- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 05 July 2016 17:05
- Hits: 716
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: สร้างฐานเหนือระดับ 1450
SET Index: 1455.78 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเข้าใกล้แนวต้านที่ 1460 จุดก่อนที่จะปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น แต่ยังสามารถยืนเหนือระดับ 1450 จุดได้ต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มของ SET Index ยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1460 และ 1470 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ 1444 จุด ถ้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลุดระดับ 1440 จุด จะทำให้อิทธิพลของแนวโน้มขาลงเริ่มกลับมามีความแข็งแกร่งมากขึ้น
แนวต้าน : 1458 และ 1460
แนวรับ : 1455 และ 1450**
BANPU = 15.80 / 16.20, ALT = 7.60 / 8.20, KBANK = 177 / 180, THAI = 24.20 / 25.00, IRPC = 4.90 / 5.00
M.C.S. Steel (MCS TB; THB 12.60) - ซื้อ
แนวต้าน : 13.20 และ 14.00
แนวรับ : 12.50 และ 12.30
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากถูกขายทำกำไรออกมาในระยะสั้น แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันกลับขึ้นไป ทำให้แนวโน้มหลักหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
แนะนำซื้อ MCS โดยมีแนวรับที่ 12.50 และ 12.30 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 13.20 และ 14.00 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 12.00 ลงไป
Vibhavadi Medicall Center (VIBHA TB; THB 3.02) - ซื้อ
แนวต้าน : 3.14 และ 3.40
แนวรับ : 3.02 และ 3.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างที่บริเวณจุดสูงสุดเดิมหลังจากฟื้นตัวเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ VIBHA โดยมีแนวรับที่ 3.02 และ 3.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.14 และ 3.40 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.94 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 2.84 เป็นแนวรับสำคัญ
SET50 Index Futures
S50U16 เคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 ชั่วโมง และแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นที่ 907 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 920 และ 925 แต่ถ้าปรับตัวลดลงหลุดระดับ 905 ลงไป จะเป็นจุด STOp LOSS สถานะ Long เพื่อเปลี่ยนเป็นสถานะ Short
แนวต้าน : 915 และ 918
แนวรับ : 910 และ 908
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน S50U16 โดยมีแนวรับที่ 910 และ 908 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 920 และ 925
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50U16 ปรับตัวลดลงหลุด 905 ลงไป
IRPCU16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 4.70 แล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะยาวยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง การฟื้นตัวในระยะสั้นเราคาด่วา น่าจะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.20
แนวต้าน : 5.00 และ 5.10
แนวรับ : 4.90 และ 4.84
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน IRpCU16 ที่แนวรับ 4.90 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 5.15-5.20
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า IRpCU16 ปรับตัวลดลงหลุด 4.80 ลงไปอีกครั้ง
TMBU16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 2.20-2.24 หลังจากถูกขายทำกำไรออกมาในระยะสั้น ในขณะที่โครงสร้างหลักกลับขึ้นไปเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลงในระยะยาว โดยมีแนวัรบสำคัญที่ 2.16 และมีแนวต้านที่ 2.46 เป็นแนวต้านสำคัญ ทำให้การปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 2.20 ควรใช้เป็นจังหวะในการ Open Long
แนวต้าน : 2.28 และ 2.30
แนวรับ : 2.24 และ 2.20
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน TMBU16 ที่แนวรับ 2.24 และ 2.20 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 2.30-2.32 และ 2.40
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า TMBU16 ปรับตัวลดลงหลุด 2.16 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ตลาดแพงกว่าภูมิภาค
ดัชนีทั่วโลกหลังเกิดวิกฤต Brexit ในอังกฤษ สามารถดีดตัวจากที่ลงไปลึกเกือบหมด นำโดยดัชนีตลาดหุ้น อังกฤษ เอเชียไม่รวมญี่ปุ่นและ สหรัฐ ส่วนในเยอรมัน ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ยังเหลือไม่มาก เหตุของการรีบาวน์ มาจากตลาดมองวิกฤตในอังกฤษ ยังไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากยังพอมีเวลาในการเจรจา นอกจากนั้นมองว่าหลังจากนี้อังกฤษและกลุ่มอียู น่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกดีดกลับหลังจากนี้ ตลาดต่างให้ความสนใจเกี่ยวกับมุมมองการสำรวจภาพทางเศรษฐกิจของยุโรปและอังกฤษ โดยเฉพาะความมั่นในของผู้บริโภค แนวโน้มการลงทุนของภาคธุรกิจและการประชุม ECB ในปลายเดือน
การดีดตัวกลับในรอบนี้ที่ถือว่าแรงสุด คือ ตลาดหุ้นอังกฤษ รองลงมาคือ ตลาดหุ้นเอเชียไม่รวมญี่ปุ่นและสหรัฐ ในส่วนของตลาดหุ้นเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น การดีดตัวถือว่าทำได้ดี อย่างไรก็ตามในส่วนของตลาดหุ้นไทยในช่วงวิกฤต ถือว่าเป็นตลาดที่ฟื้นตัวได้เร็วสุด แต่จะไปต่อหลังจากนี้หรือไม่ยังต้องรอปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยเฉพาะประเด็นการประกาศผลดำเนินงาน Q2/16 ว่าจะออกมาอย่างไร แต่หากมาพิจารณาค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของตลาดหุ้นไทยเทียบภูมิภาคไม่รวมญี่ปุ่น กลับพบว่าตลาดหุ้นไทยขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E สูงสุดในรอบ 15 ปี
ปัจจุบันค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของไทย เทรดกันที่ 14.3 เท่าเทียบภูมิภาคที่ประมาณ 12 เท่า (ดูรูปด้านซ้าย) สะท้อนตลาดหุ้นไทยเล่นกันที่ค่า Premium โดยตลาดหุ้นไทยเพิ่งขึ้นไปเล่นสูงกว่าของภูมิภาคนับตั้งแต่ปี 2013 ถึงปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้จะเล่นกันที่ Discount สะท้อนการฟื้นตัวของกำไรของตลาดขณะที่ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและยุโรป
หากจะให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยขึ้นไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ยังต้องรอดูผลดำเนินงาน Q2/16 ที่กำลังจะทยอยประกาศ หรือมีเม็ดเงินไหลเข้า ในส่วนของผลดำเนินงาน Q2/16 ในส่วนของธนาคารพาณิชย์ คาดยังไม่ดีขึ้น ดังนั้นในช่วงกลางเดือนนี้ตลาดอาจเผชิญแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารได้ หากกำไรออกมาต่ำกว่าคาด แต่หากออกมาดี หุ้นกลุ่มธนาคารจะเป็นตัวหนุนตลาดรอบใหม่ โดยอัตราการทำกำไรในปีนี้ของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 5 ธนาคาร ทำได้แค่ขยายตัว 0.58% และมีสิทธิติดลบในครึ่งปีหลัง ส่วนในปีหน้าดีขึ้น (ดูรูปด้านซ้าย) ดังนั้นแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร น่าจะมาจากมองว่าอัตราการทำกำไรของกลุ่มถึงจุดต่ำสุด แต่ราคาหุ้นคงไปไม่ได้ไกล เนื่องจากราคาหุ้นธนาคารใหญ่ขึ้นมายืนที่ราคาเป้าเฉลี่ยกลางของนักวิเคราะห์เป็นส่วนใหญ่ ส่วนที่ยังพอมีช่องให้เล่นเก็งกำไรคือ TCAP และ KTB
สภาพที่ตลาดยังมีแรงกดจากค่า P/E และยังไม่มีประเด็นใหม่ๆเข้ามา เรามองว่ากลยุทธ์การลงทุนยังคงเป็นเลือกหุ้นรายตัวต่อไป จนกว่าภาพใหญ่จะมีแรงหนุนหรือแรงกดรอบใหม่ การเล่นของตลาดในระดับ P/E ขนาดนี้จะเต็มไปด้วยความรวดเร็วและผันผวน วันนี้มองภาพดัชนีจะเริ่มผันผวนและมีแรงขายหุ้นทำกำไร แม้ภาพใหญ่ในต่างประเทศจะยังไม่มีอะไร โดยมีแนวต้านที่ 1458-1462 จุด แนวรับที่ 1448-1444 จุด
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,455.78 จุด เพิ่มขึ้น 1.22 จุด(+0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 26,796.71 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบเหนือระดับ 1450 จุด โดยยังมีแรงหนุนจากกลุ่มธนาคาร ขณะที่มีแรงขายจากกลุ่มพลังงาน ด้านตลาดภูมิภาคเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนเริ่มกลับมากังวลผลกระทบหลัง Brexit ต่อภาคธนาคารในอังกฤษและอิตาลี
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งตัวขึ้นต่อ สัญญาณเก็งกำไรใน SET ยังดูดีต่อเนื่องตามเม็ดเงิน Fund Flow ที่คาดว่าจะยังไหลเข้ามา ต่อ เพราะตลาดโดยรวมเริ่มคาดว่าจะมีมาตราการแทรกแซงของธนาคารกลางแต่ละประเทศ เช่น BOE, BOJ, ECB,FED เพื่อลดผลกระทบด้านจิตวิทยาของ Brexit ซึ่งจะทำให้ เงินสกุลหลักๆอย่าง ดอลลาร์สหรัฐ เยน มีโอกาสอ่อนค่าลงในช่วงสั้นๆ ส่งผลให้นักลงทุนโยกเงินออกมาพักในตลาดเอเชีย จีนและอินเดียแทนชั่วคราว เรายังมองเป้า SET ที่บริเวณ 1465 -1478 จุด ซึ่งถือเป็นจุดขายทำกำไรในรอบนี้ โดยหุ้นใหญ่ยังนำตลาดต่อเนื่อง สลับกลับการเก็งกำไรหุ้นเล็กกลางที่ผลการดำเนินงานจะออกมาดี โดยตัวที่ยัง Laggard เราแนะนำ SGP ASIAN TWPC
Technical Pick (PM) ...
M.C.S. Steel (MCS TB; THB 12.60) - ซื้อ
Vibhavadi Medicall Center (VIBHA TB; THB 3.02) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]