- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 02 August 2016 18:49
- Hits: 1930
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'ซื้อใหม่เน้นค่าบวก; SET ปิดต่ำกว่า 1510 ดูไม่ค่อยดี'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้มีพักฐานจากแรงขายทำกำไร ปิดตลาด SET Index -11.45 จุดที่ 1512.62 นำขายโดยนักลงทุนสถาบันในประเทศซึ่งขายสุทธิถึง 3.6 พันล้านบาท ส่วนอีก 3 กลุ่มที่เหลือซื้อสุทธิ (ต่างชาติซื้อสุทธิ 773 ล้านบาท)
ตลาดคาดการณ์ว่าในการประชุม 4 ส.ค.นี้ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% (ปัจจุบันอยู่ที่ 0.5%) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเนื่องจากมีสัญญาณชะลอตัวหลัง Brexit ส่วนการประชุมกนง.ไทยวันที่ 3 ส.ค.นี้คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ก่อนเพื่อรอดูผลการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 7 ส.ค.59 ซึ่งสำหรับตลาดหุ้นปัจจัยที่จับตาคือ จะมีเลือกตั้งในปี 60 หรือไม่ จะมีแรงกระเพื่อมและความวุ่นวายทางการเมืองเพิ่มขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นมากที่มีความไม่แน่นอน นักลงทุนก็อาจชะลอการลงทุน เม็ดเงินใหม่ที่จะเข้ามาก็อาจไปลงในตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ไม่มีความเสี่ยงด้านการเมืองก่อน และเมื่อมีความชัดเจนว่าไม่มีความวุ่นวายก็ค่อยเข้ามาลงทุนเพิ่ม สำหรับผลประกอบการ2Q59 ก็ทยอยรายงานออกมาและเป็นปัจจัยกระตุ้นการซื้อขายต่อในเดือนส.ค.59 (รวมทั้งมีเรื่องประกาศเงินปันผลระหว่างกาลเข้ามาช่วยหนุนด้วย) กลยุทธ์การลงทุน – ซื้อใหม่เน้นค่าบวกและ SET ไม่ต่ำกว่า 1510 จุด มีหุ้นอยู่ควรพิจารณาแบ่งขายทำกำไรถ้าราคาหุ้นปรับขึ้นสูงกว่าเป้าหมายที่ Aggressive ไปแล้ว สำหรับหุ้นเชิงกลยุทธ์แนะนำวันนี้เป็น JASIFการวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบเล็กๆ โดยอาจมีแกว่งหรืออ่อนตัวจากภาวะ Overbought + Divergence การซื้อใหม่จึงเน้นตามด้วยค่าบวก หรืออ่อนไม่มากกล่าวคือ SET อ่อนตัวแต่ปิดไม่ต่ำกว่า 1510 จุด และไม่ควรหวัง Gap กำไรจากการเข้าซื้อใหม่มากนัก แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1520-1530 จุด
สำหรับการ SCAN หุ้นเทคนิคดี พบว่า หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ STEC, AAV, ASK, MCS ส่วนหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ UV, LOXLEY, SPF, GFPTหุ้นที่หลุด List ได้แก่ TU, CPN, CPF, BH, ILINK และหุ้นที่อยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take profit เป็น SCP, ERW
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
• อังกฤษ : ติดตามผลประชุม BOE 4 ส.ค. คาดออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะมีการประชุมในวันที่ 4 ส.ค.59 ซึ่งตลาดประเมินว่าน่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหลังจากมีสัญญาณทางลบหลัง Brexit โดยอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%(ปัจจุบันอยู่ที่ 0.50%)
- อังกฤษ : ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนก.ค.ลดลงมากสุดในรอบกว่า 3 ปีผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหราชอาณาจักรเดือนก.ค.59 ร่วงลงสู่ระดับ48.2 จาก 52.4 ในเดือนมิ.ย. และลดลงจากระดับ 49.1 ในรายงานเบื้องต้นเดือนก.ค. ซึ่งเป็นการหดตัวหนักสุดในรอบกว่า3 ปี เนื่องจากความไม่แน่นอนก่อนและหลังการลงประชามติเรื่อง Brexit ได้บดบังคำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกที่เพิ่มขึ้นเพราะสกุลเงินปอนด์อ่อนค่า
- ยูโรโซน : หุ้นธนาคารร่วงแรง & กังวลหนี้เสียและไม่ค่อยเชื่อมั่นผล Stress testราคาหุ้นกลุ่มธนาคารในดัชนี Euro Stoxx ดิ่งลงเกือบ 3% เมื่อวานนี้หลังการเปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤต (stresstest) ในภาคธนาคารของยูโรโซนที่ ECB ได้จัดทำขึ้น โดยตลาดไม่เชื่อมั่นในผลการทดสอบครั้งนี้นักเพราะไม่ได้ใส่ผลกระทบที่เข้มงวดอย่างที่ FED เคยทำ และไม่สะท้อนเรื่อง Brexit & ภาวะอัตราดอกเบี้ยติดลบเป็นเวลานานเข้าไปด้วยนอกจากนั้น ธนาคารที่เข้าร่วมในการทดสอบก็มีจำนวนน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวน 123 แห่งที่เข้าทดสอบในปี 57 โดยธนาคารจากกรีซและโปรตุเกสไม่ได้เข้าร่วมในการทดสอบครั้งนี้ ทาง ECB กังวลต่อปัญหาหนี้เสียในยูโรโซน โดยระบุว่าภาคธนาคารมี NPL สูงถึง 1 ล้านล้านยูโร และคาดว่าภาคธนาคารต้องการเงินอัดฉีดราว 9 แสนล้านยูโรเพื่อความมั่นคงรวมทั้งการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบก็กระทบความสามารถในการทำกำไรของภาคธนาคารด้วย
- สหรัฐ : ภาคการผลิตเดือนก.ค.เติบโตน้อยลง & ภาคก่อสร้างชะลอตัวลงผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM อยู่ที่ระดับ 52.6 ในเดือนก.ค. ลดลงจากระดับ 53.2 ในเดือนมิ.ย. ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 โดย -0.6%MoM ในเดือนมิ.ย. แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.58 สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะ+0.5%
- สหรัฐ : เฟดนิวยอร์กมองว่าสหรัฐมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปี 59นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่ายังคงมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แม้แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังคงไม่แน่นอนก็ตาม ด้านโกลด์แมน แซคส์ออกรายงานคาดการณ์เมื่อวันก่อนว่าเฟดมีแนวโน้ม65% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ ขณะที่มีโอกาส 20% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และ 45% ในเดือนธ.ค. หลังจากที่เฟดออกแถลงการณ์หลังการประชุมในเดือนที่แล้วว่า ความเสี่ยงในระยะใกล้ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐได้ลดน้อยลงแล้ว
-/• ตลาดหุ้นสหรัฐ : ปิดอ่อนลงเล็กน้อยดัชนี DJIA ปิด ลดลง 27.73 จุด หรือ -0.15% ดัชนี S&P500 ปิดลดลง 2.76 จุด หรือ -0.13% ดัชนี NASDAQ ปิดเพิ่มขึ้น22.07 จุด หรือ +0.43% โดยการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา ปัจจัยกดดัน คือ ราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงต่อและภาคก่อสร้างที่ชะลอตัวลง
- ราคาน้ำมันดิบ : ร่วงลงกว่า 3%...ลิเบียกลับมาส่งออกเพิ่มสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.54 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 40.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ด้าน BRENT ปิดลดลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 42.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยกังวลยังคงเป็นเรื่องอุปทานล้นเกิน ทั้งนี้ผลการสำรวจล่าสุดพบว่าการผลิตน้ำมันของโอเปกในเดือนก.ค.59 มีแนวโน้มแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยลิเบียเริ่มส่งออกน้ำมันจากท่าเรือขนส่ง 3 แห่งที่เคยถูกปิดก่อนหน้าเพราะความขัดแย้งด้านแรงงาน และจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐเพิ่มอีก 3 แท่น สู่ระดับ 374 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ประเมินว่าราคาน้ำมันดิบจะไม่ร่วงลงไปที่ระดับต่ำสุด 26-27 ดอลลาร์/บาร์เรลที่ทำไว้ใน 1 Q59
+ ราคาทองคำ : ค่อยๆ ขยับขึ้นสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ระดับ1,359.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนลง
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
- ไทย : ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจก.ค.59 ลดลงต่ำกว่า 50ธปท.เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ค.59 ลดลงเป็น 49.4 จาก 50.4 ในเดือนมิ.ย.59 ซึ่งเป็นไปตามความเชื่อมั่นที่ลดลงของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มยานยนต์ กลุ่มการผลิตเหล็กและผลิตภัณฑ์โลหะขั้นมูลฐานส่วนในอีก 3 เดือนข้างหน้าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงประเมินว่าภาวะธุรกิจจะดีขึ้นจากปัจจุบัน โดยดัชนีปรับเพิ่มขึ้นจาก 52.6 เป็น 53.3
• ไทย : คาดกนง.คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ในการประชุม 3 ส.ค.59คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีการประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 3 ส.ค.นี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ เชื่อว่ากนง.จะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% เพื่อรอดูผลการลงประชามติเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญใหม่วันที่ 7 ส.ค.นี้ (โดยประเด็นหลักที่สนใจคือจะมีการเลือกตั้งในปี 60 หรือไม่ถ้าร่างฯไม่ผ่านประชามติ และถ้าจัดทำร่างฯใหม่เพื่อให้มีเลือกตั้งแล้ว ที่มาและเนื้อหาของร่างฯใหม่จะได้รับการยอมรับจากประชาชนส่วนใหญ่หรือไม่) และตัวเลขเศรษฐกิจหลายๆ ส่วนเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังต่ำและไม่เป็นแรงกดดัน
- FSMART (ราคาปิด 17.50 บาท) : ถูกยกเลิกสิทธิ์ขายตั๋วบอลโลกFSMART เตรียมเปิดแถลงข่าววันนี้ (2 ส.ค.59) กรณีที่บริษัทถูกยกเลิกสิทธิ์ขายตั๋วเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้ายโซนเอเชีย ผ่านเว็บไซต์ www.houseofticket.com เนื่องจากมีปัญหาการจองซื้อ และทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยจะมีการคัดเลือกผู้ดูแลการจัดจำหน่ายรายใหม่ซึ่งจะประกาศต่อไป
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]