- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 15 July 2016 17:04
- Hits: 723
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
SET Index : แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1530
ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1488.69 จุด เพิ่มขึ้น 11.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 68,169 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1480 จุดขึ้นมา พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1530 จุด
Daily : ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคต่อเนื่องทะลุผ่านแนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 1480 จุด ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1500 และมีเป้าหมายในการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่บริเวณ 1530 จุดตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1480 จุดเป็นจังหวะเข้าซื้อหุ้น
กลยุทธ์ : SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1480 จุดขึ้นไปได้อย่างแข็งแกร่ง ทาให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1500 และ 1530 จุดเป็นเป้าหมายในการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1480 จุด
Asia Fund Flow : 14 กรกฎาคม 2559 ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ซื้อสุทธิ 13 ล้านเหรียญ (15 ก.ค.) ตลาดหุ้นไต้หวัน ซื้อสุทธิ 223 ล้านเหรียญ ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ซื้อสุทธิ 39 ล้านเหรียญ ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ซื้อสุทธิ 28 ล้านเหรียญ ตลาดหุ้นไทย ซื้อสุทธิ 114 ล้านเหรียญ
Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
JAS สัญญาณฟื้นตัว แนวต้าน 5.80 และ 6.00 เป็นจังหวะขาย แนวรับ 5.40 5.50 / 5.40 5.70 / 5.80
TRUE แนวโน้มขึ้นทดสอบ 9.00 เป้าหมาย 9.60 แนวรับสำคัญ 8.60 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 8.20 8.70 / 8.60** 9.00 / 9.10
ADVANC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 175 และ 180 172 / 170 175 / 177
PTT สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 330 แนวรับ 320 320 / 318 328 / 330
IVL เคลื่อนไหวในกรอบ แนวรับ 30.00 แนวต้าน 31.00 30.00 / 29.50 31.00 / 31.50
KTB สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 17.50-17.60 17.20 / 17.00 17.50 / 17.60
BEM ซื้อที่แนวรับ 6.80 แนวโน้มขึ้นทดสอบ 7.00 และ 7.30 เป็นแนวต้านสำคัญ 6.80 / 6.70 7.00 / 7.10
BDMS ระยะสั้นขายที่แนวต้าน 23.20 และ 23.50 แนวรับ 22.50 22.80 / 22.50 23.20 / 23.50
BBL สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 175 และ 180 170.50 / 170 174 / 175
AOT แนวรับสำคัญ 380 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 370 รอซื้ออีกครั้งเมื่อผ่านแนวต้านสำคัญที่ 390 382 / 380** 384 / 388
Bangkok Bank (BBL TB; THB 170.50) - ซื้อ
แนวต้าน : 175 และ 180
แนวรับ : 170.50 และ 170
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากฟื้นตัวเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ BBL โดยมีแนวรับที่ 170.50 และ 170 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 175 และ 180 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 166 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 162 เป็นจังหวะซื้อเพิ่ม
Bangkok Life Assurance (BLA TB; THB 38.25) - ซื้อ
แนวต้าน : 40.00 และ 42.00
แนวรับ : 38.25 และ 38.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวจุดต่ำสุดเดิม แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวโน้มลง RSI ปรับตัวเข้าใกล้ระดับ 50 แนะนำซื้อ BLA โดยมีแนวรับที่ 38.25 และ 38.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 40.00 และ 42.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 37.00 ลงไป
Top Trading Picks follow up แนวรับ แนวต้าน
STEC สัญญาณซื้อ แนวต้านระยะสั้น 25.50 แนวต้านถัดไป 27.00 25.00 / 24.80 26.00 / 27.00
CBG สัญญาณซื้อต่อเนื่อง แนวโน้มขึ้นทดสอบ 58.00 และ 60.00 56.00 / 55.50 57.00 / 58.00
STPI สัญญาณฟื้นตัวยังแข็งแกร่ง แนวโน้มขึ้นทดสอบ 11.00 และ 11.40 10.40 / 10.30 10.80 / 11.00
SYNTEC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.40 แนวรับสำคัญ 3.14 3.20 / 3.14** 3.30 / 3.40
CNT ซื้อที่แนวรับ 4.14 หลังทดสอบแนวต้านที่ 4.30 แนวโน้มขึ้นทดสอบ 4.70 4.18 / 4.14 4.30 / 4.50
SPCG แนวโน้มขึ้นทดสอบ 23.00 และ 23.50 แนวรับสำคัญ 21.60 21.80 / 21.60 22.50 / 23.00
AQUA ซื้อที่แนวรับ 0.86 แนวโน้มขึ้นทดสอบ 0.92 และ 0.97 0.86 / 0.85 0.90 / 0.92
PYLON แนวโน้มขึ้นทดสอบ 12.00 และ 12.50 แนวรับสำคัญ 10.50 11.20 / 11.00 11.50 / 12.00
Analysts : Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...Earning yield gap
การปรับตัวขึ้น ของดัชนี SET ที่ 4.5% หลังตลาดคลายความกังวลเรื่อง Brexit วันที่ 24 มิ.ย. ส่งผลให้ตอนนี้ดัชนี SET ขึ้นมาที่บริเวณ 1480+/- จุด จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ แรงซื้อของต่างชาติที่เข้ามา ถือเป็นปัจจัยในเชิงบวกกับตลาด แต่จะซื้อต่อเนื่องหรือไม่ ยังคงเป็นคำถาม ส่วนใหญ่แรงซื้อที่ดัชนีกำลังขึ้นไต่ขอบ +2SD มักจะเป็นเรื่องสำคัญ โดยตอนนี้เรามองน่าจะมาจากความคาดหวังเรื่องการลงประชามติในต้นเดือน ส.ค. มากกว่าปัจจัยทางพื้นฐาน เพราะอย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่าผลการดำเนินงาน Q2/16 ของตลาดรวมยังทรงๆ ตัวหรือประคับประคองตัวมากกว่าที่จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในทางพื้นฐานนอกจากตลาดหุ้นไทยขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าสูงกว่าภูมิภาคในรอบ 15 ปี บางสัดส่วนในทางพื้นฐานที่ใช้เปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุนระหว่างอัตราผลตอบแทนของตลาด (Market earning yield ส่วนกลับของค่า P/E) เทียบอัตราผลตอบแทนในภูมิภาค หรือเทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีสหรัฐหรือ Earning yield gap ดูจากรูปด้านซ้ายและขวา ในรูปด้านซ้ายเทียบ Earning yield ของตลาดหุ้นไทย เทียบ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ พบว่าส่วนต่างในปัจจุบัน ยังทรงๆ ใกล้ค่าเฉลี่ยแต่มีแนวโน้มสูงขึ้น สะท้อนว่า Earning yield ของตลาดหุ้นไทยเริ่มลดลงหรือค่า P/E สูงขึ้น ขณะที่ Government bond yield ของสหรัฐทรงตัวหรือเพิ่มขึ้น ภาพตรงนี้ยังบอกอะไรได้ไม่มาก
รูปด้านขวา น่าจะบ่งชี้ได้ดีกว่ารูปด้านซ้าย เนื่องจากเป็นการแสดงอัตราผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทย เทียบภูมิภาค จากรูปพบว่าตอนนี้อัตราผลตอบแทนของ 2 ตลาด กำลังลงมาเล่นที่ค่า -2SD ซึ่งนานๆจะได้เห็น เหตุที่เป็นอย่างนี้มาจาก อัตราการผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยกำลังลดลง ขณะที่ภูมิภาคกำลังเพิ่มขึ้นหรือ ค่า p/E ของไทยกำลังขึ้นไปเล่นสูงมากๆ เมื่อเทียบกับภูมิภาค หากภาพเป็นอย่างที่เคยเป็น คือลงมาแตะที่ -2SD แล้วดีดตัวขึ้นไปเรื่อยๆดัชนี SET จะไปไม่ไหวหรือปรับตัวลง แต่หากปรับตัวลงมาที่ค่า -2SD อีก มีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะขึ้นต่อไปที่ระดับ 1500+/- จุด
ประเด็นที่จะกดดันหลังจากนี้ คือ ราคาน้ำมัน ตลาดอาจผิดหวังการประชุม ECB และผลการดำเนินงาน Q2/16 โดยเรามองว่าหากการประชุม ECB ออกมาในเชิงบวก ตลาดจะไปต่อช่วงสั้นแล้วจะเกิดแรงขาย แต่หากออกมาในเชิงลบ ตลาดจะแกว่งตัวแรง ส่วนประเด็นในเชิงบวก คือยังไม่เห็นปัจจัยลบที่เป็นรูปธรรม หากมีคือแรงเทขายทำกำไร หลังดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก ขึ้นสร้างสถิติหลายตลาด
ทิศทางดัชนีในช่วงปลายถึงสัปดาห์หน้า คาดตลาดจะยังเผชิญกับความผันผวนของราคาน้ำมัน การประชุม ECB และผลการดำเนินงาน อย่างไรก็ตามในวันนี้คาดดัชนีน่าจะเผชิญกับแรงขายทำกำไรในช่วงหยุดยาว เพื่อลดความเสี่ยง จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามามาก ทำให้เราคาดว่าหุ้นขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานดีแต่ราคายังปรับขึ้นช้า (laggard) อย่าง TOP PTTGC IVL BDMS จะเป็นเป้าหมายในการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างประเทศในระยะถัดไป วันนี้เราให้แนวรับที่ 1475-1483 และแนวต้านที่ 1495-1500 จุด เราแนะนำซื้อเก็งกำไร TOP PTTGC
Analysts : Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์ : ประเด็นที่จะกดดันหลังจากนี้ คือ ราคาน้ำมัน ตลาดอาจผิดหวังการประชุม ECB และผลการดำเนินงาน Q2/16 โดยเรามองว่าหากการประชุม ECB ออกมาในเชิงบวก ตลาดจะไปต่อช่วงสั้นแล้วจะเกิดแรงขาย แต่หากออกมาในเชิงลบ ตลาดจะแกว่งตัวแรง ส่วนประเด็นในเชิงบวก คือยังไม่เห็นปัจจัยลบที่เป็นรูปธรรม หากมีคือแรงเทขายทำกำไร หลังดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก ขึ้นสร้างสถิติหลายตลาด ทิศทางดัชนีในช่วงปลายถึงสัปดาห์หน้า คาดตลาดจะยังเผชิญกับความผันผวนของราคาน้ำมัน การประชุม ECB และผลการดำเนินงาน อย่างไรก็ตามในวันนี้คาดดัชนีน่าจะเผชิญกับแรงขายทำกำไรในช่วงหยุดยาว เพื่อลดความเสี่ยง จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามามาก ทำให้เราคาดว่าหุ้นขนาดใหญ่ที่มีพื้นฐานดีแต่ราคายังปรับขึ้นช้า (laggard) อย่าง TOP PTTGC IVL BDMS จะเป็นเป้าหมายในการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างประเทศในระยะถัดไป วันนี้เราให้แนวรับที่ 1475-1483 และแนวต้านที่ 1495-1500 จุด เราแนะนำซื้อเก็งกำไร TOP PTTGC
Themes play :
TOP PTTGC IVL : เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร TOP PTTGC IVL โดยมีราคาเป้าหมายที่ 75 บาท, 70 บาทและ 50 บาท ตามลำดับ โดยหุ้นทั้ง 3 บริษัทเป็นหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50 ที่ราคายังปรับขึ้นช้ากว่าตลาด โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาที่ตลาด (SET)ปรับตัวขึ้น +4.2% แต่ TOp -2%, PTTGC +2.1% และ IVL -3.2% ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ราคาน้ำมันมีการปรับฐานลงในช่วงสั้น บวกกับคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 อาจจะไม่ดีมากนักตามค่าการกลั่นและ spread margin ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามเราคาดว่าทั้งค่าการลั่นและ spread margin จะกลับมาดีขึ้นในครึ่งปีหลังจากความต้องการที่ฟื้นตัวขึ้นในช่วง high season บวกกับราคาน้ำมันก็มีแนวโน้มฟื้นตัวตามค่าเงินดอลลาร์ที่คาดว่าจะกลับมาอ่อนค่าลง หากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในวันที่ 26-27 ก.ค. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามที่ตลาดคาด ในระยะสั้นเราให้ TOP เป็น top pick เพราะคาดว่ากำไรไตรมาส 2/59 อาจออกมาดีกว่าตลาดคาดโดย Bloomberg consensus คาดกำไรประมาณ 7 พันล้านบาท ดีขึ้นทั้ง yoy และ qoq
ประเด็นในสัปดาห์
15 ก.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Retail Sales Advance MoM เดือนมิ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ +0.5%
15 ก.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI YoY เดือนมิ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ +1.0%
15 ก.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Industrial Production MoM เดือนมิ.ย. จากเดือนก่อนหน้าที่ -0.4%
Fundamental Stock :
=> AP : Company Note (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 9.00 บาท)
Technical Pick:
SET Index แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1500 และ 1530 จุด
Bangkok Bank (BBL TB; THB 170.50) - ซื้อ
Bangkok Life Assurance (BLA TB; THB 38.25) - ซื้อ
SET Index : แนวโน้มทดสอบ 1530
Retail Research Team