- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 14 July 2016 16:07
- Hits: 641
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์หลังขึ้นหลายวัน แต่ฟันด์โฟลว์จะจำกัดทางลง
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ไซด์เวย์หลังขึ้นหลายวัน พักบ้าง (วานนี้ฟันด์โฟลว์ยังแรง ตามคาด) คาดตลาดจะชะลอเพื่อติดตามผลประชุม ธ.กลางอังกฤษหรือ BoE ค่ำวันนี้ (นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาด BoE จะลดดอกเบี้ยจากปัจจุบันอยู่ที่ 0.50% เพื่อลดแรงกระทบจาก Brexit) ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่นชะลอ เมื่อวานยุโรปรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรม -1.2% ใน พ.ค. (+1.4% ใน เม.ย.) ด้านราคาน้ำมันปรับฐาน 4% หลังสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของ EIA ลดลงน้อยกว่าที่ตลาดคาด ทั้งนี้แม้ SET อาจพักฐานแต่ทางลงมีจำกัดหลังฟันด์โฟลว์ยังแกร่งอยู่ ด้านปัจจัยภายในไม่มีข่าวใหม่เพิ่มเติม โดยประเด็นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานยังเด่น และหนุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนภาครัฐฯ ต่อไป
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไรหุ้นลงทุนภาครัฐฯ SCC*, PYLON / การบริโภค TACC
SCC* (เป้าพื้นฐาน 620 บาท) 1) ประเมินรูปแบบราคาวานนี้ทะลุผ่านแนวต้านเทรนด์ไลน์ที่ 480 บาท ขึ้นมาได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านแรกที่ 490 บาท และ 498 บาท ตามลำดับ โดยมีแนวรับที่ 480 บาท (Stop loss 472 บาท) 2) ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เราประเมินราคา SCC* Laggard หุ้นที่ได้อานิสงส์โครงการก่อสร้างภาครัฐฯ (กลุ่มรับเหมาฯ ปรับขึ้นแล้ว) โดยฝ่ายวิจัยฯประเมินดีมานด์ปูนซีเมนต์ปีนี้จะเติบโตราว 3-5% โดยเฉพาะในไตรมาส 4/59 (โดยเฉพาะโครงการมอเตอร์เวย์และรถไฟฟ้าที่ต้องใช้ปูนซีเมนต์มาก และจะเป็นการกระตุ้นการก่อสร้างบ้านและคอนโดฯอีกรอบ เห็นได้จากหุ้นกลุ่มอสังหาฯที่ปรับขึ้นแรง) ... ดูรายละเอียดในบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันที่ 29 มิ.ย.59
PYLON (เป้าสูงสุด Consensus 12.4 บาท) จากการเข้าพบผู้บริหาร 1) ประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมเสาเข็มของไทยจะเริ่มต้นขาขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/59 เป็นต้นไป อีกอย่างน้อย 2 – 3 ปี จากนโยบายการลงทุนภาครัฐฯ 2) ภาคอสังหาฯเริ่มฟื้นตัว ตามการลงทุนภาครัฐฯ (เห็นได้จากการเริ่มเปิดโครงการใหม่ฯ) เป็นบวกต่อดีมานด์เสาเข็มในภาคเอกชน 3) คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 จะเป็นจุดต่ำสุดและเริ่มต้นของ Earning momentum ขาขึ้นในไตรมาส 3/59 เป็นต้นไป (งบไตรมาส 2/59 คาดจะลดลง QoQ และ YoY ดังนั้นเราจึงยังแนะนำเพียง “เก็งกำไร”) 4) ประเมินแนวต้านแรก 11.2 บาท หากผ่านได้ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 11.5 บาท และ 12 บาท ตามลำดับ แนวรับ 10.7 บาท และ Stop loss 10.5 บาท
TACC (เป้าพื้นฐาน 7.4 บาท) 1) แนะนำ “เก็งกำไร” โดยมีแนวต้านแรกที่ 6.25 บาท (แนวต้านเทรนด์ไลน์ขาลง) หากทะลุผ่านได้ ประเมินเป้าหมายทางเทคนิคที่ 6.60 บาท และ 6.85 บาท แนวรับ ±6 บาท 2) ประเมินแนวโน้มอัตราการเติบโตของกำไร 34% ต่อปี CAGR (2558 - 2561) จาก i) Organic growth คือการเติบโตตามร้าน 7-Eleven เฉลี่ยปีละ 4-5% จากการขายผลิตภัณฑ์ ชา-กาแฟ (โถกดในร้าน 7-Eleven) ii) Inorganic growth คือการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้กับร้าน 7-Eleven (เครื่องกดเครื่องดื่มร้อน + สินค้าลิขสิทธิ์ Sanrio โดยจะเริ่มที่สินค้าแบรนด์ Hello Kitty ... เริ่มวางขายในร้าน 7-Eleven เดือน ก.ย.นี้) และการส่งออกน้ำทุเรียน + มะม่วง (ชนิดชงน้ำร้อน) ไปยังประเทศจีน (เริ่มผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว รอแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายที่จีนเป็นทางการเร็วๆนี้)
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (ITD*, UNIQ*, CK*, STEC*, SEAFCO, PYLON) และวัสดุฯ (SCC*, TASCO*) จากการเร่งผลักดันแผนการลงทุนนโยบายภาครัฐฯ (มอเตอร์เวย์ + รถไฟฟ้า + รถไฟรางคู่ + รถไฟความเร็วสูง) และการเตรียมความพร้อมออกกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มฯ เลือก CK* เป็น Top pick ของกลุ่มรับเหมาฯตัวใหญ่ เลือก PYLON เป็น Top pick กลุ่มรับเหมาตัวเล็ก (งานเสาเข็ม) และ TASCO* เป็น Top pick หุ้นกลุ่มวัสดุฯ
หุ้นกลุ่มสื่อเกาะแนวรถไฟฟ้า (PLANB*, MACO) การประมูลโครงการรถไฟฟ้า และเริ่มเดินรถเส้นทางใหม่ๆ เราประเมินหุ้นกลุ่มสื่อโฆษณานอกบ้านจะได้อานิสงส์ (พื้นที่โฆษณาเพิ่ม) รวมทั้งคาดการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัว ทำให้เม็ดเงินโฆษณาเริ่มฟื้นตัวใน 2H59 (เห็นได้จากราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกและอสังหาฯแนวรถไฟฟ้าที่ Outperform ตลาดฯในช่วงที่ผ่านมา) i) PLANB* (เป้า Consensus 6.9 บาท) ราคาไม่ผ่านแนวต้าน 5.7 บาท คาดอ่อนตัวลงสู่แนวรับ 5.35 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ที่แนวรับ (กำหนด Stop loss ที่ 5.35 บาท) ii) MACO (ยังไม่มีเป้า Consensus) วานนี้ถูกแรงขายกดหลุดแนวรับ 1.33 บาท ที่เราประเมินไว้ หากวันนี้รีบาวด์กลับไปยืนเหนือ 1.33 บาทได้ แนะนำ “ถือ” หากต่ำกว่าแนะนำ Stop loss สำหรับการเก็งกำไรสั้น
หุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC*, SUPER, TPCH, PSTC, UWC) การประมูล FiT โรงไฟฟ้าชีวมวล 36MW เดือนนี้ (โครงการนำร่อง โครงการแรกของไทย) จะนำไปสู่การเปิดประมูลโครงการอื่นๆตามมาใน 2H59 – 1H60 เลือก IFEC* (อยู่ระหว่างเจรจาซื้อพลังงานทดแทนในต่างประเทศ คาดประกาศเร็วๆนี้ + รอการเปิดประมูล FiT พลังงานลมในไทยช่วงปลายปีนี้ – ต้นปีหน้า) และ TPCH (โรงไฟฟ้าชีวมวล คาดเปิดประมูลล๊อตใหญ่ 400MW ปลายปีนี้) เป็นหุ้นเด่น
หุ้นมีข่าว
(+) รฟม. คาดจะเจรจาเพื่อหาผู้ให้บริการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ในอนาคต (ข่าวหุ้น) เราเห็นว่า ข่าวดังกล่าวเป็นบวกต่อ BEM* ในอนาคต หลังโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงเหนือ (บางใหญ่-บางซื่อ ระยะยทาง 23 กม.) จะเปิดให้บริการวันที่ 6 ส.ค.59 ขณะที่สายสีม่วงใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 42.8 กม.) ซึ่งจะเป็น PPP gross cost เราแนะนำให้ถือ โดยมีราคาเป้าหมายเท่ากับ 6.85 บาท
(+) EGCO* ซื้อหุ้น 'มาซินลอค' เพิ่ม ผนึกกลุ่มทุนรุกจ่ายไฟอินโด (ทันหุ้น) EGCO ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้ามาซินลอค ประเทศฟิลิปปินส์ ขนาด 315 เมกะวัตต์เพิ่ม คิดเป็นสัดส่วน 8.05% รวมถือหุ้น 49% ชี้มีโรงไฟฟ้าส่วนขยายขนาด 335 เมกะวัตต์ คาดเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์กลางปี 2562 นี้ ผนึกพันธมิตรซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าประเทศอินโดนีเซียอัพฐาน ลุยผลิตไฟฟ้า 400 เมกะวัตต์ หวังขายไฟฟ้าในทวายต่อไป มั่นใจปี 2559 กำไรและรายได้พุ่งพรวด
(+) TFD เฮงพานาโซนิ-เทสลา อัดฉีดซื้อที่ดิน 3.2 พันล้าน (ทันหุ้น) TFD เสือนอนกินตัวจริง กนอ. พิจารณาอนุมัติขายที่ดินจำนวน 800 ไร่ ล่าสุดพานาโซนิและ Tesla Motors ควงแขนอัดฉีดงบ 3,200 ล้านบาท ซื้อที่ดิน หนุนกำไรเพียบ พร้อมปรับราคาขายขึ้นอีก 10% หนุนยอดขายที่ดินทะลักลั่นปี 2559 มั่นใจพลิกกำไร ส่วนปี 2560 กำไรโตกระโดด
(+) ANAN* เซ็นร่วมทุนมิตซุย ผุด 3 โครงการใหม่รับทรัพย์ (ทันหุ้น) ANAN ผนึกยักษ์ใหญ่ "มิตซุย ฟูโดซัง" ตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ 3 แห่ง ดีเดย์เปิด 3 โครงการโกยเงินช่วงปลายปีนี้ เสริม Backlog จากเดิมราว 3.8 หมื่นล้านบาท กินยาวปีหน้า แถมเดินหน้าอัดงบ 8.7 พันล้านบาท ช็อปที่แปลงสวย ปูทางพัฒนาโครงการเพิ่ม
(+) DEMCO คว้างานกฟภ. 299 ล. การันตีรายได้เข้าเป้า 10-15% (ทันหุ้น) DEMCO คว้างานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าสมุทรสาคร 7 และ สถานีไฟฟ้าคลองขวาง 2 จังหวัดฉะเชิงเทรา ของ กฟภ. มูลค่ากว่า 299.80 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 18 เดือน เริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2559 ผู้บริหาร "พงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์" ส่งซิกเตรียมเข้าประมูลงานใหญ่อีกหลายดีล หนุนงานในมือพุ่ง มั่นใจทั้งปี 2559 รายได้เข้าเป้า 10-15%
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
IFEC* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) แนะนำ “สะสม” ประเมิน Downside ต่ำ โดยคำนวณ Replacement cost จากสินทรัพย์ในมือได้ = 6.1 บาท ไม่รวมโครงการที่กำลังก่อสร้าง + อยู่ระหว่างเจรจาซื้อใหม่เพิ่มคาดประกาศได้เร็วๆนี้ ขณะที่ รร ดาราเทวี คาดเตรียมออกจากแผนฟื้นฟูฯ ภายใน ส.ค.นี้ (ปลดล๊อกการลงทุน และบันทึกกำไรพิเศษจากการขายที่ดินเพิ่มอีกในไตรมาส 3/59) ... เริ่มมีการออก Call DW บนหุ้น IFEC หลังติด SET100 คาดอาจมีแรงเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามา
TPCH (เป้า Consensus 22.6 บาท) ราคาหุ้นวานนี้ทะลุผ่านแนวต้านที่ 19.2 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 20.3 บาท ... การปรับสัญญาขายไฟของโรงไฟฟ้าชีวมวล + การประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวล 36MW และการเปิดประมูลล๊อตใหญ่ 400MW ปลายปีนี้
TWZ (เป้าพื้นฐาน 0.49 บาท) ราคาหุ้นปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 0.40 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 0.47 บาท แต่หากยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 0.40 บาทได้ แนะนำ “สะสม” ในกรอบ 0.36 – 0.40 บาท ... สตอรี่ขายเครื่องพ่วงซิม ADVANC* (เหมือนตอน COM7* ขายเครื่องพ่วงซิม TRUE* ซึ่งราคา COM7 ปรับขึ้นไปแล้ว)
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 38.85 บาท) ราคาหุ้นทรงตัวภายใต้เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ที่ 27 บาท แนะนำ “สะสม” ในกรอบ 26 – 27 บาท ... คาดงบไตรมาส 2/59 เป็นจุดต่ำสุด ซึ่งตลาดรับรู้ไปพอสมควรแล้ว
BTS* (เป้า Consensus 10.1 บาท / สูงสุดที่ 12.1 บาท) พักตัวรอสัญญาณซื้อถ้าทะลุแนวต้าน 9.80 บาท มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 10.10 บาท แต่หากยังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านได้ จะแกว่งตัว Sideway ในกรอบ 9.6 – 9.8 บาท (Stop loss ถ้าต่ำกว่า 9.6 บาท)
BCP* (เป้าพื้นฐาน 36 บาท) แนะนำ Let profit run เป้าหมายทางเทคนิคที่ 36 บาท (จุดขายล๊อกกำไรหากต่ำกว่า 33.75 บาท) … ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มค่าการกลั่นในไตรมาส 2/59 เป็นจุดต่ำสุด และจะฟื้นตัวใน 2H59 + มีสตอรี่ IPO บ.ลูก (โซลาร์ฟาร์มในไทยและญี่ปุ่น) ปลายปีนี้
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
TISCO* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 62 บาท (ปรับขึ้นจาก 55 บาท) ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิของ TISCO ขึ้นอีก 4%/3% ในปี 2016/2017 หลังจากที่ได้ปรับสมมติฐาน และขยับไปใช้ราคาเป้าหมายในอีก 12 เดือนข้างหน้า โดยอิงจาก P/E ที่ 9.5x ปัจจัยสนับสนุนหลักได้แก่คุณภาพสินทรัพย์ที่กำลังปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะทำให้ credit cost ลดลง และโอกาสในการสร้างการเติบโตจากสินเชื่อผู้บริโภคของธนาคาร
SVI* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 5.9 บาท คาดกำไรปกติไตรมาส 2/59 = 132 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% QoQ แต่ลดลง 44% YoY ฝ่ายวิจัยฯปรับลดประมาณการฯกำไรปกติของ SVI ในปี 2559 -2561 จะลดลง 10.8%, 4.9% และ 0.5% ตามลำดับ
LPN* แนะนำ “ถือ” (ปรับลงจาก “ซื้อ”) เป้าพื้นฐาน 15.3 บาท (ปรับลงจาก 17.6 บาท) ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯปี 2559 – 60 ลง 3.3% และ 19.7% ตามลำดับ อย่างไรก็ดีประเมินว่าราคาหุ้นที่ Underperfrom กลุ่มฯได้สะท้อนปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว จึงแนะนำ “ถือ”
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- กรอบราคา 1471 – 1478 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1478 จุดนั้น อาจรักษาแรงผลักขึ้นทดสอบต้าน 1491 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1471 จุดนั้น อาจกดราคาลงทดสอบรับ 1462 จุด
แนวรับวันนี้: 1471/1463 แนวต้านวันนี้: 1478/1491
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]