- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 03 August 2016 18:01
- Hits: 617
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ยังคงซึมตัวลงต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า ทดสอบแนว 1,500-1,505 จุด โดยกลุ่มค้าปลีก / กลุ่มโรงพยาบาล เด่นสวนทางกับภาพรวมของตลาดโดยรวม ขณะที่หุ้นที่ขึ้นมาเด่นก่อนหน้าอย่าง BEM / KBANK / PTT / SCB กลับถูกขายมากขึ้นในช่วงบ่าย ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,497.51 จุด ลบ 15.11 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 57,243 ล้านบาท
ต่างชาติยังคงเลือกซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 17 เพียง 73 ล้านบาท Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 1,783 สัญญา แต่คงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ 23,584 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามการประชุมกนง.วันนี้ เราคาดคงอัตราดอกเบี้ย RP1 วันที่ 1.50%
นายกฯ ญี่ปุ่นแถลงรายละเอียดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 13.5 ล้านล้านเยน แต่ตลาดกลับไม่ตอบรับในเชิงบวก
สถาบันภายในประเทศขายสุทธิ 7,792 ล้านบาท ตลอด 4 วันทำการที่ผ่านมา และ YTD ขายสุทธิ 1.9 หมื่นล้านบาท
ประเด็นการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญวันที่ 7 ส.ค. ยังคงกดดันจิตวิทยาการลงทุนของนักลงทุนภายในประเทศ
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 10)
หลัง SET INDEX ปิดหลุดแนว 1,500 จุดวานนี้ ตามที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ด้วยบรรยากาศการลงทุนที่ขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนการลงทุน รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ก็ไม่มากพอที่จะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั่วโลกได้ เงินเยนแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยกดดันจิตวิทยาการลงทุนนักลงทุนภายในประเทศเป็นการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ทำให้เชื่อว่า SET INDEX จะยังอ่อนตัวลงสู่แนว 1,470-1,480 จุด ก่อนการลงประชามติฯ
เมื่อ SET INDEX เปิดฉากปรับฐานลงก่อนถึงวันประชามติฯ เราจึงแนะนำให้นักลงทุน เริ่มกลับมาทยอยสะสมหุ้นหลักที่แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2H59 จะเติบโตเด่น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธนาคาร อย่าง SCB / KBANK กลุ่มค้าปลีก อย่าง CPALL / BJC กลุ่มอสังหาฯ อย่าง LH/ SPALI แต่เราไม่แนะนำให้นักลงทุนสะสมหุ้นหลักใน ICT เพียงเพื่อเงินปันผล เพราะแนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2H59 จะอ่อนแอกว่า 1H59 จากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น
สำหรับการประชุมกนง.วันนี้ เราและตลาดต่างคาดการณ์ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ย RP1 วัน ที่ 1.50% เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของกำลังซื้อภายในประเทศอย่างมีเสถียรภาพ
ด้านกระแสเงินทุนต่างชาติที่ชะลอการซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยนั้น แต่การซื้อสุทธิที่หนาแน่นในตลาดตราสารหนี้มาตลอด 2 วันทำการเป็นประเด็นที่น่าสนใจ
Strategy of the Day
1. สะสม BJC : ราคาปิด 45.75 บาท ราคาเหมาะสม 52.00 บาท
a) ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ในระยะสั้น เนื่องจากคาดว่ามีโอกาสถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI Thailand ซึ่งจะประกาศในวันที่ 11 ส.ค. เนื่องจากการเพิ่มทุนส่งผลให้ขนาด Market Cap เพิ่มขึ้นเป็น 1.4 แสนล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.7 แสนล้านบาท หลังการเพิ่มทุนครั้งที่สองในสัดส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่เสร็จสิ้นการชำระเงินในวันที่ 4 ส.ค.
b) คงมุมมองเชิงบวกในระยะกลาง-ยาว จาก Synergy ที่ครบวงจรจากการเข้าซื้อ BIGC และจะเริ่มเห็นผลชัดเจนตั้งแต่ 2Q59 เป็นต้นไป เนื่องจากจะเป็นไตรมาสแรกที่รวมงบของ BIGC เต็มไตรมาส และผลักดันให้กำไรปกติเติบโต +77% yoy และ +18% qoq เป็น 652 ล้านบาท
c) การนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจำนวน 8.4 หมื่นล้านบาทไปชำระหนี้เงินกู้ใน 3Q59 และ Refinance เงินกู้ระยะสั้นจำนวน 1.3 แสนล้านบาท ด้วยการออกหุ้นกู้ 5 หมื่นล้านบาท และกู้เงินระยะยาว 8 หมื่นล้านบาทจะส่งผลให้ดอกเบี้ยจ่ายเริ่มลดลงตั้งแต่ 3Q59 และผลักดันกำไรสุทธิปี 2560 ให้เติบโตสูงถึง +85.6% yoy เป็น 6,589 ล้านบาท ให้เป็น Top pick ของกลุ่ม เนื่องจากการเติบโตของกำไรสูงที่สุดในกลุ่มค้าปลีก
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิลดลงเหลือ US$390 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$856 ล้าน
ตลาดฟิลิปปินส์ถูกขายเล็กน้อย
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติยังคงพักเงินในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2
นักลงทุนต่างชาติ คงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 17 เพียง 73 ล้านบาท รวม 17 วันทำการซื้อสุทธิทะลุ 40,000 ล้านบาท เป็น 41,786 ล้านบาท และทำให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิทะลุ 80,000 ล้านบาท เป็น 81,704 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิเป็นวันที่ 3 ลดลงต่อเนื่อง เหลือ 1,783 สัญญา รวม 3 วันทำการ Short สุทธิ 8,636 สัญญา คาดว่านักลงทุนกลุ่มนี้กลับมาถือสถานะ Short เพิ่มขึ้น สะท้อนกลับมายังยอด QTD คงสถานะ Short เป็น 3,596 สัญญา แม้ว่า S50U16 ปิดต่ำกว่า SET50 Index แคบลงเหลือ 6.63 จุด จากวันก่อนหน้า Discount มากถึง 10.11 จุด
แต่ตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 เร่งขึ้นเป็น 23,583 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิมากถึง 52,034 ล้านบาท แม้ว่าราคาพันธบัตรไทยเริ่มปรับฐานลงเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ ผ่านพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเพียง 0.71bps จากวันก่อนหน้าลดลงมากถึง 4.12bps ปิดที่ 2.078%
Short-Selling วานนี้
ลดลงเหลือ 701 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 952 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 19 เน้นกลุ่ม Domestic Play ค่อนข้างชัด
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 1,239 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,737 ล้านบาท รวม 19 วันทำการ ซื้อสุทธิทะลุ 50,000 ล้านบาท เป็น 54,036 ล้านบาท โดย NVDR กลับมาเน้นสะสมในรูปแบบ Domestic Play นำโดยกลุ่มธนาคาร ซื้อสุทธิ 547 ล้านบาท ส่วนกลุ่มโรงพยาบาลกลับถูกขายสุทธิสูงสุด 283 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นลบ
- รายได้ส่วนบุคคลเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% mom ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 0.3% mom แต่เท่ากับเดือนก่อนหน้าที่ +0.2% mom เป็นการเพิ่มขึ้นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ทั้งนี้รายได้ ค่าจ้าง และเงินเดือนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
- การใช้จ่ายส่วนบุคคล เดือนมิ.ย.ญ เพิ่มขึ้น 0.4% mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 0.3% mom แต่เท่ากับเดือนก่อนหน้าที่ 0.4% mom โดยเป็นการใช้จ่ายในส่วนของสินค้าไม่คงทนเป็นหลัก
ประธานเฟดสาขา Atlanta มองยังไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้: นาย Lockhart ให้มุมมองของตนต่อทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่น่าเกิดขึ้นในการประชุมครั้งถัดไป หรือ ช่วงที่เหลือของปีนี้ เฟดควรรอและดูตัวเลขเศรษฐกิจที่จะออกมา ว่าพร้อมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
ยุโรป
นายกฯ อังกฤษเสนอแผนพัฒนาอุตฯ ระยะยาว 30 ปี: ต่อการประชุมครม.ด้านเศรษฐกิจและอุตฯ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ด้านเศรษฐกิจหลัง Brexit นายกฯ ต้องการเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพด้านการผลิต ให้รางวัลกับคนที่ทำงานหนัก ด้วยเงินเดือนที่สูงกว่า และสร้างโอกาสใหม่ให้แก่เยาวชน นอกจากนี้ ยังเป็นการหาแนวทางสำหรับการสร้างความสมดุลย์ทางเศรษฐกิจระหว่างภาคบริการ และการกระจายความมั่งคั่งไปยังด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ
เยอรมันอาจชะลอการลดสัดส่วนการใช้ถ่านหินตามแผน: แผนนโยบายที่จะนำเสนอต่อนายกฯ Merkel แสดงถึงความไม่แน่ใจว่าจะคงเป้าหมายการลดสัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้าจากถ่านหิน ตามแผนเดิม ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยแผนเดิมจะยกเลิกการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินภายในปี 2593 แต่ล่าสุดรัฐบาลอาจจะพิจารณาประเด็นนี้หลังการเลือกตั้ง
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางออสเตรเลียลดอัตราดอกเบี้ย: เป็น 1.50% จาก 1.75% สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ ค่าแรงงานที่เติบโตในระดับต่ำ กลายเป็นปัจจัยที่จะยังกดดันเศรษฐกิจไปอีกระยะหนึ่ง แต่การจ้างงานคาดว่าจะฟื้นตัวในระดับปานกลางในระยะอันสั้นนี้
นายกฯ ญี่ปุ่นอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว: วงเงิน 13.5 ล้านล้านเยน โดยแบ่งเป็น 7.5 ล้านล้านเยน ใช้จ่ายโดยรัฐบาลกลาง และรัฐบาลท้องถิ่น ส่วนอีก 6.2 ล้านล้านเยน จะเป็นเงินลงทุนและเงินกู้พิเศษ ที่จะไม่รวมในงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาล ทางนี้นายกฯ คาดหวังว่าวงเงินนี้จะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเป็นไปอย่างยั่งยืนนำโดยอุปสงค์ภาคเอกชน ส่วนที่เหลือจากวงเงินรวมที่เคยประกาศไว้ 28.1 ล้านล้านเยน เป็นส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาครัฐทางตรง ซึ่งอาจไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันที รัฐบาลคาดหวังเศรษฐกิจจะเติบโต 1.3% ในระยะอันสั้นจากมาตรการนี้ โดยโปรแกรมนี้จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจในหลายปี
ไทย
รฟม.ไฟเขียวงบ 693 ลบ.ทำสัญญาจ้าง BEM ชั่วคราว: รฟม. เปิดเผยถึงผลการประชุมเห็นชอบงบประมาณ 693 ล้านบาทให้ รฟม.ดำเนินการทำสัญญาชั่วคราวเพื่อจ้างบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) เข้ามาเริ่มงานติดตั้งระบบรถไฟฟ้า ระบบอาณัติสัญญา และการเดินรถ อย่างไรก็ดี กระบวนการหลังจากนี้ รฟม.จะเร่งสรุปรายละเอียดและรานงานกระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อนเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาติดขัดเนื่องจากเป็นงานเร่งรัดแก้ไขปัญหาการเดินทางของประชาชน อีกทั้งตามคำสั่งของ ม.44 ยังระบุไว้แล้วว่า รฟม.จะต้องเจรจากับบีอีเอ็มเพื่อเข้ามาเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายอยู่แล้ว
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530
0000000000000000000
? 2016 PricewaterhouseCoopers. All rights reserved.