- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 July 2014 14:39
- Hits: 2192
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET เริ่มปรับลงลบให้เป็นจังหวะในการเลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อแล้ว...
กลยุทธ์ : SET เริ่มปรับตัวลงจริงจังมากขึ้นแล้ว ซึ่งยังมีลุ้นอยู่ในช่วงแกว่งตัวเพื่อปรับพักฐานต่อเนื่องได้ แต่ FSS คาดว่าเป็นการปรับพักฐานช่วงสั้น ก่อนลุ้นแกว่งบวกขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง ดังนั้นในจังหวะตลาดปรับตัวลงจึงสามารถเลือกหุ้นเข้าทยอยซื้อเพื่อถือต่อเนื่องได้ ส่วนถ้าจะเข้าเทรดดิ้งตามรอบก็ตามลุ้นแรงซื้อจากแนวรับทางเทคนิคแต่ละระดับได้ และถ้าซื้อช่วงลบก็สามารถแบ่งส่วนถือเทรดดิ้งในกรอบกว้างได้ด้วยไม่จำเป็นต้องเทรดดิ้งสั้นอย่างเดียว
หุ้นเด่นทางเทคนิค : MAJOR, PTG, TTCL(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET เริ่มปรับตัวลงจริงจังมากขึ้น หลังจากในช่วงก่อนปิดตลาดภาคเช้า มีข่าวเรื่องการย้ายการลงทุนของกลุ่มเทมาเส็ค ส่งผลให้หุ้นในกลุ่ม ICT ปรับตัวลงแรง และฉุดให้ภาวะตลาดโดยรวมร่วงลงตามไปด้วย ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะยังมีแรงขายต่อเนื่องอีก เนื่องจาก คสช.แจ้งว่าเมื่อวานนี้จะยังไม่มีการพิจารณาเรื่องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานตามที่นักลงทุนในตลาดได้เก็งกันไว้ จึงทำให้มีแรงขายทำกำไรออกมากดดันมากขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม FSS คาดว่าแรงขายส่วนใหญ่น่าจะเกิดจากการทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงลงบ้าง หลังจากที่ผ่านมา SET ขยับขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว และช่วงนี้ยังไม่ค่อยมีปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ เข้ามาด้วย โดยจะเห็นว่าแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศก็ยังคงมีเข้ามาต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจัยกดดันข้างต้นก็มีสิทธิคลี่คลายลงได้ ดังนั้นเรายังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อได้ในช่วง SET แกว่งตัวลง
แนวรับ 1516-1512 , 1508-1504 จุด แนวต้าน 1524-1527 , 1530-1535 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อในปริมาณที่หนาแน่นเกือบทุกตลาด ยกเว้นฟิลิปปินส์ โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดไต้หวัน US$231.2 ล้าน เกาหลีใต้ US$135.9 ล้าน ไทย US$53.8 ล้าน เวียดนาม US$1.8 ล้าน และอินโดนีเซีย US$0.5 ล้าน แต่ขายฟิลิปปินส์ US$13.9 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ยังแข็งค่าต่อ Flow น่าจะยังไหลเข้าต่อ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) รธน.ชั่วคราวทำให้เห็นโครงสร้างประเทศช่วงเว้นวรรคประชาธิปไตยและเห็นสัญญาณการคลายอำนาจของคสช. ทั้งนี้ ภายในเดือนก.ย.นี้จะมีการจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 200 คนซึ่งคสช.เป็นผู้แต่งตั้ง ทำหน้าที่ออกกฎหมายและแต่งตั้งนายกฯ และมีการจัดตั้งสภาปฏิรูป (สปร.) 250 คน เพื่อพิจารณาร่างรธน.ฉบับใหม่แทนสภาร่างรธน.ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรธน.เสนอมา และวางกรอบปฏิรูปประเทศในอนาคต ภายใต้ร่างรธน.ชั่วคราว ครม.และคสช.จะทำงานคู่ขยายกันไปโดยอำนาจการบริหารเป็นของครม. ส่วนอำนาจด้านความมั่นคงเป็นของ คสช. ก่อนที่สปร.จะพิจารณาร่างรธน.ใหม่เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ปีนับจากนี้
(0) ทยอยซื้อกลุ่มสื่อสารแบบไม่รีบร้อน วานนี้กลุ่มสื่อสารถูกฉุดลงโดย ADVANC หลังมีข่าวลือว่าเทมาเส็คจะลดการลงทุนในเอเชีย หุ้นที่เทมาเส็คถือในตลาดหุ้นไทย (ทั้งตรงและอ้อม) มี ADVANC, INTUCH, THCOM และ CSL ช่วงต้นปีที่มีข่าวลักษณะนี้ INTUCH และ ADVANC ร่วงประมาณ 9-10% กินเวลา 5-6 วัน ถ้าเป็นแบบนั้น รอบนี้ ADVANC อาจลงได้ถึง 205 บาท ส่วน INTUCH 68 บาท เรามองว่าการจ่ายปันผลสูงของหุ้นทั้ง 2 ตัวจะเป็นตัวจำกัด downside ได้ระดับหนึ่ง เพียงแต่ราคาหุ้นไม่มีปัจจัยกระตุ้นหลังการประมูลคลื่น 1800MHZ และ 900MHz ถูกเลื่อนออกไป จึงแนะนำทยอยซื้อแบบไม่รีบร้อน ทั้งนี้ ผู้บริหารมือถือของทั้ง 3 ค่ายจะเข้าพบกสทช. 24 ก.ค. นี้ เพื่อรายงานเรื่องการถือครองหุ้นของต่างชาติที่ต้องไม่เกิน 49%
(+) LH เราคาดกำไรปกติ 2Q14 จะเพิ่มขึ้น 18% Q-Q และ 1% Y-Y เราปรับคาดการณ์กำไรปกติปี 2014-15 ขึ้น 3.2% และ 6.4% เป็นเติบโต 4% ในปีนี้และเติบโต 11% ในปี 2015 จากแนวโน้มการขายที่ฟื้นดีกว่าที่คาดไว้เดิม และปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 12 บาท ยังคงแนะนำซื้อ และคาดจ่ายปันผลงวดครึ่งปีแรก 0.20 บาท/หุ้น (Yield 2%)
(-) PTTGC แนวโน้มกำไรใน 2Q14 น่าผิดหวัง เราคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 6,356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% Q-Q และ 52% Y-Y เพราะมีรายการด้อยค่าในบ.ย่อย 1,220 ล้านบาท แม้ไม่รวมรายการดังกล่าว กำไรปกติ 7,576 ล้านบาท (+25% Q-Q, +17% Y-Y) ก็ต่ำกว่าปกติที่บริษัทควรทำได้ไตรมาสละ 1 หมื่นล้านบาท จากธุรกิจอะโรเมติกส์ที่ขาดทุนติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 จาก Spread ที่ลดเหลือเพียง US$333/ตัน ต่ำกว่าจุดคุ้มทุนที่ประมาณ US$400/ตัน เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2014-15 ลงปีละ 8% เหลือโตเพียง 1.4% ในปีนี้และ 1.8% ในปีหน้า และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 75 บาท ราคาหุ้นที่ปรับลงมาสะท้อนกำไรที่น่าผิดหวังใน 2Q14 แล้ว ทำให้ upside กว้างขึ้น ยังแนะนำซื้อ
(-) BJC เราคาดกำไรสุทธิ 2Q14 ลดลง 20% Q-Q และ 35% Y-Y เหลือเพียง 412 ล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 19 ไตรมาส แต่แนวโน้มจะดีขึ้นใน 2H14 เรายังคงคาดกำไรสุทธิในปีนี้ทำได้เพียงทรงตัวจากปีก่อน และเติบโต 13% ในปี 2015 เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 50 บาท ยังแนะนำขาย ราคาหุ้นที่ขึ้นแรง 26% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจากข่าวลือซื้อธุรกิจ Wholesale ในเวียดนามด้วยมูลค่าไม่ต่ำกว่า US$500 ล้าน หากเป็นจริง เป็นไปได้ว่า BJC จะเพิ่มทุน ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PE ปี 2015 ที่แพงถึง 31 เท่า นอกเสียจากจะทำกำไรได้ปีละ 3.1-3.4 พันล้านบาท จึงจะดึง PE ให้ลงมาใกล้เคียงกลุ่มได้ ซึ่งเรามองว่าเป็นไปได้ยากในระยะ 1-2 ปีนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมากลับมาปิดบวกได้ 61.81 จุด โดยนักลงทุนขานรับผลประกอบการของบริษัทเอกชนที่ออกมาดีเกินคาดรวมถึงข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงทิศทางตลาดบ้านและเงินเฟ้อที่ดีขึ้น
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนบวกได้หลังจากร่วงในวันก่อนหน้า แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังจับตาดูสถานการณ์ความไม่สงบในยูเครนอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกได้จากบรรยากาศการลงทุนที่เป็นบวกมากขึ้นหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้น
ค่าเงินบาทแข็งค่าแรงต่อเนื่องเมื่อวานนี้ ส่วนเช้านี้แกว่งทรงตัวในกรอบ 31.70-31.80 บาท/ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลงเล็กน้อย 0.17 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยปิดที่ 104.42 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยอุปทานของน้ำมันไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงทั้งในอิรัก ยูเครนและกาซา
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงลง 7.60 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,306.30 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่อย่างไรก็ตามยังคงยืนเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ได้จากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนและฉนวนกาซาที่ยังคงหนุนความต้องการของสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
23 ก.ค. - ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ค.)
24 ก.ค. - ไทย: ดุลการค้า (มิ.ย.)
- จีน: HSBC China Manufacturing PMI (ก.ค.)
- เกาหลีใต้: 2Q14 GDP
- ญี่ปุ่น: ดุลการค้า (มิ.ย.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (มิ.ย.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ค.)
25 ก.ค. - ไทย: PTTEP ประกาศผลประกอบการ
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (มิ.ย.)
28 ก.ค. - ไทย: ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (มิ.ย.)
- สหรัฐ: Pending Home Sales (มิ.ย.)
29 ก.ค. - ไทย: PDG เริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 2.80 บาท),คสช.พิจารณาแผนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม
29-30 ก.ค. - สหรัฐ: การประชุม FOMC
30 ก.ค. - ไทย: SCC ประกาศผลประกอบการ
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852