WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

NOMURA copyบล.โนมูระ พัฒนสิน : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

Flow ไหลเข้า กระตุ้น sentiment บวก แนะสะสมกลุ่ม Bottom Play (KKP) และ หุ้น 2016 Earning เด่น (IVL, PSTC)

Nomura : Key Factors
(+) TH Econ: ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของไทย มิย. สู่ระดับ 50.4 จุด จาก 49.7 จุด
(+) Fund Flow: ต่างชาติซื้อ 3404 ลบ, Long Future 5894, ซื้อ Bond 5090 ลบ
(+) Ex Factor: เก็งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจาก ธนาคารกลางต่างๆ หลังเกิด BREXIT
(*) Ex Factor: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปิดทำการเนื่องในวัน Independent Day
(-) OIL: ราคาน้ำมันดิบวานนี้ Brent -0.5% สู่ $50.1/bbl และเช้านี้อ่อนอีกลงเล็กน้อย สู่ 50
(-) Currency: ค่าเงินเอเชียเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย ราว 0.1%
(-) Valuation: SET ปัจจุบันเทรด PER16F ที่ 15.68 เท่า สูงกว่า LT Avg PER 14.7 เท่า
SET PER 16F: CNS 15.59x (EPS 93.25) vs Cons.15.68x (LT-Avg 14.7x)
2016 SET Target: CNS Base 1515 pts (EPS 93.25, PER16.25x)
Nomura Daily Top Picks: IVL, KKP, PSTC

     Daily Outlook : คาดดัชนีวันนี้ ขึ้นจำกัด ในกรอบแนวต้าน 1459/1468จุด และแนวรับ 1446/1441จุด แนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่เริ่มมีแนวโน้มเชิงบวก ขานรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมต่างๆ จากภาครัฐที่ทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง คาดเป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นต่อการลงทุนของนักทุนต่างชาติปรับตัวดีขึ้น ซึ่งก็สอดคล้องกับวานนี้ ที่ธนาคารแห่งประเทศ ได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของไทย เดือน มิย. ซึ่งพบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.4 จุด จาก 49.7 จุด ในเดือนก่อนหน้า ถือเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่ม sentiment เชิงบวกต่อโอกาสการแกว่งขึ้นของตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง สอดคล้องกระแส Fund Flow ที่พบว่า แรงซื้อต่างชาติยังคงไหลเข้ามาในไทย 2 วันที่ผ่านมา ทั้งในตลาดหุ้น (ซื้อสุทธิรวมกว่า 1.02 หมื่นล้านบาท), ตลาดพันธบัตร (ซื้อสุทธิ 1.37 หมื่นล้านบาท) และตลาดฟิวเจอร์ (เปิดสถานะ Net Long รวมสูงถึง 8,422 สัญญา) ผสานปัจจัยบวกภายนอก จากความคาดหวังต่อนโยบายผ่อนคลายของธนาคารกลางต่างๆ ที่น่าจะทยอยออกมาเร็วนี้ เพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจากเหตุการณ์ Brexit โดยเดือนนี้จะมีการประชุมของธนาคารกลางสำคัญต่างๆ ค่อนข้างมากเป็นจุดที่น่าติดตาม นำโดย BOE 14 กค., ECB 21 กค., FOMC 26-27 กค. และ BOJ 28-29 กค. ถือเป็น Upside Risk ต่อภาพรวมของตลาดสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงถัดไป

     Asset allocation : หุ้น 70% ทองคำ 12.5% ตลาดบอนด์ 5% และเงินสด 12.5%

      Short-Term Strategy : Fund Flow ผลักดัน SET แกว่งขึ้น แนะกลุ่มที่คาดเป็นเป้าหมายของ Flow นำโดยกลุ่ม BANK ที่ Valuation น่าสนใจ + เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุน 2H16 Consensus น่าจะปรับประมาณการขึ้น (BBL, SCB, KBANK, KKP) ผสานกลุ่มที่มีสตอรี่เด่น อื่นๆ นำโดย 1) กลุ่ม Bottom Play (KKP, SAT, BA) 2) โครงการภาครัฐเดินหน้า (CK, SEAFCO, PYLON, BTS, BEM, SCC, ILINK) 3) หุ้นพลังงานทางเลือก เก็งไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ 36 MW คาดประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติ 22 กค.นี้ (PSTC, TPCH) 4) หุ้นคาดกำไร 2016 เด่น (KAMART, PSTC, BWG, CPF, MONO, CI, IVL) 5) Commodity Play (PTTEP, IVL, BCP) รับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวเด่น และ ส่วนนักลงทุนระยะกลาง แนะหุ้น Portfolio Top picks JULY 2016 CPF, BBL, GLOBAL, KAMART, BWG, PSTC สำหรับวันนี้แนะนำ ?Daily Top Picks: IVL, KKP, PSTC?

     Mid-Long Term Strategy : แนวโน้มตลาดเดือน กค 2016 แกว่งขึ้น 1478/1496จุด Fund Flow ไหลเข้าEM-Asia ต่อเนื่อง ผลของ BREXIT หนุนมุมมอง ASIA เป็น Safe Haven จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอก คาดกลุ่มที่จะ Outperform ในเดือนนี้ ได้แก่ 1) BANK Deep Valuation & 2H16 Earning Recovery (BBL, SCB, KBANK, KKP) 2) Commodities Laggard (PTTGC, BCP) และ Soft Commodities (CPF, KSL, BRR) เป็นตัวหนุนตลาดขึ้น 3) กลุ่มพลังงานทางเลือก ที่มีการกำหนดยื่นซองประมูล Biomass 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 36mw ในวันที่ 15-30 มิย. แนะนำ TPCH, PSTC เด่น และ ความคืบหน้าโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 50MW (BWG) 4) หุ้นที่มี Earning Momentum เด่น (GLOBAL, HMPRO, CPF, PSTC, KAMART, XO, MONO, CI) และ 5) กลุ่มได้ประโยชน์จากโครงการรัฐฯ (CK, ITD, PYLON, SEAFCO, ILINK, SCC) สำหรับ Portfolio Top picks JULY 2016 CPF, BBL, GLOBAL, KAMART, BWG, PSTC และ DARK Horse SAT, MONO, IVL, BRR, TPCH

Investment Theme:

2016 AEC Connectivity : WISE
Wellness & discover Thainess: ERW, KAMART, BCH, BDMS
Infrastructure: BBL, CK, AMATA. DCC
Spending Recovery: ROBINS, CI, LH, TCAP
Eco Friendly: SCC, KSL, BRR, NYT

2Q16 Top Picks : PTTEP, SCC, SCB, BDMS, CK, PTT, IVL, VIBHA

Fundamental & Tactical Daily Top Picks :

IVL (TP35): Support 29/28 Resistance 31.25/33.0
Theme: Commodity Play
Earning Outlook : แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q16F ทรงตัวในระดับที่ดี q-q จากส่วนต่างของโพลีเอสเตอร์ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น และคาดมีกำไรพิเศษจากการต่อรองราคาซื้อ
Valuation : แนวโน้มกำไร New High ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า มูลค่าเหมาะสม 35.00 บาท
Catalyst : ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัว กระตุ้น sentiment เชิงบวกต่อราคา Commodity รีบาวน์ IVL เด่น พร้อมคาดกำไรสุทธิ 2Q16F ทรงตัวดี q-q

KKP (TP49**): Support 43.5/42 Resistance 45/46.25
Theme: Bottom Play
Earning Outlook : คาดแนวโน้มกำไร 2Q16F ฟื้นตัว y-y จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง แต่ลดลง q-q จากไม่มีโอนกลับรายการพิเศษเหมือน 1Q16 ภาพรวมกำไรสุทธิปี 2016F +12.5%y-y ที่ระดับ 3.7 พันลบ.
Valuation : เทรดที่ระดับ P/BV 0.97x ใกล้เคียงกลุ่มที่ 0.9x ขณะที่ ปันผลสูง 5.4% Upside 10.7%
Catalyst : Loan Growth มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง หนุนสินเชื่อรวมทั้งปีกลับมาทรงตัว y-y เป็นแรงผลักดันทิศทางกำไรเข้าสู่จุดเติบโตรอบใหม่

PSTC (TP0.98*): Support 0.7/0.66 Resistance 0.75/0.8
Theme: Bottom-Play
Earning Outlook : คาดกำไรสุทธิ 2Q16F เติบโตต่อเนื่อง q-q และจะทำจุดสูงสุดใหม่รายไตรมาสใน 3Q16F ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2016F ที่ระดับ 90.6 ลบ. เติบโตสูง 527.8% y-y
Valuation : ราคาเป้าหมายปี 2016F ที่ 0.98 บาท (Upside 34.24%) หลังบันทึกรายได้จากโรงไฟฟ้าครบ PER18F จะลดสู่ระดับเพียง 12.2x
Catalyst : PSTC ยื่นเข้าประมูลพลังงานชีวมวลภาคใต้ 32 MW คาดชนะการประมูลอย่างน้อย 5 MW ในเบื้องต้น หากชนะการประมูลจะเพิ่มราคาเป้าหมายอีก 0.094 บาทต่อหุ้น/5 MW
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS), **TP(Nomura)

Research and IRIS Reports
EARNINGS PREVIEW:

SCB (BUY, TP149) คาดกำไรสุทธิ 2Q16F ยังลดลง y-y แต่จะฟื้นตัว 2H16F
คาดกำไรสุทธิ 2Q16F ที่ 12,700 ลบ. (-4% y-y, +20% q-q) ฟื้นตัวโดดเด่น q-q จากการฟื้นตัวของธุรกิจประกัน แต่กำไรสุทธิยังลดลง y-y เนื่องจากในด้านรายได้ค่อนข้างทรงตัว แต่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากการขยายงานปกติ อย่างไรก็ตามเราจะเป็นไตรมาสสุดท้ายที่กำไรสุทธิลดลง y-y แล้วจะเห็นการฟื้นตัวใน 2H16F เรายังชอบ SCB จากความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์จำกัด เนื่องจากมี SME เพียงประมาณ 20% ของพอร์ต รวมถึงยังมีความสามารถในลดต้นทุนทางการเงินจึงทำให้คาดผลกระทบต่อ NIM จำกัด ดังนั้นใน FY16F จึงคาดกำไรสุทธิยังคงเติบโตได้ +3% y-y และเติบโตต่อใน FY17F 11% y-y แม้ในปัจจุบันราคาปรับเพิ่มขึ้นมาแล้ว แต่จากแนวโน้มในปีหน้าที่ยังสดใส และราคาเป้าหมายใน FY17F ของเราจะอยู่ที่ราว 170 - 180 บาท จึงยังมี upside ที่น่าสนใจ เราจึงยังคงคำแนะนำ BUY และคงเป็น Top pick

COMPANY QUICK COMMENT:

TU (NEUTRAL, TP23)
เรามีมุมมองเป็นกลางจาก Conference call วันที่ 4 กค 2016 ผู้บริหารและฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของ TU ได้เปิด conference call ให้กับนักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบัน เกี่ยวกับผลกระทบของ TU จากกรณีสหราชอาณาจักรถอนตัวจากสหภาพยุโรป คงคำแนะนำ NEUTRAL ราคาเป้าหมาย 23 บาท เหมาะสำหรับการลงทุนในปี 2017 ดังนั้นสำหรับปี 2016 เรายังคงให้ CPF (TP 35 บาท) เป็น Top pick ในกลุ่มอาหาร

COMPANY QUICK COMMENT:

XO (BUY, TP7.8) ชะลอการเปิดโรงงานเป็น 4Q16 กดกำไร 16F-18F ลงเฉลี?ย 5.3%
"XO ชะลอการเปิดโรงงานแห่งที่ 2 (ระยอง) ออกไปจากกำหนดการเดิม 3Q16 เป็นกลาง 4Q16 เนื่องจากความล่าช้าของการทดสอบระบบ และงานก่อสร้างบางส่วน ทำให้บริษัทฯไม่สามารถเดินเครื่องได้ทันในงวด 3Q16 "
เรามีมุมมองเชิงลบต่อประเด็นดังกล่าว โดยจากการสอบถามกับทางผู้บริหารถึงประเด็นการเปิดโรงงานแห่งที่ 2 (ระยอง) ในช่วงต้น 3Q16 พบว่าบริษัทฯได้เลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิม 3Q16 เป็นกลาง 4Q16 ( เดือย พ.ย.) เนื่องจากความล่าช้าของการทดสอบระบบ และงานก่อสร้างบางส่วน ทำให้บริษัทฯไม่สามารถเดินเครื่องจักรได้ทันในงวด 3Q16 สะท้อนแนวโน้มยอดขายในช่วงถัดไปที่ไม่ได้เร่งตัวโดดเด่นนัก ประกอบกับประเด็น Brexit ที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่าบริษัทฯจะจำกัดความเสี่ยงด้วยการลดสัดส่วนการขายเป็นสกุลเงินยูโร ลงมาเหลือเพียง 5% แต่ยังมีความเสี่ยงในแง่ของกำลังซื้อที่ลดลงของกลุ่มลูกค้าในแถบยุโรปซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ถึง 69% ทำให้เราคาดว่าจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มรายได้ในช่วง 2H16F เราจึงปรับประมาณการรายได้ปี 2016F-2018 ลง -6%, - 5% และ -5% สู่ระดับ 897.6 ,1,040.6 และ 1,175.5 ล้านบาท และปรับอัตรากำไรขั้นต้น (Gross profit margin) ลงจาก 34.1%,33.9% และ 33.6% สู่ระดับ 33.5%, 33.0% และ 32.9% จากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบ (พริก และกระเทียม) จากปัญหาภัยแล้งเมื่อช่วงต้นปี ทำให้คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2016F-2018F ลดลง -11%, -10% และ -10% สู่ระดับ 120.4 , 130 และ 144.5 ล้านบาท
ปรับมูลค่าพื้นฐานปี 16F ลงมาอยู่ที่ 7.80 บาท คงคำแนะนำ "ซื้อ" จากแนวโน้มผลประกอบการปี 2016F-2018F ที่ลดลง -11% , -10% และ -10% ตามลำดับ จากการเลื่อนการเปิดโรงงานออกไป ประกอบกับกำลังซื้อของลูกค้าในแถบยุโรปที่มีแนวโน้มลดลงจากการแข็งค่าของค่าเงินบาท ส่งผลให้มูลค่าเหมาะสมลดลงจากเดิม 8.00 มาอยู่ที่ 7.80 บาท/หุ้น ประเมินด้วยวิธี DCF (WACC 9.5%, L-T Growth 3%) ภายใต้คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2016F-2018F อิงสมมติฐานใช้สิทธิ์เต็มจำนวนในปี 2016 (Fully Dilute) ที่ระดับ 120.4, 130 และ 144.5 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 2016F-2018F ที่ 0.31, 0.31 และ 0.34 บาท/หุ้น อย่างไรก็ตามมูลค่าเหมาะสมใหม่ยังมี Upside 15% จากราคาปัจจุบัน เราจึงยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"

Weekly Outlook :

Let's go with the Flow

Top Picks: SCB, CPF, SCC
Weekly outlook : แกว่งขึ้น ในกรอบแนวต้าน1457/1464จุด รับ 1436/1427จุด
      ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมาฟื้นตัวเด่น หลังจากความกังวลในเรื่องผลกระทบของการทำประชามติของอังกฤษที่ตัดสินใจออกจากสหภาพยุโรป (BREXIT) เริ่มผ่อนคลายลง ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และน้ำมันฟื้นตัวขึ้น สอดคล้องกับทิศทาง Fund Flow ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้น ASEAN กว่า 666 ล้านเหรียญ โดยคาด Fund Flow ดังกล่าวยังคงไหลเข้าต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ จากความคาดหวังเชิงบวกของผู้กำหนดนโยบายจากประเทศต่างๆ ที่พร้อมที่จะปล่อยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อตอบรับความเสี่ยงของ BREXIT โดยมุมมอง Nomura คาด BOJ มีโอกาสปล่อยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 26-27 กค.นี้ โดยแนะติดตามสัญญาณค่าเงินเยน หากแข็งค่ากว่า 100 เยนต่อดอลล่าร์ จะเพิ่มโอกาสต่อการเรียกประชุมฉุกเฉินได้ ส่วนทางด้าน ECB Nomura คาดจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยฝากอีก -0.1% และขยายระยะเวลาการทำ QE ออกไปในการประชุมเดือน กย. 16 ยิ่งไปกว่านั้น ผลของ BREXIT ยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ FED มีโอกาสเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปอีกด้วย โดย Nomura ปรับโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯปีนี้เหลือเพียง 1 ครั้งในช่วงเดือน ธค. 2016 จาก กย. 2016 ดังนั้นจากปัจจัยต่างๆ ล้วนแต่ช่วยหนุนให้ Fund Flow ยังคงไหลเข้าสู่ EM-Asia ที่ภาพรวมเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวโดดเด่นกว่า DM ต่อเนื่อง ผสานกับปัจจัยในประเทศที่ยังคงได้รับอานิสงค์บวกจากความคืบหน้าโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยแนะติดตาม 1) โครงการรถไฟฟ้าสีชมพู และเหลือง จะจำหน่ายเอกสาร 6 กค. -5 สค. / เปิดรับซอง 7 พย. / เปิดซอง 17 พย. นี้ และ 2) โครงการนำสายไฟฟ้าลงดิน นนทรี มูลค่าราว 2.5 พันล้านบาท 3) การประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ 36MW 22 กค. นี้ เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม
กลยุทธ์การลงทุน: คาด Fund Flow ผลักดัน SET แกว่งขึ้นต่อ เน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุน นำโดย 1) หุ้นอิงความคืบหน้าโครงการภาครัฐ (CK, SEAFCO, PYLON, SCC, ILINK) 2) หุ้นพลังงานทางเลือก เก็งไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ 36 MW คาดประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติ 22 กค.นี้ (PSTC, TPCH) 3) หุ้นคาดกำไร 2016 เด่น (KAMART, PSTC, BWG, CPF, MONO, CI) 4) หุ้นที่ได้รับโมเมนตัมบวกจาก Consensus Upgrade ราคาเป้าหมาย เช่น กลุ่ม BANK (BBL, SCB, KBANK, KKP) และ หุ้น Commodity Play (PTTEP, IVL, BCP)

หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ : SCB, CPF, SCC
1) SCB(TP149*) คาดกำไร2Q16F ฟื้นตัวq-q / consensus upgrade เพิ่มsentiment บวก
2) CPF(TP35*) ธุรกิจกุ้งฟื้นตัว+ราคาสุกรในประเทศปรับตัวขึ้น กระตุ้นงบ 2Q16 ฟื้นเด่น
3) SCC(TP600*) รับอานิสงค์โครงสร้างพื้นฐาน กระตุ้น demand ซีเมนต์ฟื้นเด่น

Monthly Outlook :
Recovery Signal & Fund Flow Support

Top Picks: CPF, BBL, GLOBAL, KAMART, BWG, PSTC
Monthly Outlook : Up ต้าน1478/1496จุด(Best 1515) รับ1424/1411จุด(Worst 1400)
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการลงทุนช่วง 1H16 ซึ่งทิศทางตลาดเชิงบวกค่อนข้างใกล้เคียงความคาดหมายของทีมกลยุทธ์ และเราสรุปผลตอบแทนของพอร์ตจำลองการลงทุนรายเดือน(MODEL PORTFOLIO) ซึ่งในเดือน มิย ล่าสุด ที่ผ่านมา ให้ผลตอบแทนดีเกินคาด +17.27% มากกว่า SET ที่บวกขึ้นมาเพียง 1.47% ทำให้ 1H16(นับจาก 4 มค 2016 - 30 มิย 2016) พอร์ตจำลองของ CNS ให้ผลตอบแทนสูงถึง 49% vs SET +12.19% และหากพิจารณาเป็นรายเดือนจะพบว่าพอร์ตจำลองให้ผลตอบแทนชนะ SET ถึง 5 ใน 6 เดือน น่าจะสะท้อนภาพของ Portfolio ของเรา(มีหุ้นเพียง 6 บริษัทต่อเดือน) สามารถนำไปใช้เป็นตัวอย่างในการลงทุนได้ สำหรับนักลงทุนที่ไม่ค่อยมีเวลา และต้องการบริหารจัดการพอร์ตเป็นรายเดือน
สำหรับแนวโน้มการลงทุนเดือน กค 2016 คาด SET ยังมีทิศทาง Sideway up ต่อ จากแรงหนุนเชิงบวกของการใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อเนื่องของ DM หลังความเสี่ยงของ BREXIT กดดัน Downside ของเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ Nomura คาดว่าเราจะเห็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ BOJ ในการประชุมวันที่ 26-27 กค.นี้ เช่นเดียวกับ ECB ที่คาดว่าการประชุมเดือน กย น่าจะลดดอกเบี้ยเงินฝากลงอีก -0.1% รวมไปถึงการขยายกรอบระยะเวลาการทำ QE ออกไปอีก ส่วน FED คาดว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะถุกเลื่อนไปเป็น ธค 2016 นั่นจะทำให้กระแส Fund Flow ไหลเข้า EM-ASIA ต่อเนื่อง จากเศรษฐกิจภายในที่มีการฟื้นตัวดีกว่า ขณะที่สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมีทิศทางบวกต่อเนื่องจากกระแสภายในและภายนอก ทั้งการค้ากับฝั่งตะวันตกที่น่าจะดีขึ้นหลัง สหรัฐฯ ประกาศการค้ามนุษย์ประจำปี 2559 มีการปรับขึ้นอันดับของไทย สู่ Tier2 จาก Tier3 (ต่ำสุด) ผสานการลงทุนภาครัฐที่มีกรอบการลงทุนของรถไฟฟ้า 3 สายชัดเจนทั้งส้ม ชมพู และเหลือง(รายละเอียดในเล่ม) น่าจะหนุนการลงทุนภาคเอกชนในช่วง 2H16 ฟื้นตัว ทำให้ตลาดหุ้นไทยเดือนนี้น่าจะแกว่งบวกรับปัจจัยดังกล่าว โดยคาด SET แกว่งขึ้น สู่แนวต้าน 1478/1496จุด และมีกรอบแนวรับ 1424/1411
กลยุทธ์ลงทุน: คาดแนวโน้มตลาดเดือน กค 2016 แกว่งขึ้น 1478/1496จุด Fund Flow ไหลเข้าEM-Asia ต่อเนื่อง ผลของ BREXIT หนุนมุมมอง ASIA เป็น Safe Haven จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอก คาดกลุ่มที่จะ Outperform ในเดือนนี้ ได้แก่ 1) BANK Deep Valuation & 2H16 Earning Recovery (BBL, SCB, KBANK, KKP) 2) Commodities Laggard (PTTGC, BCP) และ Soft Commodities (CPF, KSL, BRR) เป็นตัวหนุนตลาดขึ้น 3) กลุ่มพลังงานทางเลือก ที่มีการกำหนดยื่นซองประมูล Biomass 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ 36mw ในวันที่ 15-30 มิย. แนะนำ TPCH, PSTC เด่น และ ความคืบหน้าโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม 50MW (BWG) 4) หุ้นที่มี Earning Momentum เด่น (GLOBAL, HMPRO, CPF, PSTC, KAMART, XO, MONO, CI) และ 5) กลุ่มได้ประโยชน์จากโครงการรัฐฯ (CK, ITD, PYLON, SEAFCO, ILINK, SCC) สำหรับ Portfolio Top picks JULY 2016 CPF, BBL, GLOBAL, KAMART, BWG, PSTC และ DARK Horse SAT, MONO, IVL, BRR, TPCH

Eagle Eye
Strategy Update:
2016F Thailand Equity Outlook: "2016 AEC Connectivity - WISE"

2016Top Picks : KAMART, ERW, BDMS, BCH, BBL, CK, AMATA, DCC, ROBINS, CI, LH, TCAP, SCC, KSL, BRR, NYT
2016F Key Factor: AEC Connectivity - WISE
Global Growth: ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังคงขยายตัว นำโดยกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Market) ขณะที่ ประเทศในเอเชียส่วนใหญ่ยังคงมี downside risks จากปัจจัยด้านโครงสร้าง

Strategist Team
Koraphat Vorachet : Analyst Registration No. 043100
[email protected] : 0-2287-6771, 0-2638-5771
Wijit Arayapisit : Analyst Registration No. 044799
[email protected] : 0-2287-6871, 0-2638-5871
Chavaratt Changpakorn : Assistant Strategist
Note: TP (Bloomberg Consensus) , *TP(CNS,Nomura)

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!