- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 July 2014 20:45
- Hits: 2156
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“เน้นซื้อค่าบวก ลบต่อดูไม่ค่อยดี”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ปรับ TOP (จากซื้อเป็นถือ)
ภาพตลาดวันก่อน :
# ต่างชาติซื้อสุทธิต่อ 1.7 พันล้านบาท รายย่อยซื้อสุทธิ 880 กว่าล้านบาท ส่วนกลุ่มที่ขายสุทธิเป็นสถาบันในประเทศ 2พันล้านบาทและพอร์ตบล.ขายสุทธิ 583 ล้านบาท ส่วนดัชนีอ่อนตัวลงจากแรงขายทำกำไรหลัง Valuation ของหุ้นและตลาดปรับขึ้นมามาก ประกอบกับในระหว่างวันมีกระแสข่าวการเลื่อนพิจารณาการลงทุนในโครงสร้างขั้นพื้นฐานของกระทรวงคมนาคมไปเป็นสัปดาห์หน้า รวมถึงการเลื่อนประมูล 4G ยังเป็น Overhang กับกลุ่มสื่อสาร ปิดตลาดดัชนีลดลง 17.74 จุด ที่ 1520.81 มูลค่าซื้อขายเกือบ 7 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยและกลยุทธ์ :
# เม็ดเงินลงทุนของภาคเอกชนทยอยเข้ามาก่อน หลังจากที่บอร์ด BOI ได้อนุมัติโครงการส่งเสริมลงทุนแล้ว 2 แสนล้านบาท(27% ของที่ค้างท่อ 7.5 แสนล้านบาท) และหลายโครงการได้รับอนุมัติเงินกู้จากธนาคารแล้วเพียงแต่รอเบิกจ่าย ทำให้คาดว่าเม็ดเงินลงทุนภาคเอกชนจะเข้าสู่ระบบได้เร็ว ส่วนโครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐคาดว่าจะเริ่มเข้ามาใน 2-3 เดือนข้างหน้า (ช่วงเริ่มปีงบประมาณใหม่ 58)
# ปัจจัยจับตา คือ รายชื่อสมาชิกสภาปฎิรูปและสภานิติบัญญัติว่าจะเป็นที่ยอมรับของประชาชนหรือไม่? ทั้งนี้เรามองว่าการนำตัวแทนทุกภาคส่วน ได้แก่ ภาคท้องถิ่น นักวิชาการ นักกฎหมาย นักธุรกิจ ฯลฯ เข้ามามีส่วนร่วมเป็นสัดส่วนที่สูงในสภาปฎิรูปจะเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะได้คนที่มีความรู้และประสบการณ์ในแขนงนั้นๆมาช่วยวางโรดแมปให้กับประเทศ (ในเบื้องต้นมีข่าวว่าจะเป็นตัวแทนจากแต่ละจังหวัดๆ ละ 1 คน และที่เหลือเป็นการแต่งตั้งเข้ามาจากภาคส่วนต่างๆ) ขณะที่คณะคสช.อยู่ในสถานะช่วยกำกับดูแลให้การปฎิรูปเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ซึ่งต้องดูกันต่อไปว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
# ปัจจัยติดตาม ได้แก่ รายงานกำไร 2Q57 ของบจ.ว่าจะออกมาตามที่ได้คาดการณ์ไว้หรือไม่, ตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศชั้นนำต่างๆ รวมถึงอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ ซึ่งส่วนนี้จะมีผลต่อระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ (ถ้าสูงก็มีสิทธิปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด)กลยุทธ์ทางเทคนิค : ซื้อใหม่เน้นซื้อตามค่าบวก ค่าลบดูไม่ดี แนวเด้ง 1500, 1480 จุด ส่วนการรีบาวด์มีแนวต้าน 1530, 1540 จุด หุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อลงทุนวันนี้เป็น AMATA
Fundamental Pick
AMATA แนะนำซื้อราคาปิด 18.10 บาท เป้าหมาย 19.30 บาท
# กำไรสุทธิ 2Q57 ยังอ่อนแอ เพราะปัจจัยด้านเศรษฐกิจและการเมืองไม่เอื้ออำนวย แต่ได้ผ่านพ้นไปแล้ว (ยอดโอน 2Q57 อาจจะน้อยกว่า 100 ไร่ ขณะที่ 1Q57 โอนไป 616 ไร่ และ 2Q56โอน 477 ไร่) แนวโน้มผลประกอบการ 3Q57 มีแนวโน้มดีขึ้น คาดว่ายอดขายที่ดินจะเพิ่มขึ้นจาก70 ไร่ใน 2Q57 และ 118 ไร่ใน 1Q57 โดยบริษัทกล่าวว่ากำลังคุยกับลูกค้าหลายราย และมีโอกาสที่จะขายที่ดินสำเร็จ ส่วนแนวโน้มระยะกลาง-ยาวยังไปได้ดี เราเชื่อว่าการลงทุนภาคเอกชนที่ฟื้นตัวและการเปิด AEC จะช่วยหนุนยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม โดยจุดเด่นของ AMATA คือ นิคมอมตะนครและซิตี้อยู่ในทำเลดี คือ ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ, การขนส่งทางบกสะดวก และไม่ไกลจากท่าเรือน้ำลึก
# แม้ว่าผลประกอบการจากธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมโดยตรงจะไม่ดีนักในปี 57 แต่ก็มี Catalystsส่วนอื่นเข้ามาเสริม ได้แก่ 1) การขายโรงงาน 88 แห่งเข้า REIT และ 2) การนำอมตะ เวียดนามเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วง 4Q57 นี้ แนะนำซื้อ โดย DBS ให้ราคาพื้นฐาน 19.30 บาท ทั้งนี้ประมาณการของเรายังไม่รวมกำไรจากการขายโรงงานและการนำหุ้นอมตะ เวียดนามเข้าจดทะเบียนในตลาด
ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์
+ สหรัฐ : ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย.57เพิ่มขึ้น
+ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมิ.ย. แตะระดับ 5.04 ล้านยูนิต โดยยอดขายบ้านมือสองปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.56 ส่งสัญญาณว่าตลาดที่อยู่อาศัยกำลังฟื้นตัวขึ้นหลังซบเซามานานหลายเดือน ส่วนสำนักงานเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) รายงานว่าราคาบ้านของสหรัฐในเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 0.4%MoMจากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 5.5%YoY
+ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,113.54 จุด เพิ่มขึ้น 61.81 จุด หรือ +0.36% ดัชนีS&P500 ปิดที่ 1,983.53 จุด เพิ่มขึ้น 9.90 จุด หรือ +0.50% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,456.02 จุดเพิ่มขึ้น 31.32 จุด หรือ +0.71% นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนและตะวันออกกลาง ผนวกกับรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนหลายแห่งดีเกินคาด
- สัญญาน้ำมันดิบอ่อนลงหลังสถานการณ์ในยูเครนคลี่คลายลง และมีความพยายามที่จะยุติการสู้รบในฉนวนกาซา
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 17 เซนต์ ปิดที่ 104.42 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 35 เซนต์ ปิดที่107.33 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสถานการณ์ในยูเครนเริ่มคลี่คลายลง หลังกลุ่มกบฏในยูเครนยอมเปิดทางให้มีการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตออกจากบริเวณที่เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินMH17 ถูกยิงตก พร้อมทั้งยังส่งมอบกล่องดำให้กับผู้เชี่ยวชาญของมาเลเซีย ส่วนสถานการณ์ในฉนวนกาซา ล่าสุดมีรายงานว่านายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เดินทางถึงกรุงไคโรเมื่อคืนวันจันทร์ เพื่อเริ่มการเจรจา ซึ่งเป็นความพยายามหนึ่งเพื่อยุติการสู้รบระหว่างสองฝ่าย
- สัญญาทองคำ COMEX อ่อนลง แต่ยังปิดเหนือ 1300 US$/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 7.6ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ 1,306.3 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยที่กดดัน คือ ตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐที่ออกมาดี รวมทั้งสถานการณ์ในยูเครนและฉนวนกาซาผ่อนคลายลง
ปัจจัยในประเทศและหลักทรัพย์
+ เมื่อวานนี้ (22 ก.ค.57) คสช.เลื่อนการพิจารณาโครงการลงทุนขั้นพื้นฐานของคมนาคมไปเป็นสัปดาห์หน้า…เม็ดเงินลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มจะเข้ามาเร็วกว่าภาครัฐ
# คสช.เลื่อนการพิจารณาแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน 8 ปี (58-65) ของกระทรวงคมนาคมออกไปก่อน (จากเดิมที่จะพิจารณาเมื่อวานนี้ คือ 22 ก.ค.57)
# ความเห็น Retail Research DBS : เรามองว่าการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานเป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องดำเนินการ แต่ต้องพิจารณาเรื่องงบประมาณและความเหมาะสมด้านสิ่งแวดล้อมอย่างรอบคอบเพื่อให้โครงการมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง เราประมาณการว่าการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่รอบใหม่จะเริ่มได้ใน4Q57 และเม็ดเงินลงทุนจะเข้าสู่ระบบได้ในต้นปี 58 เป็นต้นไป ส่วนการลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะ Corporate น่าจะฟื้นตัวได้เร็วกว่า เพราะหลายโครงการได้รับอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์แล้ว เพียงแต่รอการเบิกจ่าย รวมทั้งบอร์ด BOI ชุดใหม่ที่ประชุมใน 2 ครั้งที่ผ่านมาได้อนุมัติโครงการที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนไปแล้วประมาณ 2 แสนล้านบาท (คิดเป็น26-27% ของที่เคยค้างท่อไว้ราว 7.5 แสนล้านบาท) และคาดว่าจะมีการอนุมัติเพิ่มเติมในระยะต่อไป
# เรายังมีมุมมองที่เป็นบวกกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของภาครัฐและเอกชนและเชื่อว่าจะเป็นกลุ่มที่เติบโตได้ดีในระยะยาว โดยคาดว่าเม็ดเงินจากการดังนั้นการอ่อนตัวลงมาของราคาหุ้นจึงเป็นจังหวะในการทยอยซื้อเพื่อลงทุน หุ้นหลักที่โดดเด่นคือ CK, STEC, SCC, TASCO, BBL, KTB, KBANK, AMATA, ROJNA และ HEMRAJ
+ พบบ.เซี่ยงไฮ้ หูสี นำเนื้อสัตว์หมดอายุไปผสมกับเนื้อที่เพิ่งชำแหละและติดฉลากใหม่เพื่อส่งไปร้านอาหารแฟรนไชส์...แมคโดนัลด์นำเข้าไก่จากไทยและบริษัทอื่นในจีนแทน ... เป็นบวกกับผู้ประกอบการไก่ของไทย หุ้น Top Pick คือ GFPT (ราคาพื้นฐาน 16.40 บาท)
# โฆษกร้านกาแฟแฟรนไชส์ชื่อดังจากสหรัฐฯ “สตาร์บัคส์” ประกาศให้ร้านสาขาต่างๆ ใน 12มณฑลทั่วจีน งดจำหน่ายแซนด์วิช “พานินีไก่ซอสแอปเปิล” ที่มีส่วนผสมของเนื้อไก่จากบริษัทเซี่ยงไฮ้หูสี ผู้ผลิตรายย่อยของจีนซึ่งส่งสินค้าให้กับบริษัทวัตถุดิบอาหาร “โอเอสไอ กรุ๊ป”ของสหรัฐเมื่อ 22 ก.ค.57 หลังสำนักงานอาหารและยาของจีนตรวจสอบโรงงานของบ.เซี่ยงไฮ้หูสี พบนำเนื้อสัตว์หมดอายุไปผสมกับเนื้อที่เพิ่งชำแหละและติดฉลากใหม่เพื่อส่งไปร้านอาหารแฟรนไชส์ ขณะที่บ.แมคโดนัลด์ โฮลดิงส์ โค ในญี่ปุ่น ต้นสังกัดบ.แมคโดนัลด์ในจีนสั่งซื้อไก่จากไทยและบริษัทอื่นในจีนแทน
# นับเป็นข่าวดีกับผู้ประกอบการไก่ส่งออกของไทย ที่จะมีโอกาสส่งออกไก่สดแช่แข็ง &แปรรูปไปในตลาดจีนได้มากขึ้น ซึ่งในปีนี้ อุตสาหกรรมไก่ส่งออกของไทยอยู่ในแนวโน้มที่สดใสเพราะสามารถส่งออกไก่สดแช่แข็งไปญี่ปุ่นได้แล้ว โดยเริ่มอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 1Q7 ทำให้ปริมาณส่งออกไก่ของไทยในปีนี้จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.3 แสนตัน (+19%YoY) หุ้น TopPick คือ GFPT ซึ่งเป็นผู้ประกอบการไก่ครบวงจร แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 16.40 บาท
# สรุป Theme การลงทุนใน GFPT : เราคาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q57 เติบโต 46%YoY และ4%QoQ เป็น 440 ล้านบาท โดยเป็นผลจากปริมาณส่งออกไก่สดแช่แข็งไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น และยอดขายอาหารปลาสูงขึ้น ทำให้รายได้รวมเติบโต 10%YoY ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนลงเล็กน้อยเป็น 14.3% ตามการขยับขึ้นของราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ แนวโน้มกำไร 3Q57 ยังแข็งแกร่ง แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์จะเพิ่มขึ้น และราคาขายไก่ในประเทศที่อ่อนลงตามอุปทานที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยฤดูกาลทำให้มาร์จิ้นอ่อนลง แต่ปริมาณการส่งออกที่สูงขึ้น เพราะเป็น High season ของการส่งออกเข้ามาช่วยชดเชย ประมาณการอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10%ต่อปีในระยะยาว โดยเป็นผลจากการขยายกำลังการผลิตของฟาร์ม 10-15% ต่อปี เพื่อรองรับการเติบโตของอุปสงค์ในประเทศ และลูกค้าส่งออกหลักในประเทศญี่ปุ่น (โดยส่วนหนึ่งผ่านบริษัทร่วม GFN – ปี 58 จะซื้อไก่สดจาก GFPT เพิ่มเป็น 1.3-1.4 แสนตัวต่อวัน จาก 1.2 แสนตัวต่อวันในปี 57) แนะนำซื้อ โดย DBS ให้ราคาพื้นฐาน 16.40 บาท อิงกับ P/E ปี 57 ที่ 12.5เท่า ทั้งนี้ประมาณการของเรามี Positive Upside จากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ปรับขึ้นน้อยกว่าคาด
• การเมือง : หัวหน้าคสช.รับพระราชทานรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 แล้ว มีทั้งสิ้น 48มาตรา...จับตารายชื่อสมาชิกสภานิติบัญญัติและสภาปฎิรูปว่าจะเป็นที่ยอมรับของประชาชนส่วนใหญ่หรือไม่?
# เมื่อเย็นวานนี้ (22 ก.ค.57) หัวหน้าคสช. คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับพระราชทานรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 แล้ว โดยมีทั้งสิ้น 48 มาตรา โดยมาตราหลักๆนั้นก็ถูกตราขึ้นเพิ่อกำหนดหลักการ รวมถึงคุณสมบัติต่างๆของบุคคลองค์กร ที่เป็นกลไกนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองการปกครองตามเเนวทางของคสช. ที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการมากขึ้นตั้งแต่นี้ไป
# คาดรายชื่อสมาชิกสภานิติบัญญัติจะออกมาในต้นส.ค.นี้ ทั้งนี้เป็นที่คาดการณ์ในกลุ่มการเมืองว่า "โรดแมปคสช." ที่จะออกมาในต้นเดือนส.ค.57 น่าจะมีการกำหนด "รายชื่อสมาชิกสภานิติบัญญัติ" ออกมาก่อน เนื่องจากบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวนั้น ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต้องเป็นผู้ทูลเกล้าฯ ถวาย "ชื่อนายกรัฐมนตรี"
# เนื้อหาโดยสรุปของมาตราที่สำคัญ เป็นดังนี้
• มาตรา 6 ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีสมาชิก 220 คน อายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี โดยพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ถวายคำแนะนำ โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฏร วุฒิสภา และรัฐสภา
• มาตรา 19 และ 20 ระบุให้พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีอีก 35 คน โดยนายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องเป็นส.ส.มาก่อน นายกฯและรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิก หรือเคยเป็นสมาชิกพรรคการเมืองภายในระยะเวลา 3 ปีก่อนวันที่ได้รับการแต่งตั้งมาก่อน ต้องไม่เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น รวมทั้งต้องไม่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้พิพากษา หรือตุลาการ อัยการ กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
• มาตรา 28 ให้มีสภาปฏิรูปแห่งชาติจำนวน 250 คน อายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี โดยมาตรา 30 ได้ให้อำนาจคสช.ดำเนินการคัดเลือกบุคคลที่สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นสภาปฏิรูปแห่งชาติ
• มาตรา 32 ให้มีคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นจำนวน 36 คน เพื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งประกอบด้วย ประธานกรรมาธิการที่คสช.เสนอ, กรรมาธิการที่สภาปฏิรูปเสนอ20 คน, และกรรมาธิการที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี และคสช.เสนออีกฝ่ายละ 5คน
• มาตรา 41 ในกรณีที่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดกำหนดคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้าม ในการดำรงตำแหน่งทางการเมือง มิให้นำบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นมาใช้บังคับแก่ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้ง เป็นผู้ดำรงตำแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ข้าราชการการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการรัฐ
• มาตรา 44 ในอำนาจหัวหน้าคสช.สั่งการ ระงับ ยับยั้ง หรือกระทำการใดๆ ที่เห็นว่าเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปในด้านต่างๆ การส่งเสริมความสามัคคี และความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ หรือเพื่อป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อย หรือ ความมั่นคงของชาติ ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร โดยไม่ว่าการกระทำนั้นจะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือทางตุลาการ ให้ถือว่าคำสั่งหรือการกระทำ รวมทั้งการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญนี้เป็นที่สุด ทั้งนี้ เมื่อได้ดำเนินการดังกล่าวให้มีการรายงานประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว
• มาตรา 48 บรรดาการกระทำทั้งหลายซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ของหัวหน้าและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าว หรือของผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้า หรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อันกระทำไปเพื่อการดังกล่าวข้างต้นนั้น การกระทำดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ ไม่ว่าจะทำในวันที่กล่าวหรือหลังวันที่กล่าว หากกระทำนั้นผิดต่อกฎหมายให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง (ที่มา : มติชนออนไลน์ 23 ก.ค.57)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : Tel 7829
[email protected]