- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 21 July 2016 18:04
- Hits: 1451
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ช่วงนี้ต้องระวัง SET พักตัวลง ดังนั้นแบ่งขายทำกำไร เพื่อรอซื้อลบได้!
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ขยับขึ้นมาแกว่งตัวสูงกว่าระดับดัชนีเป้าหมายตามพื้นฐานที่ FSS ประเมินไว้ที่ 1500 จุดได้ แต่ก็ยังมีลักษณะแกว่งตัวผันผวนต่อเนื่อง หลังยังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนเพิ่ม
แนวโน้มตลาดวันนี้ : หลังจาก SET ขึ้นมาได้ตามเป้าหมายแล้ว และเป็นการขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องเร็วและแรงพอควรด้วย ทำให้ต้องระวังแรงขายทำกำไรกดดันให้ SET ปรับพักตัวลงก่อนได้ ส่วนเช้านี้แม้ว่าบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศยังสดใส หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มแกว่งทรงตัวจากการปรับลงเมื่อต้นสัปดาห์ได้บ้าง ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทเอกชนในสหรัฐและยุโรปยังออกมาแข็งแกร่ง แต่กรอบการบวกขึ้นของตลาดหุ้นเอเชียเริ่มค่อนข้างแคบ และบางแห่งยังแกว่งตัวผันผวนโดยมีจังหวะอ่อนตัวลงให้เห็น ทำให้ FSS คาดว่า SET จะมีกรอบบวกจำกัดมากขึ้น รวมทั้งยังมีสิทธิที่จะปรับพักตัวลงก่อนได้ในเร็วๆ นี้ โดยนักลงทุนบางส่วนยังรอดูผลประชุม ECB และท่าทีเกี่ยวกับมาตรการรองรับ Brexit ในช่วงบ่ายวันนี้ด้วย
กลยุทธ์ : เนื่องจาก SET ขยับขึ้นมามากแล้ว ทำให้ FSS ยังคาดหมายโอกาสปรับพักตัวลงในกรอบกว้างได้ในช่วงถัดไป ดังนั้นเรายังแนะนำให้รอเลือกหุ้นซื้อเพิ่มช่วง SET ปรับลงดีกว่า และช่วงบวกสามารถแบ่งส่วนขายทำกำไร เพื่อรอซื้อช่วงปรับลงได้ด้วย
แนวรับ 1506-1503 , 1500-1495 จุด
แนวต้าน 1513-1515 , 1518-1520 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BH, IRPC, KTC(short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$803ล้าน นำโดยไต้หวัน US$404ล้าน เกาหลีใต้ US$167ล้าน และไทยซึ่งมีเงินทุนไหลเข้ามากที่สุดในกลุ่ม TIP US$144ล้าน เงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคตามสภาพคล่องที่สูงขึ้น ล่าสุดมีข่าวรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจาก Brexit ส่วน ECB แม้อาจไม่มีมาตรการที่เซอร์ไพรส์ตลาดในวันพรุ่งนี้แต่คาดประกาศมาตรการในการประชุมครั้งถัดๆไปเพื่อรอประเมินตัวเลขผลกระทบของ Brexit ที่ชัดเจนก่อน
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ECB น่าจะคงนโยบายตาม BOE แต่มีโอกาสเพิ่มมาตรการกระตุ้นในครั้งถัดไป ขณะที่มีข่าวรัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างน้อย 20 ล้านล้านเยน (US$1.88 แสนล้าน) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดบวกรับข่าว
(0) ระยะสั้น SET Index อาจดูร้อนแรงเพราะปรับขึ้นมา 65 จุดในเดือนนี้ +4.5% MTD ซึ่งครึ่งหนึ่งมาจากหุ้น Big cap. ในกลุ่มพลังงาน แบงก์ และสื่อสาร (ไม่เช่นนั้นแล้ว ดัชนีขณะนี้จะอยู่ที่ 1,476 จุด +2.2% MTD) แต่ขณะเดียวกันกำไร 2Q16 ที่ทยอยประกาศแม้เป็นส่วนน้อย แต่ดีกว่านักวิเคราะห์คาด สะท้อนว่าประมาณการกำไรมีโอกาสปรับขึ้นมากกว่าปรับลง ถ้าอิง EPS ของเราปีนี้ที่ยังไม่ได้ปรับขึ้นที่ 91 บาท +23% Y-Y และ PE กรอบบนในช่วงที่ Flow ไหลเข้า 17 เท่า ดัชนีสิ้นปีที่ 1,560 จุดไม่น่าใช่เรื่องยาก
(+) BLA อิงจากงบฯของ SCB พบว่าคปภ.อนุญาตให้กลุ่มประกันชีวิตเปลี่ยนนโยบายการคิดเงินสำรองฯจากคปภ. ซึ่งน่าจะทำให้ภาระหนี้สินจากการค้ำประกันและค่าใช้จ่ายสำรองประกันชีวิตฯของ BLA ลดลงใน 2Q16 เราคาดว่า BLA มีโอกาสพลิกเป็นกำไรสุทธิ 500 ล้านบาทใน 2Q16 หรืออาจมากกว่านั้นหากกลับรายการสำรองฯที่ตั้งไว้เกิน แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 43 บาท
(+) KTC กำไรดีกว่าคาด -8.7% Q-Q เพราะตั้งสำรองฯเพิ่ม แต่ +25% Y-Y จากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่โตดีมาก งวด 5M16 +16% Y-Y (ยังไม่มีตัวเลขเดือน มิ.ย.) ดีกว่าเป้าของบริษัทที่ +15% และดีกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ +8.5% Y-Y ส่วน NPL ต่ำเพียง 1.9% ลดจาก 2.0% ใน 1Q16 การใช้งบการตลาดมีแนวโน้มต่ำกว่าที่บริษัทตั้ง เราจึงปรับกำไรปีนี้ขึ้น 13% เป็น 2.4 พันล้านบาท +18% Y-Y ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 122 บาทจาก 100 บาท แต่คงคำแนะนำถือ เพราะ upside ที่แคบต่ำกว่า 10%
(+) SCB กำไรเซอร์ไพร้ส์เชิงบวก +21.6% Q-Q, -3% Y-Y ดีกว่าคาดและถือว่าทำได้ดีมากเพราะ NIM ไม่ลดลงทั้งที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับลง และมีการกลับรายการสำรองฯประกันชีวิต เราปรับกำไรปี 2016 ขึ้น 10% เป็น 4.8 หมื่นล้านบาท +3.3% Y-Y ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 171 บาท จาก 150 บาท แนะนำ ซื้อ
(+) TMB กำไรน้อยกว่าคาด +2.8% Q-Q, -4.8% Y-Y จากการตั้งสำรองหนี้สูญที่สูงกว่าคาด สิ่งที่ดีคือ NIM ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 3.13% จาก 2.98% ในไตรมาสก่อนจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิทำได้ดีกว่าคาด ส่วน NPL ลดเหลือ 2.9% จาก 3. 1% ในไตรมาสก่อน ยังคงแนะนำซื้อ คงราคาพื้นฐาน 2.90 บาท
(0) พลังงานทดแทน พรุ่งนี้กกพ.จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ ซึ่งรับซื้อไม่เกิน 36 MW แต่มีผู้ยื่นทั้งหมด 593.5 MW สูงกว่าปริมาณรับซื้อ 16 เท่า การแข่งขันสูงมาก การเก็งกำไรหุ้นกลุ่มนี้จึงต้องระมัดระวัง ราคาพื้นฐานของ TPCH 19.50 บาทและ GUKUL 5.50 บาท ไม่ได้รวมโครงการนี้ เรายังชอบ TPCH มากสุดในกลุ่ม
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21 ก.ค. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ยอดขายบ้านเก่า (มิ.ย.)
- ยูโรโซน: ECB ประชุม
22 ก.ค. - ไทย: กกพ.ประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ค.)
24 ก.ค. - ไทย: ดุลการค้า (มิ.ย.)
26-27 ก.ค. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
26 ก.ค. - เกาหลีใต้: 2Q16 GDP
- สหรัฐ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.), ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.), ดัชนีราคาบ้าน S&P/CaseShiller Index (พ.ค.)
27 ก.ค. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (มิ.ย.)
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (มิ.ย.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมายังปิดบวกได้อีกเล็กน้อยเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันและทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้ค่อนข้างแรงโดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ดี อย่างไรก็ตามตลาดจับตาดูผลการประชุม ECB ในวันนี้
(+) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดในแดนบวกได้ตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใส รวมถึงญี่ปุ่นที่พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งทรงตัวออกข้างค่อนมาในทางอ่อนค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.98-35.08 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 0.29 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 44.94 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯปรับตัวลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงแรง 13.00 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,319.30 ดอลลาร์/ออนซ์ จากตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงค่าเงินดออลาร์สหรัฐฯที่แข็งค่าสุดในรอบ 4 เดือนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่การขึ้นดอกเบี้ยของ FED ภายในปีนี้
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch