- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 20 June 2016 17:21
- Hits: 1482
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ก่อน (13-17 มิถุนายน 59)
SET ปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากแรงรับการหั่นคาดการณ์การเติบโตของเศรษกิจสหรัฐของ FED และความกังวลต่อ Brexit ด้านปัจจัยภายในประเทศถูกกดดันจากประเด็น Promt Pay สร้างความกังวลต่อค่าธรรมเนียมของธนาคารที่จะลดลง SET Index ปิดตลาดที่ 1421.32 เปลี่ยนแปลง -7.89จุด WoW (-0.55%WoW)
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้
(+) PBOC ประกาศอัดฉีดเงิน 2.5 แสนล้านหยวน (3.85 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ตลาดวันนี้เพื่อบรรเทาสภาพคล่องที่ตึงตัว
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับเพิ่มขึ้น 1.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจาก Poll อังกฤษอยู่ใน EU ตีตื้น และค่าเงินสหรัฐอ่อนค่า
(-) IMF เตือนอังกฤษว่าเศรษฐกิจอังกฤษอาจเข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะยาวจากการออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
(-) คาดมีแรงขายลดความเสี่ยงจากประเด็น Brexit ในหุ้นกลุ่มส่งออก และกลุ่มที่มีการลงทุนใน EU และ สหราชอาณาจักร
(-) ญี่ปุ่นเผยยอดส่งออกเดือน พ.ค. หดตัวลง 11.3% YoY ผลจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าและเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ที่ซบเซา
(+/-) ตลท.ให้ GPSC,BEM,MTLS,KCE เข้าคำนวนใน SET50 ส่วน ITD,JAS,M และ SCCC ออกจากการคำนวณใน SET 50
(+/-) นายกรัฐมนตรี เผยการขับเคลื่อนการบริหารราชการในวาระสำคัญเร่งด่วนอาจต้องใช้มาตรา 44 เพื่อให้นโยบายเกิดประสิทธิผล
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* แถลงนโยบายการเงินและเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรส 21-22 มิ.ย.
* การประชุม กนง. วันที่ 22 มิ.ย. ตลาดคาดคงอัตราดอกเบี้ย
* การลงประชามติของอังกฤษต่อการเป็นสมาชิก EU ในวันที่ 23 มิ.ย. โดย Poll ล่าสุดของ Bloomberg จำนวนผู้สนับสนุนให้อังกฤษแยกตัวออกจาก EU 42% มีจำนวนน้อยกว่าผู้สนับสนุนให้อยู่ใน EU ที่ 45%
* ความผันผวนของตลาดเงินตราต่างประเทศ
ความคิดเห็น
คาดหมายการแกว่งตัวบวกในช่วงวันจันทร์ จากแรงเก็งกำไรในกลุ่มพลังงงานหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ แต่ด้วยปัจจัย Brexit จะเป็นประเด็นกดดันหลักในช่วงสัปดาห์นี้ และเป็นปัจจัยที่ตลาดมองว่าจะมีผลกระทบแรงต่อเศรษฐกิจโลก ดังนั้นการปรับตัวขึ้นจะมีแรงขายทำกำไร เราประเมินว่า SET มีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงจนทราบผลการทำประชามติ ก่อนที่จะเคลื่อนไหวตามผลประชามติในวันศุกร์
กลยุทธ์การลงทุน (20-24 มิถุนายน 59)
สัปดาห์นี้ยังคงเน้นหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ได้รับผลดีจากการลงทุนของภาครัฐเป็นกลุ่มหลัก โดยเรามองว่าด้วยความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในปัจจัยต่างประเทศ เราแนะนำให้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับต่างประเทศ เช่น พลังงาน กลุ่มส่งออก และเพิ่มน้ำหนักกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจภายในประเทศ
โดย บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประจำวันที่ 20 มิ.ย. 2559