- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 11 July 2016 18:05
- Hits: 1330
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Prepare for Take off
วันนี้คาดดัชนีฯหุ้นไทย ปรับสูงขึ้นหลังสิ้นสุดการพักฐานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวรับ 1,445 จุด แนวต้าน 1,465 จุด
สัปดาห์นี้ คาดดัชนีฯขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,480 จุด หลังจากพักฐานไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แนวรับ 1,440/1,445 จุด ปัจจัยหนุน จะมาจากแรงซื้อคืนของนักลงทุนต่างชาติ คาดเพิ่มขึ้นก่อนการประชุมเฟด หลังตลาดมีการเปลี่ยนมุมมอง เลื่อนขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้, ความคืบหน้าออกกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ภายในเดือนนี้ หนุนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย เป็นบวกกลุ่มแบงก์ รับเหมา วัสดุก่อสร้าง และข่าวดีรายตัว กลุ่มเครื่องดื่ม คลังตัดสินใจไม่เก็บภาษีน้ำหวาน (ที่มา แนวหน้า) หุ้นบวกได้แก่ TACC ICHI SAPPE CBG
สำหรับ แนวโน้มเดือน กค. คาดขึ้นก่อนในช่วงครึ่งแรกของเดือน รับกระแส แนวโน้มเฟดเลื่อนขึ้นดอกเบี้ย หลังเศรษฐกิจโลกเสี่ยงเพิ่มจากกรณี BREXIT บวกกับกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ จะขายภายใน 2 เดือนนี้ (หนุนเศรษฐกิจไทย) และ ผันผวนในช่วงครึ่งเดือนหลัง โดยอาจพักฐานเพื่อรอดู Earning preview ผลการดำเนินงาน บจ. 2Q16 คาดกรอบ 1,430-1,470 จุด (ขยับขึ้นจาก 1,380-1,450 จุด)
หุ้นแนะนำวันนี้ CPALL แนวรับ 52.5 บ. ต้าน 55 บ. KTB แนวรับ 16.3 บ. ต้าน 16.8/17 บ. เก็งกำไร ICHI แนวรับ 11.7 บ.ต้าน 12.7/13 บ. (Stop loss 11.5 บ.)
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) SMT-W1 เข้าเทรดวันแรก คาดกรอบราคาทางทฤษฎี 2.20-2.50 บ.
(+) กลุ่มบ้าน สรุปประเด็นจาก BLS Property Day (มีผู้บริหารฯ ANAN, AP, LH, LPN, PS, SC และ CBRE ให้ข้อมูล) : 1) เราได้สัญญาณในทิศทางบวกในอุตสาหกรรมมากขึ้น คาดมาร์จิ้นผ่านจุดต่ำสุด การปรับลดกำไรของตลาดคาดจำกัด 2) CBRE มองตลาดคอนโดดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว ขณะที่รถไฟฟ้าที่กำลังจะเพิ่มขึ้นหนุนให้มีโอกาสในการเปิดโครงการมากขึ้น สรุป top pick เราเลือก ANAN เพราะคาดกำไรโตจากการเริ่มรับรู้รายได้ในโครงการที่ JV ตั้งแต่ช่วง 4Q16 นี้ และต่อไปอีก 2 ปีข้างหน้า และ LH เพราะคาดกำไรครึ่งปีหลังเติบโตสูงและมี backlog รองรับรายได้ไว้แล้ว ขณะที่มีปัจจัยหนุนจากกำไรพิเศษจากการขาย LHBANK
(*) กลุ่มธนาคาร คาดกำไร 2Q16 โดยรวมจะ เพิ่มขึ้น 12.7% YoY และ 4.0% QoQ ซึ่งเรายังคงคาดจะเห็น NPL เพิ่มขึ้น แต่ขึ้นในอัตราที่ลดลง และปริมาณการตั้งสำรองที่เราคาดจะเพียงพอและไม่มี negative surprise โดยคาดธนาคารที่กำไรจะโตดีสุดได้แก่ 1) KKP +29%YoY 2) TISCO +26%YoY 3) BAY +20%YoY 4) BBL +7%YoY คงน้ำหนักกลุ่มมากกว่าตลาด และเลือก SCB KKP BBL เป็น top pick เพราะแนวโน้มกำไรมั่นคงและผลกระทบจากเศรษฐกิจจำกัด
(+) CPF เราคาดกำไร 2Q16 ที่ 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% YoY และ 6% QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ คาดกำไรหลักที่ 3,450 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,194% YoY และ 16% QoQ กำไรที่ดีขึ้นมาจากธุรกิจกุ้งที่ดีขึ้น และมาร์จิ้นหมูที่เพิ่มขึ้นเพราะราคาหมูปรับตัวขึ้นมา 11% YoY เรายังคงมั่นใจในการฟื้นตัวไปจนถึง 3Q16 แม้ราคาต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น แต่คาดจะกระทบบริษัทจำกัด เพราะบริษัทมีการล๊อคต้นทุนไปจนถึงสิ้นปีแล้ว คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 36 บาท คาดหุ้นจะ re-rate PE กลับขึ้นไปที่ 15 เท่าได้ เหมือนช่วง up cycle ในอดีต ซึ่งปัจจุบันหุ้นเทรดบน PE เพียง 13 และ 12 เท่าในปี 2016-17 ตามลำดับ
หุ้นมีประเด็น
(+) TASCO กทม.สั่งเวนคืน 25 จุด ขยายถนน และ เร่งสร้างถนน โครงการวงแหวนชั้นกลาง เชื่อมต่อวงแหวนชั้น นอก-ใน / คาดข่าวนี้จะสร้างโมเมนตั้มเชิงบวกต่อราคาหุ้น TASCO จากความต้องการยางมะตอยในการก่อสร้างถนนระยะยาว ส่วนปัจจัยต่างประเทศ จากผลพวงพายุซุปเปอร์ไต้ฝุ่น "เนพาร์ตัก" ที่ถล่ม ไต้หวัน และจีน ส่งผลให้ถนนและบ้านเรือนเสียหาย คาดหนุนอุปสงค์ยางมะตอยในภูมิภาคให้เพิ่มขึ้นอีก (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ, BLS research)
(+) BJC ยกเลิกแผนเพิ่มทุนพีพี พร้อมเปลี่ยนขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมเป็นครั้งที่ 2 แทน กำหนดราคาขาย 35 บาท จำนวน 796,641,400 หุ้น จองซื้อวันที่ 29 กรกฎาคมและ 1-4 สิงหาคมคาดกดดันราคาหุ้น เชื่อระดมทุนตามเป้าหมาย 8.3 หมื่นล้านบาท ประเมินทีซีซีพร้อมรับซื้อ (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
(*) KTB สนใจเข้าร่วมประมูลงานที่ปรึกษาทางการเงิน (เอฟเอ) โครงการไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ของรัฐบาล มูลค่ากว่าแสนล้านบาท โดยขณะนี้ได้จับมือกับสถาบันการเงินชั้นนำ 4 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ภัทร บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า บริษัทหลักทรัพย์ เจพี มอร์แกน บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ริลลินช์ (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
(-) กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศที่ต่ำกว่าเป้าหมาย 10% ในไตรมาสแรกของปีนี้ มีผลให้ยอดคำสั่งซื้อการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชะลอตัวตามไปด้วย และกระทบต่อเนื่องไปยังกลุ่มแรงงานภาคชิ้นส่วนยานยนต์ (ที่มา สภาอุตสาหกรรม)
(+) TACC SAPPE CBG ICHI คลังไม่เก็บภาษีน้ำหวาน (ที่มา โพสต์ทูเดย์ แนวหน้า)
(0/-) SUPER Earning prelim กับผู้บริหาร เราคงคาดงบ 2Q16 จะพลิกมีกำไร แต่ไม่ได้มากอย่างที่สื่อเคยรายงาน 300-350 ล้านบาท เพราะ ติดตั้งมิเตอร์ไฟช้าทำให้รับรู้กำไรไม่เต็มเดือน พค.-มิย. หลัง COD ส่วนใหญ่ไปเมื่อ เมย. 2016 / เราเห็นว่าราคาหุ้นปรับลงรับข่าวนี้ไปแล้ว แต่อย่างไรก็ดี การรายงานงบ 2Q16 แล้วพลิกมีกำไร คาดจะสร้างความเชื่อมั่นต่อแนวโน้ม
กำไรในช่วงครึ่งหลังของปีได้
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) MS ออกรายงาน แนะนำ ผู้จัดการกองทุนลดพอร์ตพันธบัตร คาด Upside gain จากการลงทุนในพันธบัตรไม่จูงใจ และ ไม่เหมาะสำหรับใช้เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตอีกต่อไป แนะให้เปลี่ยนเข้าลงทุนในหุ้นปันผล และ กลุ่ม Utilities แทน / กลุ่มหุ้นที่เชื่อมโยง เราแนะนำ สะสมหุ้นโรงไฟฟ้าทั้ง Renewable และ Conventional EGCO BTSGIF JASIF (ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จาก Bond yield ขึ้น หากเกิดกระแสการลดน้ำหนักพันธบัตรออกจริง ได้แก่ ประกันชีวิต BLA THREL)
(+) จันทร์ EU group meeting, US NY Fed survey of consumer expect (Jun)
(0) อังคาร เยอรมนี CPI (Jun) +0.3% y-y, ประชุม รมว.คลัง ยุโรป, ฟิลิปปินส์ ส่งออก (พค.) +2.6%, -4.1% y-y, มาเลเซีย Industrial production, (พค.) +2.6% จาก 3% y-y, India industrial production, คาด -0.4% จาก -0.8% y-y
(-) พุธ จีนรายงาน Trade balance (Jun) คาด US$bn46 จาก US$bn50 และส่งออก -5% จาก -4.1% y-y, ธ.กลางมาเลเซีย คาดคงดอกเบี้ย 3.25%, US Fed Beige Book และ US import prices
(+) พฤหัส US Initial jobless claims, BOE MPC meeting คาดคงดอกเบี้ย 0.50% และคง QE วงเงิน 3.75 แสนล้านปอนด์, ธ.กลางเกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ย 1.25%, สิงคโปร์ GDP 2Q16 คาด +2.3% จาก 1.8% y-y
(-) ศุกร์ US Core CPI มิย. คาด +0.2% m-m, US Industrial production (Jun) คาด +0.2% จาก -0.4% m-m, US Retail sale มิย. +0.5% จาก 0.4% Euro area HICP inflation เงินเฟ้อคาด +0.1%, อินโดนีเซีย ส่งออกเดือน มิย. คาด -14.4% จาก -9.8% y-y, จีน GDP 2Q16 คาด +6.6% จาก +6.7% y-y และ Industrial production (มิย.) คาด 5.9% จาก 6% y-y
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
รายงานวันนี้
หุ้น: CPF คำแนะนำ: ซื้อ ราคาเป้าหมาย (บาท): 36.00
เราคาดกำไรหลักไตรมาส 2/59 ที่ 3.45 พันล้านบาท เติบโต 1194% YoY และ 16% QoQ
เรามองว่า กำไรหลักยังเติบโตต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 2/59 - 3/59 นำโดยธุรกิจกุ้งและเนื้อหมู รวมถึงการฟื้นตัวของธุรกิจในต่างประเทศ
ธุรกิจกุ้งไทยคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 2/59 จนถึงช่วงครึ่งปีหลัง โดยเราคาดกำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจกุ้งไทยในไตรมาส 2/59 ที่ 400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 145% QoQ
เราคาดว่ามาร์จิ้นของธุรกิจหมูยังคงแข็งแกร่งจนถึงช่วงสิ้นปี 2559
เรายังคงแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 36 บาท
นักวิเคราะห์: ประสิทธิ์ สุจิรวรกุล, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
กลุ่ม: พัฒนาอสังหาริมทรัพย์(ที่อยู่อาศัย) คำแนะนำ: เพิ่มน้ำหนักการลงทุน ราคาเป้าหมาย (บาท): -
จากงาน Property Day นั้น ANAN มีมุมมองเชิงบวกต่อบริษัทมากสุด โดยที่ AP, LH , PS และ SC อยู่ในระดับปานกลาง และ LPN มีข่าวตกใจเชิงลบ
เรามองว่าดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหา (ที่อยู่อาศัย) ที่เราให้คำแนะนำจะสามารถปรับตัวขึ้นไปได้อีกประมาณ 10% แม้ว่าขึ้นมาแล้ว 8% จากจุดต่ำสุด
ดัชนีกลุ่มซื้อขายที่ PER 8.5 เท่า โดยเรามองว่าสามารถไปถึงได้ 9.5 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 10.8 เท่า) จากอัตรากำไรที่ไม่ได้แย่กว่าคาด และยอดจองซื้อที่ฟื้นตัว
ในหุ้นแนะนำของเราได้แก่ ANAN, AP, LH และ SPALI นั้นเรามองว่ามูล่ค่าปัจจุบัน ANAN และ LH ยังอยู่ในระดับน่าสนใจมากอยู่
นักวิเคราะห์: นฤมล เอกสมุทร, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
กลุ่ม: ธนาคาร คำแนะนำ: เพิ่มน้ำหนักการลงทุน ราคาเป้าหมาย (บาท): -
เราชื่นชอบ SCB KKP และ BBL มากที่สุดในกลุ่มจากกำไรที่ยังดูดีในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า
KKP TISCO BAY และ BBL จะรายงานกำไรแข็งแกร่งสุดในไตรมาส 2/59
หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้วแต่เพิ่มอัตราชะลอตัวลง
เราคาด KKP TMB KBANK และ TCAP จะรายงานกำไรเติบโตดีสุด YoY ในปี 2559
นักวิเคราะห์: สุวัฒน์ บำรุงชาติอุดม, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
Technical Analysis
Security: BCP
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 38
Stop loss: < 32.5
Reason: โครงสร้างระยะกลางเปลี่ยนเป็นทิศทางขาขึ้นจากการทะลุราคา 32 บ. หนุนด้วยวอลุ่มเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Security: CK
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 35
Stop loss: < 29.5
Reason: ราคาทะลุจุดต้านสำคัญ 30 บ. ขึ้นไปได้ส่งผลให้หุ้นเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้นรอบใหม่ หนุนด้วยวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
Security: INTUCH
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 58
Stop loss: < 54
Reason: หุ้นสร้างฐานแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ ขณะที่ราคาปิดเริ่มขยับขึ้น พร้อมกับวอลุ่มที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ อาจเป็นจุดกลับตัวในรอบระยะสั้น หนุนด้วยค่า MACD >0
Security: CPALL
Position: ซื้อ
เป้าหมาย : 56
Stop loss: < 51
Reason: กลุ่มค้าปลีกจัดอยู่ในกลุ่มที่ให้ผลตอบ แทนดีกว่าตลาด เราคาดว่า CPALL จะเป็นหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ตามกลุ่ม และมีโอกาสขึ้นได้แรงเมื่อราคาปัจจุบันทะลุทำจุดสูงสุดใหม่ หนุนด้วยวอลุ่มที่เพิ่มสูงขึ้น
Security: BEAUTY
Position: ขาย
Reason: ประเมินความเสี่ยงจากราคาหุ้นปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูงและปิดต่ำ กรณีหลุดราคา 8 บ. (เส้นค่าเฉี่ยระยะกลาง) อาจส่งผลให้โครงสร้างเปลี่ยนเป็นลง โดยเกิดสัญญาณเตือน RSI โมเมนตัมหุ้นลดต่ำลงบ่งชี้ถึงช่วงเวลาปลายทางขาขึ้น Bearish divergence
Security: QH
Position: ขาย
Reason: ราคาหุ้นมีความเสี่ยงถูกขายทำกำไรเมื่อไม่ผ่านแนวต้านสำคัญ 2.7 ซึ่งเคยเป็นบริเวณที่หุ้นสะสมมากในอดีตหนุนด้วยค่า MACD เริ่มปรับลง