WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

หลังจากซื้อแล้วแนะนำให้เน้นถือต่อเนื่องไว้ก่อน เพื่อรอรอบบวกใหญ่!!
  ตลาดหุ้นวานนี้ : SET กลับมาแกว่งบวกอีกครั้ง หลังวันก่อนหน้าดัชนีปรับตัวลงค่อนข้างแรง โดยได้รับแรงหนุนจากการประกาศระงับการรณรงค์เรื่อง Brexit ชั่วคราว หลังสมาชิกสภานิติบัญญัติของอังกฤษถูกยิงเสียชีวิต
  แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET ยังได้แรงหนุนจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสขึ้นของตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวก ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐยังปิดลบ จากความกังวลเกี่ยวกับการทำประชามติของอังกฤษในช่วงท้ายสัปดาห์นี้(23 มิ.ย.) แต่นักลงทุนเริ่มมีความหวังมากขึ้นอีกครั้งว่าผล Brexit อาจจะออกมาว่าอังกฤษยังเลือกที่จะอยู่ใน EU ต่อไป หลังหลายฝ่ายยังแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการออกจาก EU ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็เปิดเป็นบวกได้ดี ประกอบกับแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติในบ้านเราก็ยังมีสลับเข้ามาให้เห็นเป็นระยะ ทำให้ FSS ยังคาดว่ากรอบลบของตลาดจะมีค่อนข้างจำกัด และสุดท้ายยังลุ้นโอกาสขยับบวกขึ้นต่อเนื่องได้ต่อไป
  กลยุทธ์ : FSS ยังคาดว่า SET ปรับพักตัวลงเพียงช่วงสั้น และสามารถลุ้นแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนช่วงตลาดเป็นลบต่อได้ โดยเรายังคาดว่า SET มีสิทธิแกว่งไต่ระดับกลับขึ้นไปหาระดับดัชนีตามพื้นฐานที่ 1500 จุดได้ในช่วงถัดไป ดังนั้น SET ลบยังเลือกหุ้นซื้อ แล้วเน้นถือเพื่อรอรอบบวกต่อไป


  แนวรับ 1419-1417 , 1412-1410 จุด
  แนวต้าน 1425-1430 , 1435-1438 จุด
  หุ้นเด่นทางเทคนิค : LPH, AMATA, SAMART(buy back)

      Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลกลับเข้าภูมิภาค US$222ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$186ล้าน และกลุ่ม TIP รวม US$116ล้าน นำโดยอินโดนีเซีย US$65.8 ล้าน ส่วนไทยเม็ดเงินไหลเข้า US$20ล้าน ขณะที่ไหลออกเกาหลีใต้ US$61ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางผันผวน รอผลประชามติ Brexit ซึ่งผลโพลยังมีความไม่แน่นอนและพลิกผันได้ ล่าสุดคนที่ให้อยู่ต่อมีคะแนนนำ ทำให้การลงทุนกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (0) คลายวิตก Brexit ชั่วคราว ภายหลังการเสียชีวิตของ Jo Cox ส.ส.พรรคแรงงานผู้สนับสนุนให้อังกฤษอยู่กับ EU โพลล์ที่ให้ Remain ขยับขึ้นเป็น 45% ชนะเสียง Brexit ที่ 42% ตลาดคลายความกังวลลง ค่าเงินปอนด์และยูโรกลับมาแข็งค่า ทั้งสัปดาห์ Brexit จะเป็นประเด็นหลักทำให้ค่าเงินและหุ้นทั่วโลกผันผวน แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยมีจำกัด เรายังคงเป้า SET ที่ 1,500 จุดสิ้นปี
  (0) คาดกนง.คงดอกเบี้ยพุธนี้ ที่ 1.50% (ไม่กระทบตลาด) เพราะแม้เศรษฐกิจยังฟื้นได้ไม่ดีนักแต่อัตราเงินเฟ้อเริ่มขยับขึ้นในอัตราเร่งซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันและอาหาร แนวโน้มเงินเฟ้อน่าจะเร่งตัวขึ้นอีกใน 2H16 เพราะฐานราคาน้ำมันที่ต่ำในช่วง 2H15
  (+) กลุ่มรับเหมาเริ่มมีสีสัน ครม.พรุ่งนี้จะพิจารณาลงทุนรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบาชุมทางถนนจิระ 2.98 หมื่นล้านบาท ขณะที่ 20-21 มิ.ย. AOT จะให้ผู้รับเหมายื่นซองประกวดราคาก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 ประกาศผลกลาง ก.ค. ส่วนรฟม.จะเปิดขายซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม 6 สัญญา มูลค่า 8 หมื่นล้านบาทวันที่ 1 ก.ค.นี้
  (0) สินเชื่อธนาคารเดือน พ.ค. ยังไม่ฟื้น ล่าสุด 4 แบงก์รายงานสินเชื่อ (TMB, TISCO, TCAP, KKP) ปรากฏว่า KKP โตดีสุด +2.6% M-M และเซอร์ไพร้ส์เรา ขณะที่ TCAP -0.5% M-M, TISCO -0.5% M-M, TMB -0.1% สินเชื่อของ TISCO, TCAP แม้จะหดตัวแต่เป็นอัตราที่ชะลอลง ทำให้ภาพรวมของกลุ่มสินเชื่อขนาดเล็กดูมีทิศทางที่ฟื้นตัว เรายังคงน้ำหนัก Neutral รอจังหวะเข้าซื้อหลัง 2Q16 ที่กำไรจะออกมาไม่ดีนักจากการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นและรายได้ดอกเบี้ยลดลง ส่วน 2H16 คาดแนวโน้มเริ่มสดใส โครงสร้างค่าธรรมเนียมใหม่กระทบเพียงระยะสั้นและจำกัด ในระยะยาวกลับช่วยลดต้นทุนแบงก์ เรายังชอบ KBANK (ราคาพื้นฐาน 194 บาท) และ TISCO (ราคาพื้นฐาน 52 บาท)
(+) KSL ราคาน้ำตาลทรายดิบในตลาดโลกยังคงทำ new high ล่าสุด 20 เซนต์ต่อปอนด์ +42% ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พุ่งแรงสุดในกลุ่มสินค้าเกษตร แนวโน้มน่าจะขึ้นต่อเพราะภัยแล้งในไทยทำให้ปริมาณอ้อยลดลงมากจนคาดเข้าสู่ภาวะขาดดุลในปีหน้าเป็นปีที่ 2 ราคาหุ้นสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกับราคาน้ำตาลค่อนข้างสูง ทิศทางจึงน่าจะเป็นบวกตามราคาน้ำตาลโลก การพักฐานของราคาหุ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมาสะท้อนกำไรที่แย่ลงใน 2Q16 (ก.พ.-เม.ย. 2016) แล้ว แนะนำเก็งกำไร ราคาพื้นฐาน 4.60 บาท
  (0) ก.คลังจะสรุปภาษีเครื่องดื่มน้ำตาลสูงภายในสิ้นเดือนนี้ ว่าจะเก็บภาษีหรือไม่จากที่ไม่เคยมีการเก็บมาก่อน แนวทางที่เคยเสนอคือเก็บ 20% ของราคาขายปลีก (ปริมาณน้ำตาลมากกว่า 6-10 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร) และ 25% (มากกว่า 10 กรัม) บริษัทที่จะกระทบมี ICHI, OISHI, CBG, TIPCO, MALEE ส่วน SAPPE กระทบเพียง 8% ของรายได้ แต่ TACC กระทบน้อยสุดเพราะเครื่องดื่มหลักอยู่ในรูปผง มีเพียงชาผลไม้ Zenya แต่ขายในประเทศไม่ถึง 1% แนวโน้มกำไร 2Q16 ดีเพราะเป็น Supplier เครื่องดื่มทั้ง 4 โถกด ราคาหุ้นปรับลงมาจนมี upside กว่า 10% แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 6 บาท

(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนลบและถือเป็นสัปดาห์ที่ตลาดร่วงลงมากสุดในรอบ 1 เดือน โดยนักลงทุนกลับมาจับตาดูการลงประชามติ Brexit ในสัปดาห์นี้
(+) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนบวกได้จากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน ขณะที่หุ้นในกลุ่มธนาคารก็ปรับบวกได้เช่นกัน
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกได้หลังโพลสำรวจระบุว่าชาวอังกฤษที่หนุนให้อยู่ในสหภาพยุโรปต่อเริ่มมีสัดส่วนมากกว่าให้ออก
(0) ค่าเงินบาทแกว่งทรงตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.15-35.25 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ค. พุ่งขึ้น 1.77 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 47.98 ดอลลาร์/บาร์เรล จากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า โดยตลาดระมัดระวังการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้นเพื่อรอดูการลงประชามติ Brexit
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ขยับลง 3.60 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,294.80 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงขายทำกำไรหลังจากที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตามราคาทองคำมีการดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ได้อีกครั้ง

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

22-มิ.ย. - ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการเนื่องในวัน Nuzul Al-quran

- ไทย: กนง. ประชุม (ตลาดคาดดงดอกเบี้ยที่ 1.5%)

- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (พ.ค.)

- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มิ.ย.)
23-มิ.ย. - อังกฤษ: Brexit

- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (มิ.ย.)

- ฟิลิปปินส์: ธนาคารกลาง (BSP) ประชุม
24-มิ.ย. - ไทย: ดุลการค้า (พ.ค.)

- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (พ.ค.), U. of Mich. Sentiment (มิ.ย.)

Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch

 

 

  

loading...

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!