- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 12 July 2016 16:53
- Hits: 648
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
บวกต่อ เม็ดเงินต่างประเทศยังหนุนจิตวิทยาตลาด
KGI คาด SET วันอังคารบวกต่อ (วานนี้หุ้นใหญ่นำดัชนีฯ ขึ้น ตามคาด) ฟันด์โฟลว์น่าจะเข้าหุ้นเอเชียต่ออีก หนุนโดย i) มุมมองว่าเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดี เพราะปัจจัยนอกสหรัฐฯ ยังดูเสี่ยง ii) ความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นทางการเงิน/การคลังจากทั่วโลก เช่นมาตรการจาก ธ.กลางอังกฤษหลังการประชุมวันที่ 14 ก.ค. มาตรการทางการคลังมูลค่า 10 ล้านล้านเยนจากญี่ปุ่น หลังวานนี้พรรคแอลดีพีของนายกฯ อาเบะ ชนะเลือกตั้งวุฒิสภาได้ ขณะที่ฝ่ายวิจัย KGI ประเทศจีนออกรายงานเมื่อวานนี้ มองว่า ธ.กลางจีนจะลดดอกเบี้ยและสำรองภาคธนาคาร (RRR) ในปลาย ก.ค. นี้ หลังเงินเฟ้อจีน มิ.ย. ชะลอสู่ 1.9% YoY ด้านปัจจัยภายใน ตลาดกำลังติดตามงบไตรมาส 2/2559 ของกลุ่มธนาคาร คาดตลาดรับรู้ประเด็นหนี้เสียที่ยังเพิ่มขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว และฟันด์โฟลว์น่าจะยังหนุนหุ้นธนาคารและหุ้น domestic plays กลุ่มอื่นๆ ต่อไป ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยคงมองเป้า SET เดือนนี้ที่ 1,500 จุด
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร TACC / สะสม TASCO*
TACC (เป้าพื้นฐาน 7.4 บาท) จากการเข้าพบผู้บริหาร 1) ประเมินแนวโน้มอัตราการเติบโตของกำไร 34% ต่อปี CAGR (2558 - 2561) จาก i) Organic growth คือการเติบโตตามร้าน 7-Eleven เฉลี่ยปีละ 4-5% จากการขายผลิตภัณฑ์ ชา-กาแฟ (โถกดในร้าน 7-Eleven) ii) Inorganic growth คือการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้กับร้าน 7-Eleven (เครื่องกดเครื่องดื่มร้อน + สินค้าลิขสิทธิ์ Sanrio โดยจะเริ่มที่สินค้าแบรนด์ Hello Kitty) และการส่งออกน้ำทุเรียน + มะม่วง (ชนิดชงน้ำร้อน) ไปยังประเทศจีน (เริ่มผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว รอแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเป็นทางการเร็วๆนี้) 2) ในเชิง Valuation เราประเมิน PE ของ TACC ควรถูก Re-rate ขึ้นไปสู่ระดับเดียวกับร้านค้าปลีก (+30 เท่า) จากการที่มีพื้นที่ขายสินค้าของตนเองเพิ่มขึ้นในร้าน 7-Eleven และบนเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ของจีน ประเมินราคาเหมาะสมได้เท่ากับ 7.4 บาท (DCF) คิดเป็น PE ปี 2560 = 33.5 เท่า (คิดเป็นเพียง +0.5 standard deviation ของ PE หุ้น CPALL*) 3) ประเมินแนวต้านใกล้ที่ 6.3 บาท หากผ่านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.60 บาท และ 6.85 บาท แนวรับ 6.10 บาท และ 5.95 บาท ... วันนี้มีบทวิเคราะห์ Alert
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 38.85 บาท) 1) แม้คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 จะไม่เด่น (เป็น Low season กำไรปกติทรงตัว แต่กำไรสุทธิอาจลดลง QoQ และ YoY) แต่เราเชื่อว่าเป็นโอกาสในการซื้อสะสม เพราะเชื่อว่าไตรมาส 2/59 จะเป็นจุดต่ำสุด (คาดตลาดฯรับรู้ไปในราคาหุ้นแล้ว) และจะกลับมาฟื้นตัวเด่นในไตรมาส 3/59 (ผลจากตลาดต่างประเทศฟื้น + High season + ราคายางมะตอยฟื้น) 2) ประเมิน PE ยัง <10 เท่า 3) ผลกระทบจากพายุไต้ฝั่น เนพาร์ตัก ที่พัดเข้าไต้หวันและจีน ทำให้ถนนเสียหาย คาดจะทำให้ดีมานด์ยางมะตอยเพื่อการซ่อมแซมถนนเพิ่มขึ้น 4) ราคาหุ้นอาจทรงตัวภายใต้เส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ที่ 27 บาท แนะนำ "สะสม" ในกรอบ 26 - 27 บาท
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มเหล็ก (TSTH, BSBM, TMT) นสพ โพสต์ทูเดย์ ลงข่าว สมาคมผู้ผลิตเหล็กฯ ชี้ความต้องการใช้เหล็กเส้นปีนี้เพิ่ม 5% หลังจากภาครัฐมีการเร่งผลักดันโครงการสาธารณูปโภคและรถไฟฟ้าหลายเส้นทาง เราประเมิน เป็น Sentiment บวกต่อผู้ผลิตเหล็กเส้นอย่าง TSTH และ BSBM ขณะที่ TMT ได้อานิสงส์ไปด้วยเพราะเป็นผู้ค้าส่งเหล็กครบวงจร ฝ่ายวิจัยฯเลือก TMT เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มฯ ด้วยปันผลเฉลี่ย 9% ต่อปี
หุ้นกลุ่มสื่อ "นอกบ้าน" เกาะแนวรถไฟฟ้า (PLANB*, MACO) จากกระแสธีมการประมูลโครงการรถไฟฟ้า (เริ่มขายซองรถไฟฟ้าสีชมพู และ สีเหลือง และสายสีส้มสัปดาห์นี้) และการเริ่มเดินรถเส้นทางใหม่ๆ เราประเมินหุ้นกลุ่มสื่อโฆษณานอกบ้านจะได้อานิสงส์ไปด้วย (พื้นที่โฆษณาเพิ่ม) รวมทั้งคาดการบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวจะทำให้เม็ดเงินโฆษณาเริ่มฟื้นตัวใน 2H59 (เห็นได้จากราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีกและอสังหาฯแนวรถไฟฟ้าที่ Outperform ตลาดฯในช่วงที่ผ่านมา) i) PLANB* (เป้า Consensus 6.9 บาท) ราคาไม่ผ่านแนวต้าน 5.7 บาท คาดอ่อนตัวลงสู่แนวรับ 5.35 บาท แนะนำ "เก็งกำไร" ที่แนวรับ (กำหนด Stop loss ที่ 5.35 บาท) ii) MACO (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวในกรอบ 3 เหลี่ยม 1.34 - 1.42 บาท รอสัญญาณการ Breakout
หุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน (IFEC*, SUPER, TPCH, PSTC, UWC) การประมูล FiT โรงไฟฟ้าชีวมวล 36MW เดือนนี้ (โครงการนำร่อง โครงการแรกของไทย) จะนำไปสู่การเปิดประมูลโครงการอื่นๆตามมาใน 2H59 - 1H60 เลือก IFEC* (อยู่ระหว่างเจรจาซื้อพลังงานทดแทนในต่างประเทศ คาดประกาศเร็วๆนี้ + รอการเปิดประมูล FiT พลังงานลมในไทยช่วงปลายปีนี้ - ต้นปีหน้า) และ TPCH (โรงไฟฟ้าชีวมวล คาดเปิดประมูลล๊อตใหญ่ 400 MW ปลายปีนี้) เป็นหุ้นเด่น และนักลงทุนอาจพิจารณา 'เก็งกำไร' UWC ที่ราคายัง Laggard กลุ่มโรงไฟฟ้าชีวมวล
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (ITD*, UNIQ*, CK*, STEC*, SEAFCO, PYLON) และวัสดุฯ (SCC*, TASCO*) กรมทางหลวงเตรียมเปิดประมูลมอเตอร์เวย์ 2 สายภายในงบประมาณปี 2560 ขณะที่การประมูลงานรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง (ชมพู เหลือง ส้ม) จะขายซองประมูลในเดือน ก.ค.นี้ เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มฯ เลือก CK* เป็น Top pick ของกลุ่มรับเหมาฯตัวใหญ่ และ TASCO* เป็น Top pick หุ้นกลุ่มวัสดุฯ
หุ้นมีข่าว
(+) CI ซุ่มดีลทำคอมเมอร์เชียลในชะอำ ปูทางรับทรัพย์ก้อนโต คาดชัดเจนปี 2560 แถมเดินหน้าผุดของใหม่ 4.7 พันล้านบาท ปั๊ม Backlog เพิ่ม จากเดิมราว 3 พันล้านบาท บิ๊ก "สงกรานต์ อิสระ" ลั่นปี 2559 ยอดขายทะลุเป้า 3 พันล้านบาท อานิสงส์นโยบายลดหย่อนภาษีอสังหาภาครัฐ (ทันหุ้น) ความเห็น: ข่าวการทำคอมเมอร์เชียลในชะอำเป็นข่าวดีและเป็นข่าวใหม่ โดยหากโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จก็มีโอกาสที่ CI จะนำสินทรัพย์ดังกล่าวขายเข้ากอง REIT ทั้งนี้ ในเบื้องต้นยังต้องรอความชัดเจนและรายละเอียดโครงการเพื่อประเมินมูลค่าส่วนเพิ่มของโครงการ
(-) โรงพยาบาลเปาโล สาขาพหลโยธิน จะออกจากระบบประกันสังคมในปี 2017 (มติชน) เราเห็นว่า ข่าวดังกล่าวอาจมีผลกระทบทางลบเล็กน้อยในเชิงจิตวิทยาการลงทุนในหุ้น BDMS* เนื่องจากโรงพยาบาลเปาโล สาขาพหลโยธิน เป็นหนึ่งในเครือของโรงพยาบาลกรุงเทพ อย่างไรก็ตาม สัดส่วนรายได้ของผู้ป่วยประกันสังคมต่อ BDMS ในขณะนี้อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 5% ดังนั้น ผลกระทบจากประเด็นที่โรงพยาบาลดังกล่าวออกจากระบบประกันสังคมต่อ BDMS จะไม่มีนัยสำคัญมากนัก ขณะที่โรงพยาบาลสามารถสร้างรายได้ส่วนเพิ่มจากผู้ป่วยเงินสดอื่นๆ ได้มากขึ้นในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการเติบโตของ BDMS ในระยะยาว หากมองในภาพรวมกลุ่มโรงพยาบาล เราเห็นว่า LPH, BCH* และ CHG* ยังมีศักยภาพการเติบโตที่ดีจากกลุ่มผู้ป่วยประกันสังคม ซึ่งโรงพยาบาลเหล่านี้ทำได้ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มโรงพยาบาลของไทย เรายังคงให้ BDMS และ LPH เป็น Top picks โดยมีปัจจัยหนุนจากผลการดำเนินงานที่เติบโตที่แข็งแกร่ง
(+) IFEC* จับมือ'เน็ตโพซา' เบอร์สามซอฟต์แวร์โลก รุกสมาร์ทโฮม-สมาร์ทซิตี้ (ข่าวหุ้น) 'IFEC' แจ้งบริษัทย่อย "สมาร์ททรี" จับมือ "เน็ตโพซา" เบอร์ 3 ซอฟต์แวร์โลก รุก'สมาร์ทโฮม-สมาร์ทซิตี้' ในไทย มั่นใจเสริมสร้างศักยภาพการดำเนินธุรกิจได้อย่างดี ตอบรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล
(+) TASCO* ครึ่งหลัง ออเดอร์ทะลัก! งานยางมะตอย (ข่าวหุ้น) TASCO รอชิงเค้กยางมะตอย ชี้กรมทางหลวงลุยเบิกงบประมาณปี 60 ทะลัก 97,000 ล้านบาท จับตาครึ่งปีหลังทยอยเปิดประกวดราคา-เซ็นสัญญาตั้งแต่ต.ค.นี้ หนุนออเดอร์ยางมะตอยพุ่ง ครึ่งปีหลังฟาดกำไรไตรมาสละ 1 พันล้านบาท
(+) BWG ตั้งบ.ย่อยลุยนิคมฯพลังงานทดแทน (ASTVผู้จัดการรายวัน) เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน เดินหน้าลุยงานพัฒนานิคมอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนเต็มตัว ตั้งบริษัทย่อย "บริษัท บี กรีน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด" ดูแลงานด้านพัฒนาที่ดิน/นิคมฯ เป็นทางการ หลังเซ็น กนอ. ศึกษาและพัฒนานิคมอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนจากวัสดุที่ไม่ใช้แล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
IFEC* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) แนะนำ "สะสม" ประเมิน Downside ต่ำ โดยคำนวณ Replacement cost จากสินทรัพย์ในมือได้ = 6.1 บาท ไม่รวมโครงการที่กำลังก่อสร้าง + อยู่ระหว่างเจรจาซื้อใหม่เพิ่มคาดประกาศได้เร็วๆนี้ ขณะที่ รร ดาราเทวี คาดเตรียมออกจากแผนฟื้นฟูฯ ภายใน ส.ค.นี้ (ปลดล๊อกการลงทุน และบันทึกกำไรพิเศษจากการขายที่ดินเพิ่มอีกในไตรมาส 3/59) ... เริ่มมีการออก Call DW บนหุ้น IFEC หลังติด SET100 คาดอาจมีแรงเก็งกำไรระยะสั้นเข้ามา
TPCH (เป้า Consensus 22.6 บาท) ประเมินราคาหุ้นเริ่มพักฐานหลังปรับขึ้นแรง ประเมินแนวรับ 17.9 แนะนำ เก็งกำไร" ที่แนวรับ ... การปรับสัญญาขายไฟของโรงไฟฟ้าชีวมวล + การประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวล 36MW และการเปิดประมูลล๊อตใหญ่ 400MW ปลายปีนี้
TWZ (เป้าพื้นฐาน 0.49 บาท) ราคาหุ้นปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 0.40 บาท หากทะลุผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 0.47 บาท แต่หากยังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 0.40 บาทได้ แนะนำ "สะสม" ในกรอบ 0.36 - 0.40 บาท ... สตอรี่ขายเครื่องพ่วงซิม ADVANC* (เหมือนตอน COM7* ขายเครื่องพ่วงซิม TRUE* ซึ่งราคา COM7 ปรับขึ้นไปแล้ว)
GLOBAL* (เป้าพื้นฐาน 14.8 บาท) แกว่งตัว Uptrend channel กรอบแนวรับ 13.2 บาท แนวต้าน 14.7 บาท แนะนำ "เก็งกำไร" ... ในเชิงพื้นฐานฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/59 โต +27.5% YoY เป็น 336 ล้านบาท (คาด SSSG เริ่มดีขึ้นเป็น 3% + สัดส่วนสินค้า House brand เพิ่มขึ้น)
BCP* (เป้าพื้นฐาน 36 บาท) Breakout แนวต้าน 34.25 บาท แนะนำ "Let profit run" มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ?36 บาท … ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มค่าการกลั่นในไตรมาส 2/59 เป็นจุดต่ำสุด และจะฟื้นตัวใน 2H59 + มีสตอรี่ IPO บ.ลูก (โซลาร์ฟาร์มในไทยและญี่ปุ่น) ปลายปีนี้
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
TISCO* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 55 บาท รายงานกำไรไตรมาส 2/59 = 1.2 พันล้านบาท (-4% QoQ แต่ +20% YoY) ต่ำกว่าคาด 7% จากการตั้งสำรองฯ และค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่มากกว่าคาด
KTC* แนะนำ'ซื้อ' เป้าพื้นฐาน 125 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/59 จะเติบโต 31% YoY แต่ลดลง 3.5% QoQ เป็น 610 ล้านบาท
กลุ่มอสังหาฯ น้ำหนักการลงทุน 'มากกว่าตลาดฯ' ข้อมูลตลาดที่อยู่อาศัยเดือน มิ.ย. รายงานอัตรา take-up rate ขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 28.5% เป็น 29.2% โดยอุปทานใหม่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นใน 1H16 แต่ยังต่ำกว่าใน 1H15 อยู่ 24% ทั้งนี้ โครงการแนวราบทำยอด presales ใน 1H16 ได้ถึงกว่า 40% ของเป้าทั้งปี แต่เราเริ่มเห็นว่า presales ของผู้ประกอบการกลุ่มอาคารสูง มีโมเมนตั้มทางบวกก่อตัวขึ้นในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เรามองว่ากลุ่มโครงการระดับกลางฟื้นตัวได้ดีในช่วงต้นของวัฏจักรขาขึ้น ในขณะที่โครงการระดับล่างยังประสบปัญหาจากภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงและการถูกปฏิเสธสินเชื่อ
นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]