที่ Breakout ผ่านแนวต้าน 0.40 บาท ได้แนะนำ “เก็งกำไรตาม” โดยประเมินเป้าหมายทางเทคนิคที่ 0.47 บาท ... ได้สัญญาขายเครื่องพ่วงซิม ADVANC* (เหมือน COM7* ขายเครื่องพ่วงซิม TRUE* ซึ่งราคา COM7 ปรับขึ้นไปแล้ว และจัดตั้ง บ.ลูก ใหม่ลงทุนพลังงานทดแทน)
MILL (ยังไม่มีเป้า Consensus) แกว่งตัว Sideway รอสัญญาณการ Breakout แนวต้าน 1.34 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1.44 บาท แนวรับ 1.28 บาท ... Laggard กลุ่มเหล็กทางทรงยาวอย่าง TSTH และ BSBM
ASK (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) ประเมินพักฐานบริเวณ ±21 บาท แนะนำ “สะสม” ... ปันผลสูง ±7% ต่อปี และแนวโน้มสินเชื่อรถบรรทุกเติบโตตามการก่อสร้างภาครัฐฯ
KTB* (เป้าพื้นฐาน 18.4 บาท) Valuation ถูกด้วย PBV ±0.9 เท่า ขณะที่ประมาณการฯคาด ROE ปี 2559 – 60 ที่ 12 – 13% แนะนำ “สะสม” … เราประเมินราคาหุ้น Laggard หุ้นกลุ่มที่ได้อานิสงส์โครงการภาครัฐฯ (KTB เป็นแบงก์รัฐฯที่ปล่อยสินเชื่อโครงการภาครัฐฯ)
SCC* (เป้าพื้นฐาน 635 บาท) ประเมินเป้าหมายทางเทคนิคที่ ±530 บาท (Stop loss 500 บาท) ... ปันผล 8.5 บาท (XD 8 ส.ค.)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
EGCO* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 225 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ปรับประมาณการฯขึ้นสะท้อนการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้า Masinloc (MPPCL) + การปรับขึ้นค่าไฟของ Star Energy (SEG) และ refinance หนี้ของQuezon (QPL)
BJCHI* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 8.8 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์เป็นกลาง (มีทั้งข่าวดี และลบ) ข่าวดีคือ งานประมูลมากมายที่รออยู่ข้างหน้าและข่าวร้าย คือกำไรไตรมาส 2/59 โตน้อยกว่าคาด อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2559 เอาไว้ที่ 1.28 พันล้านบาท
TVO* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 31.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรไตรมาส 2/59 = 692 ล้านบาท (+26% YoY และ 47.6% QoQ) และคาดจะจ่ายปันผลระหว่างกาล 1.2 บาท/หุ้น อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้ม 2H59 จะชะลอตัวลง จึงแนะนำเพียง “ถือ”
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยสี่วันที่ต้าน 1511 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1511 จุดนั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1511-1524 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1511 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1511-1489 จุด
แนวรับวันนี้: 1501/1496/1489 แนวต้านวันนี้: 1511/1522
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]