- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 30 June 2016 18:31
- Hits: 730
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้'ยังไหวอยู่'
SET ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความกังวลต่อผลกระทบของ BREXIT ที่ลดลง หลังท่าทีของธนาคารกลางหลายประเทศพร้อมดำเนินมาตรการเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ท่ามกลางแรงขายในช่วงท้ายตลาด SET index ปิดที่ 1,442.66 จุด เพิ่มขึ้น 5.24 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.3 หมื่นล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) การดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางในหลายประเทศ เพื่อลดความผันผวนของเศรษฐกิจ เช่นการชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED หรือการดำเนินนโยบาย QE เพิ่มเติมของ ECB ล่าสุด BOJ ยืนยันว่า ญี่ปุ่นจะใช้มาตรการทุกๆด้านเพื่อจำกัดผลกระทบของ Brexit
(+) ราคาน้ำมันปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังการรายงานตัวเลข สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
(+) การคาดหมายว่า สหรัฐเตรียมปรับอันดับประเทศไทยแก้ไขปัญหาแรงงานจากเทียร์ 3 เป็นเทียร์ 2 ในวันนี้
(+) สศค. ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาสของไทยมีแนวโน้มขยายตัวดีกว่าไตรมาส 1 โดยการใช้จ่ายรัฐบาลเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก
(-) ความกังวลต่อการขยายตัวของการส่งออกในประเทศ โดยกระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการทบกวนการส่งออก ในเบื้องต้นประเมินว่ามีโอกาสสูงสุดที่การส่งออกไทยปีนี้จะขยายตัวได้ไม่เกิน 2-3% ในปีนี้
(-) Fund Flow ต่างชาติมี Net Sell เล็กน้อยวันก่อน
(+/-) การทำ Windows Dressing ของกองทุนในประเทศ โดยในช่วง 3 วันที่ผ่านมากองทุนในประเทศมีการซื้อหุ้นมูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านบาท
(+/-) BOT ผ่อนเกณฑ์ให้ "นิติบุคคล-บุคคลธรรมดา" พอร์ตเกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป ลงทุนตราสารต่างประเทศได้โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางมีผล 20 ก.ค.นี้
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* ผลกระทบจากประชามติของอังกฤษที่จะขอออกจากสหภาพยุโรป
* แนวโน้มค่าเงินปอนด์ และราคาน้ำมัน
* การประชุม EU Summit ระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย.
* การรายงานตัวเลข PMI ของจีน ยุโรป และอังกฤษ
กลยุทธ์การลงทุน'เก็งสั้นขยันซอย'
ประเมินดัชนีในวันนี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังในช่วงที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เท่าระดับดัชนีก่อนปัญหา BREXIT ด้วยแรงซื้อของกองทุนในประเทศจากการทำ windows dressing ในช่วงปลายไตรมาส 2 ทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นยังขาดเสถียรภาพ เน้นการลงทุนในหุ้น Domestic Play และสามารถเก็งกำไรในหุ้นส่งออก รับประเด็นปัญหาแรงงาน และความกังวลต่อปัญหา BREXIT ที่ลดลง
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
TU เก็งกำไร
* แนวโน้มไตรมาส 1 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ จากรายได้และความสามารถในการทำกำไรที่อยู่ในระดับดี
* แนวโน้มปี 59 ขยายตัวจากขยายตลาดใหม่ และ การควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ
* ตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปี 63
TPOLY เก็งกำไร
* ได้รับผลดีจากภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างในประเทศ จากการขยายการลงทุนของภาครัฐ
* Backlog 4.5 พันล้านบาท เพียงพอให้ธุรกิจกลับมามีกำไรในปีนี้
* มีการถือหุ้น TPCH มูลค่าตลาด 2.8 พันล้านบาท มากกว่า Market Cap ปัจจุบันของบริษัทที่ 1.8 พันล้านบาท Upside 55%
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ