- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 29 June 2016 19:34
- Hits: 653
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ผันผวน? คาดมีโอกาสปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศ (1) ภายใต้คาดการณ์ธนาคารกลางหลายๆ แห่ง ใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังประเด็น Brexit ทำให้เกิดความกังวลต่อทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจทั้งของ EU และสหราชอาณาจักร (แนะติดตามการใช้นโยบายผ่อนทางการเงินเพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั่วโลก และ
(2) ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น อาจมีแรงเก็งกำไรเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน
ขณะที่แนะติดตามค่าเงิน ล่าสุดเงินสหรัฐฯ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากวานนี้ที่ 35.22 โดยเช้านี้เคลื่อนไหว 35.23 – 35.25 ซึ่งคาดมีผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ราคาน้ำมัน เพิ่มขึ้นเมื่อเงินสหรัฐฯ อ่อนค่าลง และลดลง เมื่อเงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น
ส่วนประเด็นในประเทศ คาดเป็นบวกทั้ง (1) Fund Flow จากแรงซื้อสุทธิของต่างชาติ ล่าสุด กว่า 1,900 ล้านบาท และแรงซื้อสุทธิของสถาบันในประเทศต่อเนื่อง อีกประมาณ 1,900 ล้านบาท และ (2) Window Dressing – 2Q/59 ในวันที่ 30/6/59
และภายใต้เศรษฐกิจไทย ที่คาดว่าดีขึ้นตามลำดับแต่ยังเปราะบาง หลังกระทรวงการคลังคาด GDP – 2Q/59 เติบโตมากกว่า 3.2% และคาดสูงสุดใน 3Q/59 ที่ 4.0% จากการลงทุนภาครัฐ และคาดทั้งปี’59 เติบโตสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 3.3% ซึ่งคาดยังเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมตลาดบ้าง
แนะติดตามหุ้นกลุ่ม Domestic Play เช่น กลุ่มค้าปลีก เป็นต้น
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG, SCC และ VNG
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK และ SEAFCO
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่าง เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่อง จากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
SET SET50 SET100
1,437.42 +13.11 904.85 +7.61 2,038.17 +18.65
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA +269.48, NASDAQ +97.42, S&P +35.55, FTSE +158.19, CAC +104.13 และ DAX +178.62 ปรับเพิ่มขึ้นหลังลดลงแรงในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางทั่วโลกอาจเตรียมมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบหลังอังกฤษตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษเปิดเผย ว่า ธนาคารกลางสามารถจัดหาเงินทุนพิเศษ มูลค่า 2.50 แสนล้านปอนด์ หรือ 3.34 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านโครงการต่างๆ ที่ธนาคารดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นและธนาคารกลางญี่ปุ่นจะจัดการประชุมในวันนี้ เพื่อหารือถึงความเคลื่อนไหวของตลาด หลังจากที่อังกฤษลงประชามติถอนตัวจากสหภาพยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจาก (1) ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย GDP – 1Q/59 ของสหรัฐฯ ขยายตัว 1.1%qoq สูงกว่าคาดการณ์ว่าอยู่ที่ 1% และ (2) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค – มิ.ย. อยู่ที่ 98.0 เพิ่มจาก 92.4 เมื่อพ.ค. และดีกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 93.3
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ส.ค. +US$1.52 อยู่ที่ US$47.85 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งจากการเข้าเก็งกำไร หลังราคาปรับลดลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา และยังได้รับปัจจัยหนุนจากประเด็นข้างต้น
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ส.ค. -US$6.8 อยู่ที่ US$ 1,317.9 ต่อออนซ์ จากการขายทำกำไร และเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
21.84 1.85 3.31
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 48,279.27
สถาบัน 1,901.73
บัญชีหลักทรัพย์ 82.13
ต่างประเทศ 1,924.23
ในประเทศ -3,908.08
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,924 ล้านบาท สะสม YTD 29,933 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 29 มิ.ย. – 1 ก.ค. 2559
29/6/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ค.
ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ค.
สต็อกน้ำมัน
30/6/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนมิ.ย.
1/7/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย.
ข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนพ.ค.
ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมิ.ย.
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT, ERW) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยล่าสุดสภาพัฒน์ฯ ปรับเพิ่มคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวปี’59 อยู่ที่ 33 ล้านคน จากเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัว อยู่ที่ 1.46% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -5.10 อยู่ที่ 18.75
หุ้นแนะนำ : PTT
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788