- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 01 August 2016 18:46
- Hits: 6822
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
นับถอยหลังสู่วันลงประชามติ ร่าง รธน. 7 สค.
วันนี้คาดดัชนีฯ ซิ๊กแซกขึ้น กรอบ 1,517-1,535 จุด
สัปดาห์นี้คาดแนวรับดัชนีฯ 1,517/1,510 จุด (สำหรับนักเล่นรอบควรมี Stop loss ถ้าปิดต่ำกว่า 1,510 จุด) แนวต้าน 1,535/1,540 จุด กลยุทธ์แนะทยอยลดพอร์ตหุ้นที่ขึ้นแรง หันมาซื้อหุ้น Save haven/หุ้นที่ยังไม่ขึ้นแทน คาดปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปรับฐาน จะมาจาก ความไม่แน่นอนจากผลลงประชามติฯ โดยเรามองว่าแม้จะมีข่าวดี กรณีรับร่างฯ ตามโพลคนรับร่างฯล่าสุด ยังคงทิ้งห่างคนไม่รับฯ แต่เราเชื่อว่า Upside ดัชนีจะเริ่มจำกัดเมื่อเข้าใกล้บริเวณ 1,550 จุด ซึ่งเทียบเป็น PE +2SD และ ดัชนีฯไม่เคยผ่านจุดนี้ไปได้ไกล โดยเราคงคาดว่าหุ้น Low beta/หุ้น Cheap value จะเป็นกลุ่มที่ Outperform ตลาดจากนี้ไป เพราะกองทุนในและต่างประเทศมีโอกาสจะหมุนเงินมาพักในกลุ่มดังกล่าว เพื่อลดความเสี่ยงจากการปรับฐานของดัชนีฯ โดยมองการปรับฐานรอบนี้ไม่หลุด 1,500/1,470 จุด (คิดเป็น 3-5% จากระดับ 1,550 จุด) และ ลงมาจะเป็นโอกาสในการเลือกซื้อหุ้นรอบใหม่
แนวโน้มรายเดือน คาดครึ่งแรกของเดือน สค.จะซิ๊กแซกขึ้นทดสอบ 1,550 จุด ก่อนจะปรับฐานตามมา 3-5% ปัจจัยลบ คือ ดัชนีฯหุ้นไทยเข้าโซน PE +2SD (กำไรวิ่งตามราคาหุ้นไม่ทัน) ขณะที่ความไม่แน่นอนจากผลลงประชามติร่าง รธน. และ การรอดูท่าที FED ในงาน Economic symposium ที่ Jackson Hole 25-27 สค.นี้ รวมถึงรอดู BOJ ทำ “Comprehensive verification” ชะลอเพิ่ม QE เพื่อรอประเมินผล QE ที่ออกไปก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ฝรั่งชะลอแรงซื้อ บวกกับเข้าสู่ฤดูพักร้อนของกองทุนต่างประเทศ ส่วน MSCI รอบนี้ (กลางเดือน สค.) จับตาหุ้นมีโอกาสถูกเพิ่มเข้าคำนวณ เช่น BJC TASCO พิจารณาจากปริมาณการซื้อขาย และมูลค่าตลาดที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
หุ้นแนะนำวันนี้ หุ้น Renewable energy รับข่าวดี กกพ. จะประกาศ PPA ต่อเนื่องในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีโดยเมื่อวานศุกร์ประกาศแผน PPA รับซื้อไฟพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง เดือน สค.-กย. จะประกาศงานโซลาร์เฟส 2 ราชการ 400MW และ สหกรณ์ 119MW ขยะอุตสาหกรรม 50MW และ ขยะชุมชน 130MW ช่วงส่งท้ายปีคาดจะมีชีวมวล อีก 400-500MW: แนะ SUPER หลุด Cash balance เป็นครั้งแรก เราคงคาดงบ 2Q16 พลิกมีกำไร/โตแรง, GUNKUL ผลตอบรับจาก ผจก.กองทุนต่างประเทศดีมากโดยเราพาไปร่วมโรดโชว์กับ Morgan Stanley สัปดาห์ที่ผ่านมา,
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) MS จัดงาน Thai Corporate Day ที่ Hong Kong และ Singapore เราพบว่ากองทุนต่างชาติ มีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น โดยมีนักลงทุนมาร่วมประชุมกับเรามากกว่าเมื่อปีที่แล้ว 15% บริษัทส่วนใหญ่ที่เราพาไปให้ guidance ที่เป็นเชิงบวกมากขึ้น (bullish) กว่าปีที่แล้ว โดยบริษัทที่ให้ guidance สูงกว่าที่ analyst ทำประมาณการได้แก่ AAV IVL PS TOP (อ่านเพิ่มในฉบับเต็ม)
(+) BH รายงานกำไร 2Q16 ที่ 858 ล้านบาท, เพิ่มขึ้น 1% YoY แต่ลดลง 12% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักอยู่ที่ 848 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% YoY แต่ลดลง 13% QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด กำไร 1H16 คิดเป็น 50% ของประมาณการกำไรทั้งปี พร้อมกันนี้บริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.95 บาท/หุ้น (XD 15/8; จ่าย 26/8) แนวโน้ม 3Q16 เรายังคงคาดกำไรจะเติบโตได้ทั้ง YoY (จากฐานต่ำในปีที่แล้วเพราะ MERS) และ QoQ (จาก high season) เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 250 บาท โดยราคาหุ้นที่ laggard มาก ส่งผลให้มี valuation ที่ถูกสุดในกลุ่ม โดยมี P/E ปี 2016 ที่ 36.7 เท่า (เทียบกับค่าเฉลี่ยโลกที่ 40 เท่า)
(+) MCOTเราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อเก็งกำไร (จากเดิม ขาย) ราคาเป้าหมาย 20 บาท เพราะบริษัทมีโอกาสที่จะได้รับเงินชดเชยกรณีคืนคลื่น 2600MHZ ให้ กสทช. ซึ่งเราคาดจะช่วยเพิ่มมูลค่าหุ้นได้ราว 14.5 บาท/หุ้น *เราแนะให้เก็งกำไรตามโอกาสการได้เงินชดเชยเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับพื้นฐานธุรกิจ* เราคาด 2Q16 จะขาดทุนราว 100 ล้านบาท (กลับจากกำไรใน 2Q15 แต่ขาดทุนลดลง QoQ) โดยคาดรายได้จาก TV จะลดลง 18% YoY เพิ่มขึ้น 4% QoQ และจากที่ 1H16 มีแนวโน้มขาดทุนมากกว่าคาด เราปรับประมาณการทั้งปีขาดทุนเพิ่มขึ้น 86% เป็นขาดทุน 347 ล้านบาท
(+) HMPRO เราปรับคำแนะนำ จาก ถือ เป็น ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 11 บาท จากมุมมองกำไรในไตรมาส 2/59 ที่ดีกว่าคาด จากทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่ยังแข็งแกร่ง ทำให้เรามีการปรับประมาณการกำไรในปี 2559 และ 2560 ขึ้น 4% เรามองว่า HMPRO ถือเป็นบริษัทที่น่าลงทุนในระยะยาว จากอัตราการเติบโตเฉลี่ย 3 ปี (CAGR) ที่ 20% อีกทั้งยังมีโอกาสที่จะปรับประมาณการกำไรจากธุรกิจ Home Service ซึ่งเป็นตัวที่จะทำให้ลูกค้าหันมามอง HMPRO เป็นอันดับต้นๆ เมื่อคิดที่จะปรับปรุงที่อยู่อาศัย และจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ของลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้ในไตรมาส 4/59 บริษัทจะเปิดตัว Home Living 3 แห่ง โดยจะเน้นขายสินค้าครัวเรือนเป็นหลัก ซึ่งจะเป็นการขยายฐานลูกค้าของบริษัทและจับกลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสที่จะเติบโตสูงหนุนการเติบโตในระยะยาว
(0) JASIF (flash result) รายงานกำไร 1.27 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.6% YoY และ 2.6% QoQ เป็นไปตามคาด เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.25 บาท ปัจจุบันเทรดบน dividend yield ในปี 2016-17 ที่ 7.89% และ 8.48% ตามลำดับ
หุ้นมีประเด็น
(+) กลุ่มนิคม, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์: สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผย ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) 2Q16 +1.5% y-y, โดยเดือน มิย. ได้ขยายตัว+0.82% y-y สำหรับอุตสาหกรรมสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ รถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ (ที่มา แนวหน้า 29 กค.)
(+) MAX ปิดดีลซื้อ โรงไฟฟ้าขยะ ราชบุรี-EEP 10MW แผนขายไฟปลายปีนี้ (ที่มา โพส์ตทูเดย์)
(-) กรุงเทพประกันภัย เตรียมเงินสด 300 ล้าน รอหุ้นร่วง 1,400 จุด ช้อนซื้อ ถ้าถึง 1,600 จุด ถึงขายกำไร ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยกระเตื้อง (ที่มา โพส์ตทูเดย์)
(0/-) กลุ่มโรงกลั่น: พลังงานเล็งประกาศเลิกขายโซฮอล์ 91 เริ่ม 1 ม.ค. 61 ส่งผลโรงกลั่นต้องควักกระเป๋าปรับกระบวนการผลิต คาดเงินลงทุนโรงกลั่นละ 1 หมื่นล้านบาท (ที่มา โพส์ตทูเดย์, โลกวันนี้) / เราเห็นว่าข่าวนี้เกินความจริง เพราะ ถ้าเป็นตัวเลขหมื่นล้านบาท นั่นคือการสร้างโรงกลั่นใหม่ โดยในความเป็นจริง โรงกลั่น เพียงแค่ปรับส่วนผสม หรือ นำเข้าส่วนผสมมาแทน เท่านั้น โดยคาดค่าใช้จ่ายต่ำมากไม่ได้สูงอย่างที่เป็นข่าว (ที่มา วิจัย BLS)
(+) TPC เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย SCC และ ถือหุ้นใน TPC 45.35% จะเป็นผู้ที่ทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดใน TPC โดยกำหนดราคาซื้อที่ 40 บาท/หุ้น ซึ่งคาดว่าจะสามารถยื่นคำเสนอซื้อประมาณปลายเดือนต.ค.นี้ และเตรียมนำ TPC ออกจากตลาด (ที่มา ตลท.)
(+) รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมความร่วมมือด้านรถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 12 ว่า ที่ประชุมได้มีการพิจารณามูลค่าโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง(ไฮสปีดเทรน) เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 252.5 กิโลเมตร(กม.) เบื้องต้นได้ประมาณการตัวเลขไว้ที่ 1.79 แสนล้านบาท (ที่มา ไทยรัฐ)
(+) ITD บอร์ด AOT อนุมัติให้จ้าง ITD สร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 12,050 หมื่นล้านบาท โดยมีกำหนดจ้าง 780 วัน (ที่มาแนวหน้า)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) ตลาดหุ้นจีนเตรียมเปิดทำการซื้อขายหุ้นถูกปลดล็อก มูลค่ากว่า 1.7 พันล้านหยวน (ประมาณ 2.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้น โดยมูลค่าการซื้อขายดังกล่าว ต่ำกว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึง 2.16 หมื่นล้านหยวน ตามกฎเกณฑ์ของตลาดจีนนั้น ผู้ถือหุ้นที่ถูกแช่แข็งจะต้องล็อกหุ้นของตนเองไว้เป็นเวลา 1-2 ปี ก่อนที่จะได้รับการอนุมัติให้ซื้อขายในตลาดได้ (ที่มา อินโฟเควส)
(-) เมื่อวานศุกร์ US GDP 2Q16 +1.2% ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 2.50% จากไตรมาสแรก 0.80% (ที่มา Bloomberg)
(-) BOJ 29 กค. เพิ่มการซื้อ ETF จากปัจจุบัน 3 ล้านล้านเยน เป็น 6 ล้านล้านเยน แต่คงดอกเบี้ยจาก -0.1% และขยาย Supplying fund เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจเป็น $24bn จาก $12bn โดยการประชุมรอบหน้าจะออกรายงานทบทวน ผลจากมาตรการฯที่ออกไปก่อนหน้านี้ ว่าช่วยหนุนเศรษฐกิจได้อย่างไรบ้าง “comprehensive verification” (ตลาดกังวลว่า ญี่ปุ่นกำลังหมดกระสุนกระตุ้นเศรษฐกิจ) (ที่มา Bloomberg)
(-) วันจันทร์ US ISM ภาคการผลิต (เดือน กค.) คาดลดลงเหลือ 53 จาก 53.2, EU PMI ภาคการผลิต คาด 51.9 คงที่, เกาหลีใต้รายงานส่งออกเดือน กค. คาด -4.4% จาก -2.7% y-y, จีนรายงาน PMI คาด 50 คงที่, ไทยรายงานเงินเฟ้อ เดือน กค. คาด +0.5% จาก 0.40% y-y(ที่มา Bloomberg)
(0) อังคาร US PCE index คาด 0.20% คงที่, ประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย คาดลดดอกเบี้ยลงเหลือ 1.50% จาก 1.75% (ที่มา Bloomberg)
(0) พุธ ประชุม กนง. คาดคงดอกเบี้ย 1.50%, รายงานการประชุมธนาคารกลาง ญี่ปุ่น, US ISM ภาคบริการคาด 56 จาก 56.5, EU area PMI composite คาด 52.9 คงที่(ที่มา Bloomberg)
(+) พฤหัส US initial jobless claim, ประชุม ธนาคารกลางอังกฤษ คาด ลดดอกเบี้ย ลงเหลือ 0.25% จาก 0.50% และคงวงเงิน QE ที่ 3.75 แสนล้านปอนด์(ที่มา Bloomberg)
(-) ศุกร์ US Nonfarm payrolls (กค.) คาด 1.8 แสนราย ลดลงจาก 2.87 แสนราย, US unemployment คาด 4.8% จาก 4.9%, มาเลเซีย ส่งออกเดือน มิย.คาด -3% จาก -0.9% (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค