- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 22 July 2016 17:56
- Hits: 960
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
เข้าช่วงพักหลังวิ่งมาเหนื่อย รอปัจจัยเพิ่มเติมสัปดาห์หน้า
KGI คาด SET วันศุกร์แกว่งแคบๆ (วานนี้ขึ้นแต่ยืนไม่ได้ ฝั่งกองทุนขายหนัก) แม้ฟันด์โฟลว์จะยังซื้อหนักแต่เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวของปริมาณการซื้อสุทธิเทียบกับวันก่อนหน้า ผนวกกับดัชนีฯ ขณะนี้อยู่ต่ำกว่าเป้าเชิงกลยุทธ์ที่เรามองไว้ที่ 1,530 จุด ไม่มากนัก ภาพรวมปัจจัยภายนอกเปลี่ยนจาก "บวก" เป็น "กลาง" หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับฐานสั้น ขณะที่ ธ.กลางยุโรป (ECB) คงดอกเบี้ยและระดับของนโยบายการเงินไว้ (เป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาด) และคาดว่าตลาดการเงินจะชะลอความร้อนแรงเพื่อรอดูปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า ได้แก่การประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ ในวันที่ 26-27 ก.ค. และการประชุม ธ.กลางญี่ปุ่นวันที่ 28-29 ก.ค. นี้ กลยุทธ์สั้นแนะให้เน้นหุ้นขึ้นช้า (laggards; อ่านเพิ่มเติมในส่วนถัดไป)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เน้นสะสมตัว Laggard + ถูก ASK, KTB*
ASK (เป้าพื้นฐาน 28 บาท) 1) PE ปีนี้ต่ำเพียง 9.35 เท่า ขณะที่แนวโน้มอัตราการเติบโตของกำไรปี 2560 คาดเติบโตมากกว่า 20% จากต้นทุนดอกเบี้ยที่ลดลงจากการ Refinance หนี้ ซึ่งจะทำให้ต้นทุนเงินทุนลดลงเป็น 3.2% จาก 3.4% ในปีนี้ (2H59 ?7.3 พันล้านบาท และ 2H60 อีก ?2.8 พันล้านบาท) 2) แนวโน้มสินเชื่อรถบรรทุก เติบโตจากการลงทุนภาครัฐฯ (ปีนี้คาดโต 10-15% และโตต่อเนื่องใน 2560) 3) รูปแบบราคา Sideway รอสัญญาณการ Breakout แนวต้าน 20.7 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 21.1 บาท และ 22.5 บาท ตามลำดับ (Stop loss ถ้าต่ำกว่า 20 บาท) ... เบื้องต้นคาดกำไรไตรมาส 2/59 โต YoY และ QoQ (รอ Preview ต้นเดือน ส.ค.)
KTB* (เป้าพื้นฐาน 18.4 บาท) 1) Valuation ยัง Laggard ด้วย PBV 0.9 เท่า ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯประเมิน ROE ปี 2559-60 ไว้ที่ 12-13% (ในเชิงทฤษฎีมูลค่าเหมาะสมควรมากกว่า 1 เท่าของ Book Value) 2) รายงานกำไรไตรมาส 2/59 = 8.7 พันล้านบาท ดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯและ Consensus คาด 20% และ 13% ตามลำดับ 3) ราคาหุ้น Laggard หุ้นกลุ่มที่ได้อานิสงส์งานโครงการภาครัฐฯ ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H59 คาดจะดีขึ้น HoH ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
หุ้นในกระแส
งบฯ กลุ่มธนาคารพาณิชย์: วันนี้ฝ่ายวิจัยฯออกบทวิเคราะห์ Alert รายงานงบไตรมาส 2/59
i) KTB* (เป้าพื้นฐาน 18.4 บาท) รายงานกำไรไตรมาส 2/59 = 8.7 พันล้านบาท (+3% YoY และ +15% QoQ) ดีกว่าคาด 20% และดีกว่า Consensus คาด 13%
ii) BBL* (เป้าพื้นฐาน 175 บาท) รายงานกำไรไตรมาส 2/59 = 7.2 พันล้านบาท (-11% YoY และ -14% QoQ) ต่ำกว่าคาด 15% และต่ำกว่า Consensus คาด 13%
iii) KBANK* (เป้าพื้นฐาน 195 บาท) รายงานกำไรไตรมาส 2/59 = 9.4 ล้านบาท (-18% YoY และ -2% QoQ) ต่ำกว่าคาด 17% และต่ำกว่า Consensus คาด 3%
กลุ่มการบริโภคในประเทศ หุ้นหลัก (CPALL*, ROBINS*, GLOBAL*, HMPRO*) หุ้นรอง (TWZ, TACC) หุ้นสื่อโฆษณา (PLANB*, MACO) เราประเมินแนวโน้มการบริโภคในประเทศจะฟื้นตัวใน 2H59 สำหรับหุ้นกลุ่มค้าปลีกกลุ่มหลัก ปรับขึ้นตอบรับประเด็นนี้พอสมควรแล้วจึงแนะนำเพียงเก็งกำไรรับกระแสเงินทุนต่างชาติ และแนะนำ "ซื้อสะสม" หุ้นกลุ่มรอง (TWZ, TACC) รวมทั้งกลุ่มสื่อโฆษณาที่ยัง Laggard (PLANB*, MACO)
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (ITD*, UNIQ*, CK*, STEC*, SEAFCO, PYLON) และวัสดุฯ (SCC*, TASCO*) จากการเร่งผลักดันแผนการลงทุนนโยบายภาครัฐฯ (มอเตอร์เวย์ + รถไฟฟ้า + รถไฟรางคู่ + รถไฟความเร็วสูง) เลือก CK* เป็น Top pick ของกลุ่มรับเหมาฯตัวใหญ่ เลือก PYLON เป็น Top pick กลุ่มรับเหมาตัวเล็ก (งานเสาเข็ม) และ TASCO* เป็น Top pick หุ้นกลุ่มวัสดุฯ
หุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC*, SUPER, TPCH, PSTC, UWC, GUNKUL*) การประมูล FiT โรงไฟฟ้าชีวมวล 36MW เดือนนี้ (โครงการนำร่อง โครงการแรกของไทย) จะนำไปสู่การเปิดประมูลโครงการอื่นๆตามมาใน 2H59 - 1H60 เลือก IFEC* (อยู่ระหว่างเจรจาซื้อพลังงานทดแทนในต่างประเทศ คาดประกาศเร็วๆนี้ + รอการเปิดประมูล FiT พลังงานลมในไทยช่วงปลายปีนี้ - ต้นปีหน้า) และ TPCH (โรงไฟฟ้าชีวมวล คาดเปิดประมูลล๊อตใหญ่ 400MW ปลายปีนี้) เป็นหุ้นเด่น
หุ้นมีข่าว
(+) คสช. มีคำสั่งใช้ ม.44 เร่งขั้นตอนเจรจาร่วมลงทุนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินภายใน 30 วัน (ข่าวหุ้น) เราเห็นว่า ข่าวดังกล่าวเป็นบวกต่อ BEM* เนื่องจากบริษัทเป็นผู้ให้บริการเดินรถรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเริ่มแรก (บางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 20 กม.) ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนขยายจะมีระยะทางเพิ่มขึ้นอีก 27 กม. ซึ่ง BEM จะมีความสามารถเหนือกว่าผู้ให้บริการรายอื่นจากความได้เปรียบเชิงต้นทุน (cost effectiveness) นอกจากนี้ บริษัทยังจะได้ประโยชน์จากจำนวนผู้โดยสารและค่าบริหารจัดการจากการเกิดขึ้นของรถไฟฟ้าสีน้ำเงินส่วนต่อขยายในอนาคต เราแนะนำถือ โดยมีราคาเป้าหมายเท่ากับ 6.85 บาทในขณะนี้
(+) LPN* เตรียมเปิดตัวแคมเปญใหม่ซื้อยูนิตที่ 2 ลด 50% โดยนำ 13 โครงการ 2,400 ยูนิต หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 2,800 ลบ.เข้าร่วมแคมเปญนี้ โดยมีเงื่อนไขลูกค้าจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดภายใน 15 วันหลังจากจองซื้อ ทั้งนี้แคมเปญจะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 ก.ค. 2559 ถึง 30 ก.ย. 2559 (ผู้จัดการรายวัน) Comment: ในมุมมองของเรา บริษัทกำลังหากลยุทธ์ใหม่ๆเพื่อช่วยให้บริษัทสามารถฟื้นตัวตามบริษัทคู่แข่งและแนวโน้มของตลาดอสังหาฯที่เริ่มดีขึ้นหลังยอดจองซื้อของบริษัทตามหลังบริษัทอื่นๆอยู่ค่อนข้างมากเนื่องจากหนี้ครัวเรืองอยู่ในระดับสูงและยอดการปฏิเสธสินเชื่อของกลุ่มตลาดระดับล่างปรับเพิ่มสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อบริษัท อย่างไรก็ดีด้วยกลยุทธ์ล่าสุดนี้ด้วยส่วนลด 50% เมื่อซื้อยูนิตที่ 2 (หรือรวม 2 ยูนิตเท่ากับลด 25%) แม้ว่ารายได้อาจจจะครอบครุมแค่ค่าก่อสร้างค่าพัฒนาและค่าใช้จ่ายอื่นๆในบางส่วน แต่กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยระบายสินค้าเหลือขายได้ดีและเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการจบการขายหรือออกจากโครงการที่อยู่ในทำเลที่อุปสงค์ค่อนข้างอ่อนแอและเริ่มต้นโครงการใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพมากขึ้นเพื่อตอบสนองการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของตลาดอสังหาฯในครึ่งปีหลัง
(+) 8 หุ้นลุ้นชิงเค้กโรงไฟฟ้าชีวมวล "กกพ."ประกาศรายชื่อผ่านคุณสมบัติวันนี้ (ข่าวหุ้น) จับตา 8 หุ้น "TPCH-FPI-ECF-GUNKUL*-PSTC-FER-RATCH-EGCO*" รอลุ้นผ่านคุณสมบัติเข้าชิงเค้กโรงไฟฟ้าชีวมวล 36 MW โดย "กกพ." เตรียมประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติและข้อเสนอด้านเทคนิควันนี้
(+) PTTEP*ประกาศข่าวดี ชนะประมูลสิทธิสำรวจ แหล่งปิโตรเลียมใหม่ (ข่าวหุ้น) PTTEP ชนะประมูลสิทธิสำรวจปิโตรเลียมแปลง SK410B ในประเทศมาเลเซีย มั่นใจช่วยเสริมความแข็งแกร่ง เตรียมกางแผนเจาะหลุมสำรวจ
(+) PHOL เพิ่มทุนระดมเงินขยายธุรกิจ รองรับงานโครงการน้ำประปาชุมชน (ข่าวหุ้น) PHOL เพิ่มทุน 88.99 ล้านหุ้น จัดสรร RO จำนวนไม่เกิน 40.49 ล้านหุ้น ในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาขายหุ้นละ 2 บาท แถมวอร์แรนต์ 1 หน่วยต่อหุ้นสามัญเพิ่มทุน 1 หุ้น รองรับการขยายธุรกิจจากการรับงานโครงการก่อสร้างระบบน้ำประปาชุมชนเพิ่มขึ้น
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
IFEC* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) แนะนำ "สะสม" ประเมิน Downside ต่ำ โดยคำนวณ Replacement cost จากสินทรัพย์ในมือได้ = 6.1 บาท ไม่รวมโครงการที่กำลังก่อสร้าง + อยู่ระหว่างเจรจาซื้อใหม่เพิ่มคาดประกาศได้เร็วๆนี้ ขณะที่ รร ดาราเทวี คาดเตรียมออกจากแผนฟื้นฟูฯ ภายใน ส.ค.นี้ (ปลดล๊อกการลงทุน และบันทึกกำไรพิเศษจากการขายที่ดินเพิ่มอีกในไตรมาส 3/59)
SCC* (เป้าพื้นฐาน 620 บาท) ประเมินเป้าหมายทางเทคนิคที่ ?530 บาท แนวรับ 500 บาท (หากต่ำกว่า แนะนำ "ขายล๊อกกำไร")
TWZ (เป้าพื้นฐาน 0.49 บาท) แนะนำ "สะสม" ในกรอบ 0.36 - 0.40 บาท ... สตอรี่เป็นพันธมิตรกับ ADVANC* (เหมือน COM7 เป็นพันธมิตรกับ TRUE*) + ส่งมอบโทรศัพท์มือถือบิ๊กล๊อตใน ADVANC* ในไตรมาส 2/59
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 38.85 บาท) แนะนำ "สะสม" ที่แนวรับ 25 บาท ... คาดงบไตรมาส 2/59 เป็นจุดต่ำสุด ซึ่งตลาดรับรู้ไปพอสมควรแล้ว
BCP* (เป้าพื้นฐาน 36 บาท) สำหรับนักเก็งกำไร แนะนำ "ขายล๊อกกำไร" หลังหลุดแนวรับ 33.75 บาท แต่สำหรับนักลงทุนระยะกลาง แนะนำ "ทยอยซื้อสะสม" คาดเตรียมส่งไฟลิ่ง บ.ลูก เข้า IPO เร็วๆนี้
TPCH (เป้า Consensus 22.6 บาท) ราคาหุ้นพักแรงกว่าคาด แนะนำ ทยอยสะสม แนวรับ ?17.7 บาท และถัดไปที่ ?17.2 บาท ... กกพ เปิดรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติประมูล FiT โรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้วันที่ 22 ก.ค.นี้ + โรงไฟฟ้าชีวมวลที่ จ.ปัตตานี เฟสแรก 21MW (TPCH ถือหุ้น 65%) ที่ได้ LOI แล้ว คาดจะเปลี่ยนเป็น PPA ได้ภายในไตรมาส 3/59
TACC (เป้าพื้นฐาน 7.4 บาท) รูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้นในกรอบ Uptrend line channel 6.1 - 6.7 บาท โดยมีแนวต้านสั้นที่ 6.2 บาท ซึ่งเป็นแนวต้านเทรนไลน์ขาลง หาก Breakout ผ่านประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้าน 6.7 บาท ... เดือน ก.ย. เริ่มขายสินค้า Hello Kitty ใน 7-Eleven และเตรียมแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายน้ำทุเรียน + มะม่วงไปจีน เร็วๆนี้
นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]