- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 28 June 2016 16:11
- Hits: 812
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: เน้นขายที่แนวต้านสำคัญ 1425-1430
SET Index: 1428.88 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1425-1430 จุด ซึ่งเคยเป็นแนวต้านสำคัญเดิมในอดีตก่อนที่จะปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1400 จุด ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นมาในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง เนื่องจากตลาดหุ้นต่างประเทศยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง แต่เนื่องจากโอกาสในการทำ Window Dressing และ Final Settlement ใน S50M16 จึงทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่เราแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะขายเพื่อเน้นการถือครองเงินสด
แนวต้าน : 1430 และ 1434
แนวรับ : 1420 และ 1415
ADVANC = 157 / 160, SCB = 134 / 136, BANPU = 14.50 / 14.80, IVL = 29.00 / 29.50, CPF = 27.50 / 28.50
Bangkok Bank (BBL TB; THB 157.00) - ซื้อ
แนวต้าน : 162 และ 166
แนวรับ : 157 และ 156
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือแนวรับสำคัญของเส้นแนวโน้มขาขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงหลุดแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันลงไป แต่เรายังคงคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวโน้มลง RSI ปรับตัวลดลงทดสอบระดับ 40
แนะนำซื้อ BBL โดยมีแนวรับที่ 157 และ 156 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 162 และ 166 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 154 ลงไป
Kiattana Transport (KIAT TB; THB 0.73) - ซื้อ
แนวต้าน : 0.76 และ 0.79 / แนวต้านสำคัญ 0.84
แนวรับ : 0.73 และ 0.72
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้งแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ KIAT โดยมีแนวรับที่ 0.73 และ 0.72 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 0.76 และ 0.79 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 0.70 ลงไป
SET50 Index Futures
S50M16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 900 ซึ่งเราคาดว่า น่าจะเป็นแนวต้านสำคัญของการฟื้นตัวในระยะสั้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 880 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น ถ้าในช่วงบ่ายไม่มีการอ่อนตัวเกิดขึ้น ควร STOP LOSS สถานะ Short ออกไปก่อน เนื่องจากในระยะสั้นมีโอกาสดีดตัวรุนแรงเกิดขึ้น
แนวต้าน : 900 และ 904
แนวรับ : 895 และ 892
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ STOP LOSS สถานะ Short ใน S50M16 ออกไปก่อน เน้นการ Open Long ในช่วงสั้น โดยมีแนวรับที่ 895 และมีแนวต้านที่ 908-910
STOP LOSS สถานะ Short ใน S50M16 ออกไปก่อนเปลี่ยนมาเป็นฝั่ง Long
TPIPLU16
เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 2.20 หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่บริเวณ 2.00 ตามกรอบแนวโน้มขาลงในระยะยาว ทำให้แนวโน้มในระยะสั้น ราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.28-2.30 และมีแนวรับสำคัญที่ 2.16-2.20 เป็นจังหวะในการ Open Long สำหรับ TPIPLU16
แนวต้าน : 2.24 และ 2.28
แนวรับ : 2.20 และ 2.16
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน TPIPLU16 ที่แนวรับ 2.20 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 2.28-2.30
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า TPIPLU16 ปรับตัวลดลงมาปิดต่ำกว่า 2.14 ลงไป
CKPU16
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทะลุผ่านระดับ 3.00 ขึ้นไป หลังจากเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไรที่บริเวณ 2.96-3.00 และมีแนวรับที่ 2.80 เป็นจังหวะในการกลับเข้าไป Open Long
แนวต้าน : 3.04 และ 3.08
แนวรับ : 2.94 และ 2.90
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน CKPU16 ที่แนวรับ 2.90 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.00 และ 3.30
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า CKPU16 ปรับตัวลดลงหลุด 2.74 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...เมื่อ VIX ยังยืนเหนือ 25
เมื่อยังไม่มีใครรู้ว่าผลกระทบจากวิกฤษในอังกฤษ จะคลายตัวเมื่อไร เราอาจจะต้องกลับมาดูสถิติของเหตุการณ์สำคัญๆ ที่มีผลด้านลบกับตลาดหุ้นของสหรัฐในช่วงเวลานับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงปัจจุบัน จากตารางด้านซ้ายมือเป็นการรวบรวมของนักวิเคราะห์ในสหรัฐ ชื่อ David I. Templeton (CFA) พบว่าวิกฤติหลายวิกฤติ การเปลี่ยนแปลงของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐจะได้รับผลกระทบแตกต่างกันในวันเดียว โดยค่าเฉลี่ยของการปรับตัวลงในวันเดียวอยู่ที่ -2.4% (ครั้งนี้อยู่ที่ -3.6%) อย่างไรก็ตามหากมาพิจารณาวิกฤติที่เกิดขึ้นทั่วโลก พบว่าค่าเฉลี่ยที่ดัชนีจะลงไปถึงต่ำสุดกินเวลาประมาณ 6 วัน และดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐลงไปเฉลี่ยประมาณ -5.3% และเวลาในการฟื้นตัวเฉลี่ย 14 วัน
วิกฤติที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ถึงวันนี้ กินเวลาไปแล้ว 3 วัน หากสถิติยังใช้ได้ ดัชนีตลาดหุ้นโลก คาดจะยังต้องใช้เวลาไปถึงปลายสัปดาห์ จึงจะฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวในรอบนี้ ยังไม่น่าจะใช่ว่าวิกฤติกำลังคลายตัว แต่น่าจะเกิดจากยังไม่มีประเด็นลบใหม่ๆ เข้ามากดดันตลาดให้ลงไปมากกว่านี้รวมทั้งประเด็นที่บางตลาดลงไปลึกแล้วเกิด เทคนิคคอล รีบาวน์ ส่วนประเด็นหลักๆ ในการแก้วิกฤติ คงยังต้องรอการประชุมของ ECB การแถลงของ รมต. คลังอังกฤษเรื่องการออกมาตรการรับรองผลกระทบที่เกิดขึ้น
หากกลับมาดูการเคลื่อนไหวของดัชนี VIX ของสหรัฐในช่วงที่ขึ้นไปสูงกว่า 25 นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา (ดูได้จากรูปด้านขวา) จะพบว่าเมื่อไรก็ตามที่ดัชนี VIX ปรับตัวขึ้นจากระดับ 15-20 ไปมากกว่า 26 ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ (ดาวโจนส์) จะลงไปเฉลี่ย -8.4% (หากไม่รวมช่วงปี 2015 ที่ดัชนี VIX ขึ้นจาก 15 ไปขึ้น 40 ดาวโจนส์ลงไป 10.7% ค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 7.7%) โดยปัจจุบันลงไปแล้ว-3.6% หากนำค่าเฉลี่ยของทั้ง 2 มาเฉลี่ยกัน (-5.3 /-7.7%) ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐน่าจะลงไปที่ระดับ 6.5% แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการปรับตัวลงจะเกิดหรือไม่ ยังต้องดูปัจจัยใหม่ๆทั้งเชิงบวกและลบ ผลการดำเนินงาน Q2/16 S&P 500 ที่จะทยอยประกาศในกลาง ก.ค.และราคาน้ำมัน
หากวิกฤติรอบนี้ยังลากยาว กลยุทธ์การลงทุนในหุ้นใหญ่อาจจะเผชิญกับความผันผวนต่อและมีความเสี่ยงที่จะถูกขายทำกำไร ดังนั้นในเวลานี้กลุ่มหรือหุ้นที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ น่าจะเป็นหุ้นจ่ายปันผลดีที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง รวมทั้ง กองทุน REIT รวมทั้งหุ้นที่จะได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินยูโรและปอนด์ของอังกฤษ ส่วนหุ้นใหญ่อาจยังต้องรอให้ราคาหุ้นลงไปมากกว่านี้หรือรอให้สถานการณ์คลี่คลายลง
วันนี้มองทิศทางดัชนี SET จะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ตามดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาค หากเกิดการรีบาวน์ของหุ้นในภูมิภาค ดัชนี SET น่าจะขึ้นได้ไม่มากเนื่องจากยังลงน้อยกว่าภูมิภาค โดยแรงกดดันยังมาจากแรงขายหุ้นกลุ่มหลักอย่าง พลังงาน ปิโตรเคมี ตามราคาน้ำมันที่ปรับลดลงต่อเนื่องหลังจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและกังวลว่าอังกฤษออกจาก EU แล้วจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวซึ่งจะมีผลกระทบกับความต้องการน้ำมันดิบในอนาคต โดยเมื่อคืนนี้ราคาน้ำมันดิบก็ปรับลดลงไป 1.31 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ -2.8% ปิดที่ 46.33 ดอลลาร์/บาร์เรล วันนี้เราแนะนำ ขาย/short หุ้นกลุ่มพลังงาน (PTT PTTEP) และพักเงินในหุ้นปลอดภัยปันผลสูงอย่าง ADVANC INTUCH JASIF LH วันนี้เราให้แนวรับที่ 1415-1420 และแนวต้านที่ 1430-1435 จุด โดยหุ้นที่แนะนำซื้อเก็งกำไรวันนี้ คือหุ้นที่คาดว่าจะมีผลกำไรไตรมาส 2/59 ออกมาเติบโตโดดเด่นอย่าง FSMART STA
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,428.88 จุด เพิ่มขึ้น 4.57 จุด (+0.32%) มูลค่าการซื้อขาย 21,103.13 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งบวกในกรอบแคบ กลุ่มที่นำตลาดเป็นหุ้นกลุ่มการเงิน เนื่องจากจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยลง ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ นักลงทุนยังกังวลต่อผลกระทบเรื่อง Brexit
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย ลุ้นทดสอบ 1432 จุด ภาพรวมตลาดมีสัญญาณเก็งกำไรเข้ามาหนุนจากปัจจัย 1) เรื่อง Window dressing 2)ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 3) เก็งกำไรผลการดำเนินงาน 2Q กลุ่มธนาคาร ระยะสั้นตลาดเริ่มซึมซับปัจจัยเรื่อง Brexit ไปแล้ว ทำให้มีโอกาสเห็นการดีดตัวต่อไปที่ระดับ 1450 จุด ในกรณีที่ทะลุ 1432 จุดขึ้นไปได้ ส่วนแนวรับอยู่ที่ระดับ 1423 จุด โดยกลุ่ม ธนาคารและพลังงานคาดว่าจะมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงสั้นๆนี้
Technical Pick (PM) ...
Bangkok Bank (BBL TB; THB 157.00) - ซื้อ
Kiattana Transport (KIAT TB; THB 0.73) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]