- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 June 2016 17:42
- Hits: 600
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ฟื้นตัวต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา เพียงแต่แนวต้าน 1,425-1,430 จุด เกิดแรงขายมากขึ้น หุ้นกลุ่มธนาคารยังไม่ฟื้นตัว ขณะที่กลุ่ม ICT/ พลังงานช่วยพยุงภาพรวม ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวกเพียง 0.67 จุด มาอยู่ที่ 1,421.99 จุด มูลค่าการซื้อขายเพียง 42,950 ล้านบาท
ต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 1,182 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ 1,595 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 อีก 9,114 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- โพลล่าสุด Brexit ณ วันที่ 19 มิ.ย. พบว่า Bremain ลดลงเป็น 42% ส่วน Brexit ขยับขึ้นเป็น 44% ส่วนคนที่ยังไม่ตัดสินใจ คงเดิมที่ 13%
- สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับตัวขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น / ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ นำโดยน้ำมัน และถ่านหิน เพื่อเก็งกำไรต่อกรณี Brexit ในปลายสัปดาห์นี้
- ติดตามการให้ความเห็นประจำ 6 เดือนของประธานเฟด Janet Yellen ต่อคณะกรรมการวุฒิสภาด้านสถาบันการเงิน คืนนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 20)
เราประเมินกรอบแกว่งของ SET INDEX ระหว่าง 1,415-1,430 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบาง 4.0 หมื่นล้านบาท/วัน เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ต่างรอดูผลการลงประชามติของชาวอังกฤษในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ เพียงแต่การปรับฐานลงแรงในช่วงนี้ยังไม่น่าเกิดขึ้น เพราะนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ น่าจะปรับพอร์ตจากประเด็นนี้ไปแล้ว อีกทั้งหาก SET INDEX ย่อตัวลงมาแรงผิดปกติ เม็ดเงินจากสถาบันภายในประเทศ ซึ่ง YTD ขายสุทธิ 6.6 พันล้านบาท พร้อมที่จะกลับเข้าสะสมรายตัวเช่นกัน เพราะประเด็น Brexit มีผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจ และตลาดหุ้นไทยแบบจำกัด
สำหรับกลุ่มหลักของตลาดหุ้นไทย เราให้น้ำหนักเชิงบวกต่อกลุ่มธนาคาร หลังปรับฐานลง 2.73% ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่แล้ว จากความกังวลต่อระบบ Promptpay ที่จะส่งผลกระทบต่อรายได้จากค่าธรรมเนียม ซึ่งเราประเมินว่าตลาด Panic ต่อประเด็นนี้ ผลกระทบดังกล่าวจะยังไม่เกิดทันที ขณะที่แนวโน้ม NPLs ของธนาคารขนาดใหญ่มีแนวโน้มจะทำระดับสูงสุดใน 2Q59 และจะเริ่มชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญของกลุ่มธนาคาร
กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้เก็งกำไรหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก ส่วนนักลงทุนระยะกลาง เราแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง
Stock Pick of The Day
1. เก็งกำไร BANPU : ราคาปิด 13.30 บาท ราคาเหมาะสม 14.20 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่ม Commodities จะปรับตัว Outperform ตลาด จาก Dollar Index ที่อ่อนค่าลง หลังโพลล่าสุดระบุว่าจำนวนผู้สนับสนุนให้อังกฤษอยู่ต่อใน EU สูงกว่าผู้สนับสนุนให้ออก และส่งผลให้เงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง
b) มี Sentiment บวก จากราคาถ่านหินล่วงหน้าตลาดยุโรปที่ปรับตัวขึ้นแรง ได้แก่ ตลาด Rotterdam +5.5%, ตลาด New Castle +3.9% และตลาด Richard Bay +1.2%
c) คาดกำไรสุทธิ 2Q59 มีโอกาสพลิกกลับมาเป็นบวก แม้ว่าธุรกิจถ่านหินจะทรงตัว qoq แต่รายได้จากโรงไฟฟ้าหงสาทั้ง 3 เฟสคาดว่าจะปรับตัวขึ้น qoq และช่วยหนุนผลประกอบการให้พลิกกลับจากขาดทุน 183 ล้านบาทใน 1Q59
2. เก็งกำไร BBL : ราคาปิด 157.00 บาท ราคาเหมาะสม 178.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มธนาคารจะฟื้นตัวในวันนี้ จากการเกิด Short Covering หุ้นกลุ่มหลักของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากโพลประชามติล่าสุดของ UK พบว่าน้ำหนักเริ่มเทกลับมาทางอยู่ต่อใน EU
b) หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงแรงถึง -4.3% ใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับ SET INDEX -1.1% จึงเชื่อว่า Downside Risk ค่อนข้างจำกัด
c) Valuation ถูก ซื้อขายระดับ PBV2559 เพียง 0.78 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่ 1.08 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.8%
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$185 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$283 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดอีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติ คงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 1,182 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 1,882 ล้านบาท และทำให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 29,091 ล้านบาท
ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ 1,595 สัญญา เทียบกับ 4 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 17,020 สัญญา คาดว่าเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Long อีกครั้ง แม้ว่า S50M16 กลับมาปิดสูงกว่า SET50 Index อีกครั้ง 1.12 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 1.71 จุด ผลักดันให้ยอดสุทธิ QTD สถานะคงการ Long สุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็น 21,321 สัญญา
และนักลงทุนกลุ่มนี้คงการซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 2 ชะลอตัวลงเป็น 9,114 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 22,567 13,453 ล้านบาท โดยที่ราคาพันธบัตรไทยปรับตัวลงต่อเนื่อง ผ่านพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 5 อีก 0,23bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 0.32bps ปิดที่ 2.144%
Short-Selling วานนี้
ขยับขึ้นเป็น 1,059 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 911 ล้านบาท
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 โดยเน้น SCB / SCC / BDMS
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 718 ล้านบาท ชะลอตัวจากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 978 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นการเน้นสะสมหุ้นหลักตัวแทนของกลุ่มธนาคาร / วัสดุก่อสร้าง / โรงพยาบาล ขณะที่การขายสุทธิเริ่มชะลอตัว
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ไม่มี
ยุโรป
ไม่มี
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
ส่งออกเดือนพ.ค.ของญี่ปุ่นหดตัวเป็นเดือนที่ 8: ลดลง 11.3% yoy หดตัวแรงกว่าที่ Bloomberg consensus คาดที่ 10.0% yoy ขณะที่การนำเข้าลดลง 13.8% yoy ทำให้ดุลการค้าขาดดุล US$389 ล้าน หรือ Yen4.07 หมื่นล้าน ทั้งนี้เป็นผลจากอุปสงค์ในตลาดโลกที่ชะลอตัว บวกกับค่าเงินเยนที่แข็งค่าต่อเนื่อง สร้างความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจญี่ปุ่น
อินเดียเปิดให้ต่างชาติเข้าลงทุนในธุรกิจสายการบินในประเทศสูงถึง 100%: อินเดียว เตรียมเปิดให้ต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นกองทุน หรือเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติเข้าถือหุ้นในสายการบินภายในประเทศของอินเดียได้ถึง 100% จากปัจจุบัน 49% ทั้งนี้สัดส่วนที่สูงกว่า 49% จะต้องทำเรื่องขออนุมัติจากทางรัฐบาล อย่างไรก็ตาม หากเป็นสายการบินต่างชาติจะถือหุ้นในสายการบินภายในประเทศได้ไม่เกิน 49% เช่นเดิม
คำสั่งภาคส่งออกของไต้หวันหดตัวน้อยกว่าคาด: ลดลง 5.8% yoy ในเดือน พ.ค. จากเดือนก่อนที่ -11.1% yoy เทียบกับ Bloomberg Consensus คาด -7.0% yoy ทั้งนี้คำสั่งซื้อยังหดตัวในประเทศหลักทั้งญี่ปุ่น, จีน, ยุโรปและสหรัฐฯ -26.7%, -6.4%, -4.9% และ -4.0% yoy ตามลำดับ โดยตัวเลขดังกล่าวสะท้อนการส่งออกในอีก 1-3 เดือนข้างหน้า
ไทย
ไม่มี
Strategist Team Maybank KimEng
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Rinrada Lianghathaitham Assistant Analyst 662-6586300 x 1530