บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน3-8-16

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Wednesday, 03 August 2016 18:04; Hits: 994

บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ยังมีช่วงลงอยู่ แนะทยอยสะสม มองทางลงไม่น่าต่ำกว่า 1,475 จุด
KGI คาด SET วันพุธแกว่งลงต่อ แต่แรงขายน่าจะชะลอตามระดับดัชนีฯ ที่เริ่มต่ำลง (วานนี้กองทุนในประเทศขายหนักต่อ ตามคาด) ภาพรวมฟันด์โฟลว์น่าจะน้อยลงในช่วงสั้น แม้เงินบาทแข็งค่าชัดเจน หลังโบรกต่างชาติหลายแห่งแนะนำนักลงทุนล็อกกำไรหุ้นอาเซียนในระยะสั้น ขณะที่ราคาน้ำมันสหรัฐฯ หลุด 40 เหรียญฯ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 เดือน ถ่วงหุ้นพลังงานต่อ ด้านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมูลค่า 28 ล้านล้านเยน (13 ล้านล้านเยนเป็นมาตรการใช้จ่ายโดยตรง และอีก 15 ล้านล้านเยนเป็นมาตรการอุดหนุนทางอ้อม) ไม่ได้ส่งผลดีต่อจิตวิทยาหุ้นเอเชียแต่อย่างใด ด้านปัจจัยภายใน ที่ประชุม กนง. วันนี้น่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50% และไม่ส่งผลต่อ SET เช่นกัน ทั้งนี้หากอิง current PE band เดิมที่ 17 เท่า เรามองดัชนีฯ ที่ 1,475 จุด เป็นระดับที่จะรองรับการปรับฐานรอบนี้ได้ และยังให้น้ำหนัก SET จะฟื้นตัวหลังการทำประชามติรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค. นี้

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
สะสม IFEC* (Downside ต่ำ), ASK (ปันผลสูง) / เก็งกำไร MILL
IFEC* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) 1) ราคาหุ้น Downside จำกัด ใกล้มูลค่า Replacement cost ±6.1 บาท นับเฉพาะโครงการที่ COD แล้ว (±40MW) + รร ดาราเทวี + เงินสดในมือ รอข่าวบวก (Pay-off เปรียบเสมือนซื้อ Call option) 2) คาด Earnings momentum เป็นขาขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/59 (ไตรมาส 2/59 บันทึกกำไรพิเศษจาก รร ดาราเทวีราว 700 ล้านบาท และไตรมาส 3/59 บันทึกกำไรขายที่ดิน รร ดาราเทวีให้ JV อีก 400 – 500 ล้านบาท) 3) 2H59 COD โรงไฟฟ้าพลังงานลม ±14MW และโซลาร์สหกรณ์ 6MW + ภายในไตรมาส 3/59 คาดปิดดีลการซื้อโครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศที่ COD แล้ว ชดเชยโครงการที่ล่าช้า (คาดไม่ต่ำกว่า 50MW ซึ่งไม่อยู่ในประมาณการฯ) 4) การเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชน (คาดออกประกาศฯ ได้ในเดือน ก.ย.) โดยปัจจุบัน IFEC มี PPA โรงไฟฟ้าขยะชุมชน 6MW (จ.สระแก้ว) และธุรกิจรับกำจัดขยะที่ จ.ชลบุรี (300 ตัน/วัน คาดขอ PPA ได้ 5MW)
ASK (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) 1) Dividend yield สูง 7.2% ต่อปี (ปีนี้คาดปันผล 1.53 บาท/หุ้น) และ PE ต่ำเพียง 9.8 เท่า 2) แนวโน้มผลการดำเนินงานเป็นขาขึ้นต่อต่อเนื่อง คาดไตรมาส 2/59 กำไรโต YoY และ QoQ สำหรับ 2H59 คาดต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายลดลง ล้านบาท เพราะจะ Roll-over หนี้ที่ครบกำหนดชำระราว 7.3 พันล้านบาท (อัตราดอกเบี้ยใหม่ลดลง) และแนวโน้มสินเชื่อรถบรรทุกเติบโตตามการลงทุนภาครัฐฯ 3) ประเมินพักฐานบริเวณ ±21 บาท และถัดไปที่ 20.6 บาท หลังทดสอบแนวต้านที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า แนะนำ “สะสม”
MILL (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) ราคา Laggard หุ้นกลุ่มเหล็กที่เน้นเหล็กแท่งยาว (TSTH และ BSBM) ซึ่งใช้ในงานอุตสาหกรรมก่อสร้าง (TSTH +43% YTD, BSBM +93% YTD, ขณะที่ MILL +12% YTD) 2) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัว Sideway รอสัญญาณการ Breakout แนวต้าน 1.34 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1.44 บาท แนวรับ 1.28 บาท

หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มที่คาดได้ Sentiment บวกจากราคาน้ำมันที่ปรับลง (TASCO*, EPG*, TPBI) หุ้นในกลุ่มที่ต้นทุนอิงกับน้ำมันดิบในช่วงที่ผ่านมา Underperfrom ตลาดฯ เพราะราคาน้ำมันปรับขึ้นแรง ล่าสุดราคาน้ำมันดิบปรับลงสู่ระดับ ±40 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ขณะที่ราคาหุ้นในกลุ่มฯยังไม่ปรับขึ้น นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไร TASCO (แนวรับ 25.5 บาท แนวต้าน 27 บาท และ 29 บาท) TPBI (แนวรับ 14.8 บาท แนวต้าน 15.8 บาท) EPG (วานนี้ หลุดแนวรับ 12.3 บาท อาจพิจารณา Stop loss)
หุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC*, SUPER, TPCH, PSTC, UWC, GUNKUL*) กกพ เปิดแผนประมูลพลังงานทดแทน i) โรงไฟฟ้าขยะ โดยแบ่งเป็นขยะอุตสาหกรรม 50MW (ออกประกาศรับซื้อไฟฟ้า ส.ค.) และ ขยะชุมชน 130MW (ออกประกาศฯ ก.ย.) ii) โรงไฟฟ้าชีวมวล 400MW (ออกประกาศฯ ส.ค.-ก.ย.) และ iii) โครงการโซลาร์ส่วนราชการ 519MW (ออกประกาศฯ ส.ค.-ก.ย.) เป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มฯดังนี้
1) หุ้นกลุ่มที่คาดสนใจโรงไฟฟ้าขยะ: ขยะอุตสาหกรรมฯ BWG, GENCO, SUPER / ขยะชุมชน IFEC* (ปัจจุบันรับกำจัดขยะที่ จ.ชลบุรี 300 ตัน/วัน)
2) หุ้นกลุ่มที่คาดสนใจโรงไฟฟ้าชีวมวล: TPCH, PSTC, GUNKUL*, UWC, ECF&FPI (JV ระหว่าง ECF และ FPI)
3) หุ้นกลุ่มที่คาดสนใจโครงการโซลาร์ส่วนราชการ: SUPER, IFEC*, GUNKUL*
4) หุ้นกลุ่มงานรับเหมาฯ (EPC): GUNKUL*, DEMCO, TPOLY
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (ITD*, UNIQ*, CK*, STEC*, SEAFCO, PYLON) และวัสดุฯ (SCC*, TASCO*) จากการเร่งผลักดันแผนการลงทุนนโยบายภาครัฐฯ (มอเตอร์เวย์ + รถไฟฟ้า + รถไฟรางคู่ + รถไฟความเร็วสูง) เลือก CK* เป็น Top pick ของกลุ่มรับเหมาฯตัวใหญ่ เลือก PYLON เป็น Top pick กลุ่มรับเหมาตัวเล็ก (งานเสาเข็ม) และ TASCO* เป็น Top pick หุ้นกลุ่มวัสดุฯ

หุ้นมีข่าว
(+) รฟม.อนุมัติงบประมาณ 693 ล้านบาททำสัญญาชั่วคราวจ้างเดินรถและติดตั้งระบบสถานีเตาปูนกับสถานีบางซื่อ (เดอะ เนชั่น) เราเห็นว่า ข่าวดังกล่าวเป็นบวกต่อ BEM* เนื่องจากการอนุมัติงบประมาณดังกล่าวจะนำไปสู่การเจรจาตรงระหว่างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กับ BEM ในส่วนของการขาดการเชื่อมต่อในสถานีเตาปูน-บางซื่อ ขณะที่ เราเชื่อมั่นว่า BEM จะเป็นผู้ดำเนินการในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีนำเงินอย่างครบวงจร (สายสีน้ำเงินปัจจุบันและส่วนขยายในอนาคต) ที่กำลังจะได้ข้อสรุป เพื่อทำสัญญาในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากประสิทธภาพและต้นทุนการดำเนินงานที่ได้เปรียบ หากจะต้องหาผู้ดำเนินการรายใหม่ ซึ่งจะทำให้ BEM ได้ประโยชน์จากจำนวนผู้โดยสารและค่าบริหารจัดการจากการเกิดขึ้นของรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยายในอนาคต เราแนะนำถือ โดยมีราคาเป้าหมายเท่ากับ 6.85 บาทในขณะนี้
(- กลุ่มยานยนต์) เคาะแพ็กเกจเร่งเครื่อง'รถยนต์ไฟฟ้า' 3หน่วยงานระดมวางกรอบ-สั่งนำเข้ารถโดยสารไฟฟ้า200คันพ.ย.นี้ (คมชัดลึก) ครม.ไฟเขียวแผนส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า มอบหมายบีไอไอ คลัง และอุตสาหกรรมระดมวางกรอบให้ชัดเจน ระยะเร่งด่วนสั่งขสมก.นำเข้ารถโดยสารไฟฟ้า 200 คันภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ด้าน สศอ.ระบุเอกชนที่สนใจลงทุนต้องยื่นแผนเป็นแพ็กเกจ
(+) LOXLEY ลุ้นฮุบเมล์ไฟฟ้า ครม.สั่งเร่งจัดซื้อ200คัน (ข่าวหุ้น) จับตา LOXLEY ฮุบเค้กโครงการรถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน หลัง ครม.สั่ง ขสมก.เร่งจัดซื้อให้ได้ภายในปีนี้ วงการคมนาคมเชื่อ LOXLEY มีโอกาสมากสุด หลังทดลองวิ่งรถต้นแบบมาแล้ว
(+) TSE เป้าPPAญี่ปุ่นปีนี้ 100MW เล็งเสนอขายหุ้นกู้ 3 พันล้านในครึ่งปีหลัง (ข่าวหุ้น) “TSE” เตรียมแจ้งงบ Q2 หลังประชุมบอร์ดวันที่ 11 ส.ค.นี้ มั่นใจกำไร-รายได้ปี 59 โตกว่าปีก่อน เล็งซื้อโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นเพิ่มอีก 50 MW คาดสิ้นปีนี้คว้า PPA ในญี่ปุ่นรวม 100 MW ขณะที่ครึ่งปีหลังเล็งออกหุ้นกู้ 3,000 ล้านบาท
(-) จับตา MTLS*-SAWAD* สินเชื่อประชารัฐถล่ม (ข่าวหุ้น) พอร์ตสินเชื่อเมืองไทยลิสซิ่ง และศรีสวัสดิ์ อาจได้รับผลกระทบ หลัง ครม.ไฟเขียวรัฐออกมาตรการสินเชื่อประชารัฐ กลุ่มอาชีพรับจ้าง อาชีพอิสระ ผ่านแบงก์ออมสิน เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ระยะเวลา 5 ปี ปีแรกดอกเบี้ย 0% ปีที่ 2-3 อัตราดอกเบี้ย 1%
(+) กลุ่มท่องเที่ยวครึ่งหลังสุดพีค 'MINT*-CENTEL*-ERW*'เด่น (ทันหุ้น) กลุ่มท่องเที่ยวตีปีกรับราคาน้ำมันดิ่ง ท่องเที่ยวบูม จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างมาก คาดสิ้นปีอยู่ที่ 33 ล้านคน หนุนผลงาน MINT-CENTEL-ERW ร้อนแรงจับตาแจ้งงบไตรมาส 2/2559 เติบโตแข็งแกร่งแม้เป็นช่วงโลว์ซีซัน จับตาครึ่งปีหลังสุดพีค

หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 38.85 บาท) ราคาหุ้นเริ่มรีบาวด์จากภาวะ Oversold คาดราคาหุ้นปรับขึ้นในกรอบ ±26 และกรณีที่ Breakout แนวต้าน 27 บาทได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 29 บาท ... คาดงบไตรมาส 2/59 เป็นจุดต่ำสุด ซึ่งตลาดรับรู้ไปพอสมควรแล้ว
TWZ (เป้าพื้นฐาน 0.49 บาท) แกว่งตัวในกรอบ 0.36 – 0.40 บาท แนะนำ “สะสม” และในกรณีที่ Breakout ผ่านแนวต้าน 0.40 บาท ได้แนะนำ “เก็งกำไรตาม” โดยประเมินเป้าหมายทางเทคนิคที่ 0.47 บาท ... ได้สัญญาขายเครื่องพ่วงซิม ADVANC* (เหมือน COM7* ขายเครื่องพ่วงซิม TRUE* ซึ่งราคา COM7 ปรับขึ้นไปแล้ว และจัดตั้ง บ.ลูก ใหม่ลงทุนพลังงานทดแทน)
TPCH (เป้า Consensus 22.6 บาท) ประเมิน Sideway สร้างฐาน แนวรับ 18.0 บาท และ 17.8 บาท แนะนำ “ซื้อสะสม” … แนวโน้ม Earnings momentum เป็นขาขึ้น จากการเตรียม COD โรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่ม และการเปลี่ยนสัญญา Adder เป็น FiT ซึ่งจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 3/59 (คาดกำไรรายไตรมาสบวก QoQ ต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 4/59 เป็นอย่างน้อย)
KTB* (เป้าพื้นฐาน 18.4 บาท) Valuation ถูกด้วย PBV ±0.9 เท่า ขณะที่ประมาณการฯคาด ROE ปี 2559 – 60 ที่ 12 – 13% แนะนำ “สะสม” … เราประเมินราคาหุ้น Laggard หุ้นกลุ่มที่ได้อานิสงส์โครงการภาครัฐฯ (KTB เป็นแบงก์รัฐฯที่ปล่อยสินเชื่อโครงการภาครัฐฯ)
SCC* (เป้าพื้นฐาน 635 บาท) ประเมินเป้าหมายทางเทคนิคที่ ±530 บาท (Stop loss 500 บาท) ... ปันผล 8.5 บาท (XD 8 ส.ค.)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
RATCH* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 61 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรจากปกติไตรมาส 2/59 = 1.7 พันล้านบาท (+24.8% YoYและ +27.9% QoQ) โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากโครงการโรงไฟฟ้าหงสา และคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 1.10 บาท/หุ้น
MODERN แนะนำ “ขาย” เป้าพื้นฐาน 7.5 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปกติไตรมาส 2/59 = 24 ล้านบาท (-69.0% YoY และ -54.2% QoQ)

Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยสี่สัปดาห์ที่ 1497 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1497 จุดนั้น อาจทรงราคาไว้ในกรอบ 1497-1524 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1497 จุดนั้น อาจสะสมแรงกดทางลงให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แนวรับวันนี้: 1493/1476 แนวต้านวันนี้: 1502/1511

หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ

อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]