- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 July 2014 15:09
- Hits: 1891
บล.เคเคเทรด : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Upside จำกัดในกรอบ 1,550 -1,560 จุด เน้น "เข้า-ออกเร็ว" สำหรับเก็งกำไร
SET View
ประเด็นหลัก ในช่วงสั้น SET มีโอกาสปรับขึ้นต่อจาก Flow ของเงินทุนต่างชาติที่ยังคงไหลเข้า โดยเห็นได้จากยอดซื้อสะสมรวมของนักลงทุนต่างชาติทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนล้านบาทตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.ประกอบกับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 1% วานนี้ซึ่งนับว่าแข็งค่าสุดในรอบ 9 เดือน เท่ากับระดับก่อนการเกิดความรุนแรงทางการเมืองในไทย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นต่อการเมืองและเศรษฐกิจไทยและทำให้นักลงทุนต่างชาติมีการปรับฐานะการลงทุนกลับมาลงทุนในไทยมากขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ปรับลดน้ำหนักความสำคัญของไทยลงไป ทำให้ระยะสั้น SET จะยังคงได้รับประโยชน์จากแรงหนุนของกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้ามา อย่างไรก็ตาม เราเริ่มเห็นแรงขายสุทธิออกมาจากฝั่งนักลงทุนสถาบันหลายวันติดต่อกันในช่วงนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดัชนีปรับขึ้นได้อย่างจำกัด และเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้ SET ปรับฐานลงได้ในกรณีที่แรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มเบาบางลง
ในเชิง Valuation ดัชนีตลาดหุ้นไทยขณะนี้ซื้อขายอยู่ที่ระดับ Forward PE 14.9 เท่า สูงกว่าระดับค่าเฉลี่ย PE ภูมิภาค (AsiaPac ex Japan) ที่อยู่เพียงระดับ 12.0 เท่า แสดงให้เห็นถึงระดับราคาของตลาดหุ้นไทยที่เริ่มสูงกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคโดยรวม อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบกับค่า Forward PE ของประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ คือ กลุ่ม TIPs ตลาดหุ้นไทยนับว่ายังถูกกว่าตลาดหุ้นอินโดนิเซียและฟิลิปปินส์ที่อยู่ในระดับสูงถึง 16.3 และ 19.2 เท่าตามลำดับ ซึ่งระดับค่า PE ที่สูงนี้จะทำให้ดัชนีมีความอ่อนไหวต่อทิศทางการเคลื่อนที่ของกระแสเงินทุนโลก เราจึงแนะนำให้คอยติดตามปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการเงินของเฟดและ ECB อย่างใกล้ชิด
กลยุทธ์การลงทุน สำหรับนักลงทุนระยะสั้น เราแนะนำให้เก็งกำไรในลักษณะเข้า-ออกเร็ว ในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่จะยังคงได้รับปัจจัยบวกจากแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐาน 8 ปี (STEC CK) และ หุ้นกลุ่มโรงแรมที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นการท่องเที่ยว (MINT ERW) ขณะที่การลงทุนระยะกลางเรายังคงแนะนำหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลระหว่างสูง (มากกว่าหรือเท่ากับ 2%) ได้แก่ INTUCH TOG ADVANC NOK PTTGC HEMRAJ EGCO RATCH
Futures Strategy
SET 50 Futures S50U14
แนะนำ ถือ long
ถ้า > 1020 ถือ long / ถ้า < 1018 ปิดถือ long
Gold Futures GFQ14
แนะนำ ถือ short
ถ้า > 20200 ปิดถือ short / ถ้า < 20150 ถือ short
Silver Futures SVQ14
แนะนำ ถือ short
ถ้า > 680 ปิดถือ short / ถ้า < 680 ถือ short
Oil Futures BRQ14
แนะนำ wait & see
ถ้า > 3500 trading long / ถ้า < 3500 wait & see
USD Futures USDU14
แนะนำ ถือ short
ถ้า > 32.40 ปิดถือ short / ถ้า < 32.40 ถือ short
Stock Futures SIRI
แนะนำ ซื้อขายในกรอบแนวรับแนวต้าน 2.36-2.60 บาท
ถ้า > 2.36 ซื้อ / ถ้า < 2.34 ขาย
Stock Picks
AP หุ้นมีน่าสนใจมาจากผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่องในช่วง 2Q57 – 4Q57 ซึ่งมีงานในมือรองรับ 1 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกัน ในปี 2558 มีงานในมือราว 8 พันล้านบาทรอรองรับรายได้คิดเป็น 37% ของประมาณการ อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเงินปันผลราว 4% ต่อปี (จ่ายปันผลปีละ 1 ครั้ง) ปัจจุบันหุ้น AP ซื้อขายที่ค่าเฉลี่ย P/E 9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 13 เท่า ขณะที่ระยะสั้นจะมีปัจจัยหนุนจากผลประกอบการ 2Q57 ที่จะเติบโตโดดเด่นกว่า 80% QoQ ในทางปัจจัยพื้นฐาน แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 7.90 บาท
BANPU ปริมาณสำรองถ่านหินสำหรับผลิตไฟฟ้าในจีนอยู่ที่ 3.1 พันล้านตันใกล้เคียงกับระดับสูงสุดของปี 2556 เรามองว่าการปรับเพิ่มของปริมาณสำรองถ่านหิน เป็นไปตามฤดูกาล เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนในประเทศจีน จึงมีการสำรองถ่านหินสำหรับผลิตไฟฟ้ารองรับ Demand การใช้ไฟฟ้า ราคาถ่านหินที่ 68.9 เหรียญต่อตัน มี Downside Risk ต่ำ เนื่องจากสะท้อนความเสี่ยงเรื่องอุปทานส่วนเกินไปแล้ว จนราคาถ่านหินลดลงมาใกล้ระดับต้นทุนที่แท้จริง (Cash Cost) ของเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย ซึ่งถือว่ามีต้นทุนผลิตถ่านหินต่ำสุดเมื่อเทียบกับ สหรัฐฯ และออสเตรเลีย ในเชิงกลยุทธ์เรามองเป้าหมายราคาที่ 33 บาท แนวรับ 31 บาท