- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 July 2014 15:39
- Hits: 2042
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : ปิดเหนือ 1,540 ยืนยันขาขึ้นต่อเนื่อง
Technical : แนวรับ 1,530 /1,520 แนวต้าน 1,540 / 1,551
หุ้นแนะนำพิเศษ : BANPU แนวรับ 30.5/29 แนวต้าน 32.5/34
หุ้นเด่นรายวัน : PTTEP KTB SPALI
วันจันทร์ตลาดหุ้นไทยปิดบวก 5.14 จุด ตามภูมิภาค-กระแสเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าหนุนตลาด โดยดัชนี SET INDEX ปิดที่ 1,538.55 จุด เพิ่มขึ้น 5.14 จุด(+0.34%) มูลค่าการซื้อขาย 52,236.37 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 558.00 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,500-1,551 การปรับตัวระยะสั้นอาจเกิดขึ้นจากความกังวลตามปัจจัยต่างประเทศ แต่จากทิศทางค่าเงินบาท (แนวโน้มที่แข็งค่า) และแรงซื้อสุทธิต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้การปรับตัวลงจะจำกัดในกรอบแคบและมีโอกาสที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นมาตามการคาดการณ์ผลประกอบการครึ่งปีหลัง ในขณะที่ SET50 ทดสอบไม่ผ่านแนวต้าน 1,033-1.035 ปิดตัวด้วยแท่งเทียนโดจิ อาจมีการปรับตัวระยะสั้นแนวรับ 1,028 / 1.023 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,690-20,370 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 19,740-20,420
กลยุทธ์ แรงขายลดน้อยถอยลงส่งผลให้ตลาดแกว่งตัวยืนแดนบวกและสร้างจุดสูงใหม่ โดยตลาดหรือนักลงทุนปรับเปลี่ยนการลงทุนด้วยการเปลี่ยนกลุ่มเข้าซื้อทดแทน โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน BAPU PTT PTTEP EARTH กลุ่มธนาคาร KTB KBANK BBL หรือซื้อเก็งกำไรBAYเมื่อราคาปิดเหนือ 48.00 ขึ้นไป (Buy Signal) กลุ่มขนส่ง AOT AAV BECL กลุ่มสื่อสาร Div. Yieldของกลุ่มและหุ้นรายหลักทรัพย์สื่อสารเพิ่มสูงขึ้น แนะนำทยอยซื้อเข้า หรือปรับลงแรงเข้าซื้อถือระยะกลางเพื่อหวังเงินปันผลตอบแทน ADVANC DTAC INTUCH หุ้นรายหลักทรัพย์ TAE LHBANK AP ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง
หุ้นแนะนำพิเศษ
BANPU (ปิด 31.50 ซื้อเป้าปี 57 : 33.30 บาท) เป็นหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน ขณะที่ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตตั้งแต่ปีนี้และต่อเนื่องไปอีกในปี 58 และ 59 โดยมีแรงหนุนสำคัญจากการเริ่มผลิตของโรงไฟฟ้าหงสา ประกอบกับราคาหุ้นในปัจจุบันยังซื้อขายต่ำกว่า Book Value ที่ 33.30 บาทเราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยปีนี้ประเมินกำไรสุทธิไว้ที่ 3,975 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 26%yoy และ 4,770 ล้านบาทในปี 58 เพิ่มขึ้น 20%yoy
หุ้นเด่นรายวัน
PTTEP (ปิด 168 ซื้อเป้าปี 57: 185 บาท) ได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ผลประกอบการคาดกำไรสุทธิ 2Q57 ที่ 1.4 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%qoq และ 31%yoy โดยมีปัจจัยบวกจาก 1) ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากรับรู้ปริมาณขายจากการซื้อสินทรัพย์ของ Hess Thailand เข้ามาเป็นไตรมาสแรก 2)ราคาขายเพิ่มขึ้นตามทิศทางของราคาน้ำมันดิบดูไบที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1.6%
KTB (ราคาปิด 22.40 ซื้อ เป้าปี 57, 25.20) แจ้ง 2Q57 กำไรสุทธิ7.54 พันล้านบาทต่ำกว่าคาด 15% เนื่องจากตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มเป็นพิเศษอีก 3 พันล้านบาท แต่เมื่อเปรียบเทียบกับกำไร 2Q56 ยังเติบโต 16% กำไรครึ่งปี 57 เท่ากับ 1.58 หมื่นล้านบาทเติบโต 5%
SPALI (ราคาปิด 24.70 ซื้อเมื่ออ่อนตัว เป้าปี 57 , 25.30) แนวโน้มกำไรในช่วง 2Q57 มีโอกาสต่ำสุดสำหรับปีจากรายได้ 2Q57 เพิ่มขึ้น yoy แต่ลดลง qoq โดยจะฟื้นใน 2H57 ที่มีกำหนดโอนคอนโดสร้างเสร็จ 4 โครงการ จุดเด่นคือความสามารถในการทำกำไรจากที่คาดว่าจะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นได้ไม่ต่ำกว่า 40% สูงสุดในกลุ่ม หากราคาปรับลงถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม
รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* AJD / TFI / TH / TRUE / UV มีผลบังคับใช้ 16 มิ.ย. - 25 ก.ค. 57
* IFEC / PF / SLC มีผลบังคับใช้ 23 มิ.ย. - 1 ส.ค.57
* EFORL / TSF มีผลบังคับใช้ 30 มิ.ย. - 8 ส.ค.57
* BTC/ KC/ MAX/ NUSA/ TFD/ VIH / VTE มีผลบังคับใช้ 7 ก.ค. - 15 ส.ค. 57
* ABC / ACAP/ AQ / BKD/ EMC/ WIIK มีผลบังคับใช้ 14 ก.ค. - 22 ส.ค. 57
* AIRA / MPG / PAE มีผลบังคับใช้ 21 ก.ค. - 29 ส.ค.57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 48.45 จุด
ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดลดลง 48.45 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าสถานการณ์ในยูเครนที่อาจจะส่งผลให้รัสเซียถูกคว่ำมาตรมากขึ้น นอกจากนี้ การสู้รบที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอลในฉนวนกาซาก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาด โดยล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์เปิดเผยว่าการปฏิบัติทางทหารในฉนวนกาซา ได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วกว่า 500 คน ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ลดลง 48.45 จุด หรือ -0.28% ปิดที่ 17,051.73 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 7.45 จุด หรือ -0.17% ปิดที่ 4,424.70 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 4.59 จุด หรือ -0.23%ปิดที่ 1,973.63 จุด
ตลาดน้ำมัน NYMEX : เพิ่มขึ้น 1.46 เหรียญ
ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดกลับมาวิตกกังวลต่อภาวะอุปทานน้ำมันดิบของโลกหลังประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐกล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการกดดันให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนหันมาร่วมมือกับนานาประเทศ ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้แรงหนุนจากเหตุการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลาง โดยล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์เปิดเผยว่าการปฏิบัติทางทหารในฉนวนกาซา ได้คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วกว่า 500 คน ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.46 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 44 เซนต์ ปิดที่ 107.68 ดอลลาร์/บาร์เรล
Analyst – ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์