- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 13 July 2016 16:18
- Hits: 425
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งขึ้นต่อ เม็ดเงินต่างชาติยังแข็งแกร่ง
KGI คาด SET วันพุธขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน (วานนี้ฟันด์โฟลว์ยังแรง ตามคาด) ปัจจัยภายนอกยังเป็นบวก หลังราคาน้ำมันดีดแรง 4.7% ตามรายงานของโอเปกที่คาดว่าอุปสงค์น้ำมันจะขึ้นสูงเกินกำลังการผลิตในไม่ช้านี้ คาดหุ้นน้ำมัน/ปิโตร เด่นขึ้นในช่วงสั้น ขณะที่ความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นทางการคลังของญี่ปุ่น, มาตรการทางการเงินจาก ธ.กลางจีน และมาตรการทางการเงินจาก ธ.กลางอังกฤษ ยังหนุนสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะตลาดหุ้นเอเชีย ด้านปัจจัยเศรษฐกิจโลก เมื่อคืนผู้ว่าเฟดเซ็นหลุยส์ และหัวหน้าฝ่ายวิจัยของเฟด เจมส์ บูลลาร์ด แถลงว่าสหรัฐฯ น่าจะขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ ส่งผลให้ Fed fund probability ของเดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นจาก 11% เป็น 19% แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับต่ำและไม่น่ากดดันตลาดหุ้นแต่อย่างใด ยังคงแนะนำถือหุ้น/เก็งกำไรต่อ และคงเป้าหมายดัชนีฯ เดือนนี้ที่ 1,500 จุด
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไรตัวใหญ่ SCC*, BTS* / ตัวเล็ก TACC
SCC* (เป้าพื้นฐาน 620 บาท) 1) ประเมินรูปแบบราคาวานนี้ทะลุผ่านแนวต้านเทรนด์ไลน์ที่ 480 บาท ขึ้นมาได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 490 บาท และ 498 บาท ตามลำดับ โดยมีแนวรับที่ 480 บาท (Stop loss 472 บาท) 2) ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เราประเมินราคา SCC* Laggard หุ้นที่ได้อานิสงส์โครงการก่อสร้างภาครัฐฯ (กลุ่มรับเหมาฯ ปรับขึ้นแล้ว) โดยฝ่ายวิจัยฯประเมินดีมานด์ปูนซีเมนต์ปีนี้จะเติบโตราว 3-5% โดยเฉพาะในไตรมาส 4/59 (โดยเฉพาะโครงการมอเตอร์เวย์และรถไฟฟ้าที่ต้องใช้ปูนซีเมนต์มาก และจะเป็นการกระตุ้นการก่อสร้างบ้านและคอนโดฯอีกรอบ เห็นได้จากหุ้นกลุ่มอสังหาฯที่ปรับขึ้นแรง) ... ดูรายละเอียดในบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันที่ 29 มิ.ย.59
BTS* (เป้า Consensus 10.1 บาท / สูงสุดที่ 12.1 บาท) 1) ประเมินรูปแบบราคาพักตัวรอสัญญาณซื้อถ้าทะลุแนวต้าน 9.80 บาท มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 10.10 บาท แต่หากยังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านได้ จะแกว่งตัว Sideway ในกรอบ 9.6 – 9.8 บาท 2) ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เราประเมินราคา Laggard หุ้นลูกอย่าง VGI* (VGI ขึ้นมาแล้ว 84% YTD แต่ BTS ปรับขึ้นมาเพียง 8% YTD) ... นักลงทุนอาจพิจารณาเก็งกำไร MACO ที่เป็น บ.ลูก VGI แต่ปรับขึ้นน้อยกว่าเช่นกัน (คาดได้อานิสงส์การประมูลรถไฟฟ้า + การฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศเช่นกัน)
TACC (เป้าพื้นฐาน 7.4 บาท) 1) วานนี้ปรับขึ้นทดสอบแนวต้านเทรนด์ไลน์ขาลงที่ 6.25 บาท แต่ไม่สามารถทะลุผ่านได้ คาดย่อตัวลงมาทดสอบแนวรับ 5.95 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” โดยยังคงประเมินเป้าหมายทางเทคนิคที่ 6.60 บาท และ 6.85 บาท 2) ประเมินแนวโน้มอัตราการเติบโตของกำไร 34% ต่อปี CAGR (2558 - 2561) จาก i) Organic growth คือการเติบโตตามร้าน 7-Eleven เฉลี่ยปีละ 4-5% จากการขายผลิตภัณฑ์ ชา-กาแฟ (โถกดในร้าน 7-Eleven) ii) Inorganic growth คือการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้กับร้าน 7-Eleven (เครื่องกดเครื่องดื่มร้อน + สินค้าลิขสิทธิ์ Sanrio โดยจะเริ่มที่สินค้าแบรนด์ Hello Kitty ... เริ่มวางขายเดือน ก.ย.นี้) และการส่งออกน้ำทุเรียน + มะม่วง (ชนิดชงน้ำร้อน) ไปยังประเทศจีน (เริ่มผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว รอแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเป็นทางการเร็วๆนี้) … วานนี้มีบทวิเคราะห์ Alert
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มอสังหาฯ (AP*, ANAN*) หุ้นกลุ่มอสังหาฯ Outperform ตลาดฯ ตามที่ฝ่ายวิจัยฯประเมิน (ประเมินว่าผ่านจุดต่ำสุด และเริ่มฟื้นตัว) โดยเรายังคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มฯ เป็น “มากกว่าตลาดฯ” และเลือก AP* กับ ANAN* เป็นหุ้นเด่นในเชิงพื้นฐาน (ANAN เริ่มมี Upside จำกัดเพียง 7% ขณะที่ AP มี Upside เหลือมากกว่าที่ 15%)
หุ้นกลุ่มสื่อสาร (ADVANC*, TRUE*, DTAC*) DTAC* รายงานกำไรสุทธิ 141 ล้านบาท (ต่ำกว่าที่คาด 554 ล้านบาท) ฝ่ายวิจัยฯยังคงประเมิน ADVANC* เด่นกว่า DTAC* ในเชิงพื้นฐาน สำหรับนักลงทุนที่มี DTAC เราแนะนำ Switching ไป ADVANC*
หุ้นกลุ่มสื่อเกาะแนวรถไฟฟ้า (PLANB*, MACO) การประมูลโครงการรถไฟฟ้า และเริ่มเดินรถเส้นทางใหม่ๆ เราประเมินหุ้นกลุ่มสื่อโฆษณานอกบ้านจะได้อานิสงส์ (พื้นที่โฆษณาเพิ่ม) รวมทั้งคาดการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัว ทำให้เม็ดเงินโฆษณาเริ่มฟื้นตัวใน 2H59 (เห็นได้จากราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกและอสังหาฯแนวรถไฟฟ้าที่ Outperform ตลาดฯในช่วงที่ผ่านมา) i) PLANB* (เป้า Consensus 6.9 บาท) ราคาไม่ผ่านแนวต้าน 5.7 บาท คาดอ่อนตัวลงสู่แนวรับ 5.35 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ที่แนวรับ (กำหนด Stop loss ที่ 5.35 บาท) ii) MACO (ยังไม่มีเป้า Consensus) รูปแบบราคาแกว่งตัวในกรอบ 3 เหลี่ยม 1.34 – 1.42 บาท รอสัญญาณการ Breakout … 2 ตัวที่เลือก ราคา Laggard VGI*
หุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC*, SUPER, TPCH, PSTC, UWC) การประมูล FiT โรงไฟฟ้าชีวมวล 36MW เดือนนี้ (โครงการนำร่อง โครงการแรกของไทย) จะนำไปสู่การเปิดประมูลโครงการอื่นๆตามมาใน 2H59 – 1H60 เลือก IFEC* (อยู่ระหว่างเจรจาซื้อพลังงานทดแทนในต่างประเทศ คาดประกาศเร็วๆนี้ + รอการเปิดประมูล FiT พลังงานลมในไทยช่วงปลายปีนี้ – ต้นปีหน้า) และ TPCH (โรงไฟฟ้าชีวมวล คาดเปิดประมูลล๊อตใหญ่ 400MW ปลายปีนี้) เป็นหุ้นเด่น
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (ITD*, UNIQ*, CK*, STEC*, SEAFCO, PYLON) และวัสดุฯ (SCC*, TASCO*) กรมทางหลวงเตรียมเปิดประมูลมอเตอร์เวย์ 2 สายภายในงบประมาณปี 2560 ขณะที่การประมูลงานรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง (ชมพู เหลือง ส้ม) จะขายซองประมูลในเดือน ก.ค.นี้ เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มฯ เลือก CK* เป็น Top pick ของกลุ่มรับเหมาฯตัวใหญ่ และ TASCO* เป็น Top pick หุ้นกลุ่มวัสดุฯ
หุ้นมีข่าว
(+) GL* ได้รับใบอนุญาตผู้ประกอบการสินเชื่อรายย่อยในอินโดนีเซีย อ้างอิงแหล่งข่าวจากอินโฟเควสท์ GL เผยว่าได้รับใบอนุญาตผู้ประกอบการสินเชื่อรายย่อยในอินโดนีเซีย ทำให้บริษัทสามารถเริ่มธุรกิจนี้ได้ภายในก.ค.นี้ ซึ่งธุรกิจนี้ GL ร่วมกับพาร์ทเนอร์ J Trust Bank ซึ่งมีสาขาอยู่แล้ว 62 แห่ง ในอินโดนีเซีย
ความเห็น การเริ่มธุรกิจในอินโดนีเซียภายใน 2H16 ถือว่าอยู่ในแผนของบริษัท ซึ่งจำนวนสินเชื่อเข้ามา และอัตราการเติบโตจะเป็นปัจจัยหลัก ทั้งนี้ภายใต้ประมาณการกำไร 885/1195 ล้านบาท ในปี 2516/2017 (+41%/+35%) ยังไม่รวมรายได้จากอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตามด้วย PE สูงถึง 70 เท่า ทำให้เราคงคำแนะนำ Underperform ที่ราคาเหมาะสม 26.5 บาท
(0) STAR โดนเทกฯ TFEHแบ็กดอร์ แลกหุ้น 91.18% (ข่าวหุ้น) STAR ราคาพุ่ง 29% หลังโดน “ไทยฟิวเจอร์ เอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้ง” เจ้าของโซลาร์ฟาร์มพื้นที่ 300 ไร่ เทกโอเวอร์-แบ็กดอร์แลกหุ้น 1,750 ล้านหุ้น เข้าถือหุ้น 91.18% เล็งทำเทนเดอร์ STAR ในราคาแลกหุ้น 1.30 บาท คาดดำเนินการแล้วเสร็จ Q4 เตรียมชงผู้ถือหุ้นอนุมัติ 21 ต.ค. 59
(+) ILINK เล็งคว้างานใหญ่ 4โครงการกว่า7พันล้าน ชิงดำย้ายสายไฟลงดิน 2.5 พันล้าน 21 ก.ค.นี้ (ข่าวหุ้น) “ILINK” มือขึ้นเปิดฉากจ่อคว้างานใหญ่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ชี้ทยอยรู้ผลประมูลในปี 59 จับตาวันที่ 21 ก.ค.นี้ เคาะราคาย้ายสายไฟฟ้าลงดินโครงการนนทรีของกฟน.มูลค่า 2,500 ล้านบาท ผู้บริหารมั่นใจมีลุ้นชนะงานทุกโครงการ ... Upside ILINK เหลือน้อยจากเป้าพื้นฐานของฝ่ายวิจัยฯที่ 22 บาท รวมทั้งประเด็นเรื่องงานเคเบิ้ลใต้น้ำ เราได้รวมในประมาณการฯแล้ว ไม่ใช่ประเด็นใหม่ นักลงทุนที่ซื้อตามที่เราแนะนำก่อนหน้า อาจพิจารณา “ขายทำกำไร”
(+) STA แจ้งชนะคดีการค้า กรณี“เซมเพอร์ริท”ฟ้อง สิทธิจำหน่ายถุงมือยาง (ข่าวหุ้น) STA เผยชนะคดีแข่งขันทางการค้าในยุโรป หลังถูกคู่สัญญากิจการร่วมค้า “เซมเพอร์ริท” ฟ้อง ในสิทธิจำหน่ายถุงมือยางที่ผลิตโดยกิจการร่วมค้าในประเทศเขตยุโรป
(+) PSTC เล็งออกหุ้นกู้-ตั๋วแลกเงิน วงเงิน 2 พันล้าน-เป้า 3 ปี ผลิตไฟฟ้า 100 MW (ข่าวหุ้น) “PSTC” รุกออกหุ้นกู้และตั๋วแลกเงิน วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท ขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก ลุยโซลาร์ ฟาร์มสหกรณ์ฯ 2 โครงการ รวม 10 MW ตั้งเป้า 3 ปี เพิ่มกำลังการผลิตเป็น 100 MW ดันรายได้ทะลุ 1,200 ล้านบาท
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
IFEC* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) แนะนำ “สะสม” ประเมิน Downside ต่ำ โดยคำนวณ Replacement cost จากสินทรัพย์ในมือได้ = 6.1 บาท ไม่รวมโครงการที่กำลังก่อสร้าง + อยู่ระหว่างเจรจาซื้อใหม่เพิ่มคาดประกาศได้เร็วๆนี้ ขณะที่ รร ดาราเทวี คาดเตรียมออกจากแผนฟื้นฟูฯ ภายใน ส.ค.นี้ (ปลดล๊อกการลงทุน และบันทึกกำไรพิเศษจากการขายที่ดินเพิ่มอีกในไตรมาส 3/59) ... เริ่มมีการออก Call DW บนหุ้น IFEC หลังติด SET100 คาดอาจมีแรงเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามา
TPCH (เป้า Consensus 22.6 บาท) ประเมินราคาหุ้นวานนี้ Breakout กรอบ Sideway ที่ 18.2 บาท แนะนำ “เก็งกำไรตาม” โดยประเมินแนวรับ 18.2 บาท และแนวต้าน 19.2 บาท ถัดไปที่ 20.3 บาท ... การปรับสัญญาขายไฟของโรงไฟฟ้าชีวมวล + การประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวล 36MW และการเปิดประมูลล๊อตใหญ่ 400MW ปลายปีนี้
TWZ (เป้าพื้นฐาน 0.49 บาท) ราคาหุ้นปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 0.40 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 0.47 บาท แต่หากยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 0.40 บาทได้ แนะนำ “สะสม” ในกรอบ 0.36 – 0.40 บาท ... สตอรี่ขายเครื่องพ่วงซิม ADVANC* (เหมือนตอน COM7* ขายเครื่องพ่วงซิม TRUE* ซึ่งราคา COM7 ปรับขึ้นไปแล้ว)
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 38.85 บาท) ราคาหุ้นทรงตัวภายใต้เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ที่ 27 บาท แนะนำ “สะสม” ในกรอบ 26 – 27 บาท ... คาดงบไตรมาส 2/59 เป็นจุดต่ำสุด ซึ่งตลาดรับรู้ไปพอสมควรแล้ว
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 14.8 บาท) แกว่งตัว Uptrend channel กรอบแนวรับ 13.2 บาท แนวต้าน 14.7 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” แต่หากวันนี้ต่ำกว่า 13.2 บาท แนะนำ “ขายตัดขาดทุน” ... ในเชิงพื้นฐานฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/59 โต +27.5% YoY เป็น 336 ล้านบาท (คาด SSSG เริ่มดีขึ้นเป็น 3% + สัดส่วนสินค้า House brand เพิ่มขึ้น)
BCP* (เป้าพื้นฐาน 36 บาท) Breakout แนวต้าน 34.25 บาท แนะนำ “Let profit run” มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±36 บาท … ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มค่าการกลั่นในไตรมาส 2/59 เป็นจุดต่ำสุด และจะฟื้นตัวใน 2H59 + มีสตอรี่ IPO บ.ลูก (โซลาร์ฟาร์มในไทยและญี่ปุ่น) ปลายปีนี้
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลยุทธ์: สรุปการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ที่ฮ่องกง เราพบว่าแม้นักลงทุนยังมีความกังวลต่อผลกระทบของ Brexit และภาพรวมเศรษฐกิจโลก แต่มีแนวโน้มที่นักลงทุนจะเข้าสู่หุ้นตลาดเกิดใหม่และหุ้นอาเซียน เพราะเชื่อมโยงฝั่งยุโรปน้อยและมีสัญญาณฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ ขณะที่เสียงตอบรับต่อเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวก็ชัดเจนขึ้น เราจึงมองทุนต่างชาติจะยังไหลเข้าหุ้นอาเซียนและตลาดหุ้นไทยต่อไป
DTAC* (เป้าพื้นฐาน 34 บาท) ประกาศงบ 2Q16 ที่ 141 ล้านบาท ต่ำกว่าเราและตลาดคาดถึง 75% สาเหตุสำคัญคือรายการพิเศษจำนวน 558 ล้านบาท หลักๆจากการปรับโครงสร้างพนักงานในบริษัท นอกจากนั้นแล้ว จำนวนลูกค้าในไตรมาสนี้หายไปถึง 5 แสนราย ซึ่งคาดว่าบริษัทต้องทำโปรแจกเครื่องต่อเนื่องเพื่อดึงลูกค้ากลับมาในช่วง 2H16 ซึ่งทั้งสองประเด็นทำให้เรามีแนวโน้มปรับกำไรปี 2016 ลงถึง 30%-35% ขณะที่คงประมาณการปี 2017 เนื่องจากมองว่าการแข่งขันที่อ่อนตัวลง คงแนะนำ ถือ
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- กรอบราคา 1470 – 1478 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือต้าน 1478 จุดนั้น อาจรักษาแรงผลักขึ้นทดสอบต้าน 1491 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1470 จุดนั้น อาจกดราคาลงทดสอบรับ 1459 จุด
แนวรับวันนี้: 1470/1459 แนวต้านวันนี้: 1478/1491
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]