- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 June 2016 16:40
- Hits: 521
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
มีช่วงย่อ แต่น่าเข้าเก็งกำไร
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ มีช่วงย่อ แต่น่าเข้าเก็งกำไร (วานนี้ดัชนีฯ ยังคงแข็งเกินคาดเป็นวันที่ 2) ปัจจัยเสี่ยงพ้นไปหลายอย่างแล้ว i) เรื่องหุ้นจีนยังไม่เข้า MSCI เป็นบวกต่อหุ้นเอเชีย ii) ผลประชุมเฟดเมื่อคืนตรึงดอกเบี้ยตามคาด ชี้ปัจจัยเรื่อง Brexit 23 มิ.ย. และตัวเลขจ้างงานเดือนที่แล้วไม่ดี นอกจากนี้เฟดลด GDP สหรัฐฯ ปีนี้สู่ 2.0% (เดิม 2.2%) ปีหน้าสู่ 2.0% (เดิม 2.1%) ทั้งนี้นักเศรษฐศาสตร์ KGI มองเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยใน ก.ย. (เดือน ก.ค. ยังไม่ขึ้น) และน่าจะส่งผลให้ฟันด์โฟลว์ในหุ้นเอเชียยังดี อย่างไรก็ดีทางขึ้นของ SET ยังถูกจำกัดก่อนผล Brexit ออก หลัง นสพ. 5 ฉบับในอังกฤษสำรวจพบผู้ต้องการออกจาก EU มีสัดส่วนสูงกว่าผู้ต้องการอยู่ใน EU ต่อ เราเชื่อว่าหลังพ้นเรื่อง Brexit แล้วแนวโน้ม SET จะบวกชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะสัปดาห์สุดท้ายของเดือนนี้ จะมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทย พ.ค. ซึ่งน่าจะฟื้นตัวต่อ + จิตวิทยาเชิงบวกจากการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม วันนี้ นสพ. ลงข่าวขายซองประมูล 1 ก.ค. นี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร BEM*, KTC* / ซื้อ TASCO*
BEM* (เป้าพื้นฐาน 6.3 บาท ... เป้าสูงสุด Consensus 7 บาท) 1) รูปแบบราคา Sideway รอสัญญาณซื้อ แนะนำ “สะสม” ในกรอบ 6.3 – 6.5 บาท” รอจังหวะการ Break แนวต้านที่ 6.50 บาท ประเมินมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 6.6 บาท และ 7.0 บาท (Stop loss 6.25 บาท) 2) ประเด็นข่าว รฟม เจรจาตรง BEM เดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย + การเตรียมเปิดประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ฝ่ายวิจัยฯคาด รฟม เริ่มเปิดขายซองประมูลต้นเดือน ก.ค. โดยคาด BEM จะเข้าร่วมประมูลพร้อม CK*)
KTC* (เป้าพื้นฐาน 125 บาท) 1) ประเมินแนวรับ ±90 บาท และมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้าน ±95 บาท และถัดไปที่ ±98 บาท (MACD เริ่มวกขึ้นในแดนบวกและกำลังตัด Signal line) 2) ในเชิง Valuation ประเมิน PE 9.8 เท่า และ Dividend yield 4.6% 3) คาดปีนี้ KTC ได้อานิสงส์ทั้งด้านต้นทุนการเงิน (ได้ปรับ Credit rating ขึ้นจาก A- เป็น A+) และปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่เพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจใน 2H59 + มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 46.2 บาท) 1) PE 8.3 เท่า Dividend yield 3.3% 2) ราคาหุ้นแกว่งตัว Sideway ทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (EMA) บริเวณ ±27 บาท หากทะลุผ่านแนวต้าน 28 บาทได้ แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมินแนวต้านถัดไป ±30 บาท ... สำหรับภาพระยะกลาง รูปแบบราคารายสัปดาห์เครื่องชี้ MACD ปรับขึ้น (Bullish Divergence) ในภาพระยะกลางเป็นบวก แนะนำ “สะสม” 3) ฝ่ายวิจัยฯยังคงประเมินแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 2/59 จะเติบโตราว 15 – 20% QoQ จากราคายางมะตอยที่ฟื้นตัว (ราคาขายในประเทศ +50% จากราคาเฉลี่ยในไตรมาส 1/59 และราคาขายต่างประเทศ +60% จากราคาเฉลี่ยในไตรมาส 1/59) ขณะที่ปริมาณขายคาดจะทรงตัว QoQ (และจะเข้าสู่ High Season ใน 2H โดยปกติปริมาณขาย 1H : 2H คิดเป็น 45% : 55%) และคาดสัญญาซื้อน้ำมันในราคาพิเศษ (ถูกกว่าราคาตลาดฯ) จะเป็นตัวหนุนอัตรากำไรให้ยังอยู่ในระดับที่สูง
หุ้นในกระแส
หุ้นได้อานิสงส์ การเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะ (BWG, GENCO, IFEC, TMC) แรงซื้อเข้ามาในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้าขยะ คาดเป็นแรงเก็งกำไรจากประเด็นการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะ (อุตสาหกรรมฯ 50MW และ ขยะชุมชน 120MW) โดย BWG และ GENCO คาดเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจรับกำจัดขยะอุตสาหกรรมฯ สนใจเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมฯ ขณะที่ IFEC มีธุรกิจรับกำจัดขยะชุมชนที่ จ.ชลบุรี (300 ตัน/วัน) คาดจะยื่นทำโรงไฟฟ้าขยะชุมชนราว 5MW และ TMC ทำธุรกิจเครื่องคัดแยกขยะคาดจะได้อานิสงส์จากประเด็นนี้ไปด้วย
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (CK*, STEC*, SEAFCO, PYLON) และวัสดุฯ (SCC*) 1) AOT* จะเปิดยื่นซองราคางานก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 (2 สัญญา) ในวันที่ 20 – 21 มิ.ย นี้ (คาดรู้ผลในเดือน ก.ค.) 2) การประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มจะเริ่มเปิดขายซองในต้นเดือน ก.ค. (เป็นบวกต่อ BEM*, CK*, SEAFCO) เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มรับเหมาฯ และวัสดุฯ
หุ้นกลุ่มการบริโภคในประเทศ ค้าปลีก + อสังหาฯ ฝ่ายวิจัยฯคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มการบริโภคในประเทศที่จะฟื้นตัวในช่วง 2H59 (ผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และปัจจัยลบเรื่องภัยแล้งคลี่คลาย) แนะนำ “สะสม” หุ้นในกลุ่ม ค้าปลีก (CPALL*) การบริโภคในประเทศ (KTC*) ขณะที่หุ้นกลุ่มอสังหาฯ คาดราคาอ่อนตัวลงมารับข่าวภาษีที่ดินฯ ไปพอสมควรแล้ว แนะนำ “สะสม” AP* และ ANAN*
หุ้นมีข่าว
(+) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง; รฟมเตรียมขายซองประมูลสายสีส้ม 1 ก.ค.นี้ (ข่าวหุ้น) ภายหลังจากมีมติเห็นชอบร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) และรฟมจะประกาศขายเอกสารประกวดราคาในวันที่ 1 กรกฎาคม 2559 ทั้งนี้ ข่าวดีดังกล่าวน่าจะส่งผลบวกต่อกลุ่มผู้รับเหมาขนาดใหญ่ที่จะเข้าร่วมประมูล เนื่องจากมูลค่าโครงการที่สูงกว่า 8 หมื่นล้านบาท จะช่วยหนุนให้ผลการดำเนินงานของผู้ชนะการประมูลเติบโตต่อเนื่อง เรายังคงคำน้ำหนัก “มากกว่าตลาด” ในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง และเลือก CK * เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มราคาเป้าหมาย 36.50 บาท
(0) NETBAY ผู้นำยุคดิจิทัล พร้อมลั่นระฆังเทรดวันนี้ (ทันหุ้น) "บมจ.เน็ตเบย์" ผู้นำการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้าน e-Logistics Trading และ e-Business Services ครบวงจรที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิทัลของประเทศไทยพร้อมเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรก ในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับดีจากพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง สามารถเติบโตต่อเนื่องในระยะยาวจากจำนวนผู้ที่มาใช้บริการรับ-ส่งและเชื่อมโยงข้อมูลธุรกรรมทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
(+) รฟม.ไฟเขียวเจรจา BEM* เดินรถสายสีน้ำเงินส่วนต่อ ขายซองประมูลสีส้ม 9.2 หมื่นล้าน 1 ก.ค.นี้ (ข่าวหุ้น) บอร์ด รฟม. ไฟเขียวตามมติกรรมการมาตรา35 มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ให้เจรจา BEM รับเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย รวมรอยต่อ 1 สถานี เตาปูน-บางซื่อ พร้อมจ่อขายเอกสารประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม 9.2 หมื่นล้านบาท วันที่ 1 ก.ค.นี้
(+) TMB* ต้นทุนค่าฟีลดฮวบ รับอานิสงส์ "พร้อมเพย์" (ข่าวหุ้น) แบงก์ทหารไทยตีปีก ต้นทุนค่าบริการลด หลังประกาศใช้ "พร้อมเพย์" ไม่ต้องจ่ายค่าฟีการโอนเงินระหว่างแบงก์แทนลูกค้ากรณีโอนไม่เกิน 5 พันบาทต่อราย ขณะที่แบงก์ใหญ่กระอัก SCB KBANK และ KTB รายได้ค่าธรรมเนียมลดฮวบ พร้อมเปิดลงทะเบียน "พร้อมเพย์" 15 ก.ค.นี้ ให้บริการเดือนตุลาคม ... วันนี้ฝ่ายวิจัยฯมีบทวิเคราะห์ Alert กลุ่มธนาคารพาณิชย์ วิเคราะห์ผลกระทบเรื่องนี้
(+) TPBI วางหมากหั่นต้นทุน ปูพรมผลงาน 5 พันล้านบาท (ทันหุ้น) TPBI เดินเกมรุกผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล หวังกดต้นทุน หนุนมาร์จิ้นพุ่ง แถมใช้เป็นวัตถุดิบผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทหูหิ้วและถุงขยะตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ชี้สิ้นปีใช้กำลังผลิตเต็ม 100% ซุ่มขยายกำลังผลิตใหม่รองรับออเดอร์ทั้งไทย-ต่างประเทศ ส่วนทั้งปี 2559 โชว์รายได้ไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท เปิดเกมเทกโอเวอร์ธุรกิจอัพฐานโตแกร่ง
(+) ททท.มั่นใจ Q3 ท่องเที่ยวสดใส (ไทยโพสต์) ททท. เผยไตรมาส 3 การท่องเที่ยวยังสดใส คาดสร้างรายได้อีก 6.35 แสนล้านบาท (+14%) ด้านธุรกิจโรงแรมจะมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 80-85%
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
IFEC (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) แนะนำ “สะสม” ประเมินแนวต้านจิตวิทยาที่ 7.0 บาท หากผ่านได้ประเมินทดสอบแนวต้าน 7.8 บาท และแนวรับที่ 6.7 บาท … เตรียมนำ รร ดาราเทวี ออกจากแผนฟื้นฟูฯ (ปลดล๊อกการลงทุน + บันทึกกำไรพิเศษ) และอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการพลังงานทดแทน คาดรู้ผลใน 1 – 2 เดือนนี้
BWG (เป้า Consensus 2.62 บาท) แนะนำ “เก็งกำไร” หากวันนี้ทะลุแนวต้านแรกที่ 2.02 บาทได้ประเมินแนวต้านถัดไปที่ ±2.14 บาท แนวรับ ±1.96 บาท และถัดไปที่ 1.92 บาท
BANPU* (เป้า Consensus 12.5 บาท ... เป้าสูงสุด 16.7) หากยืนเหนือบริเวณแนวรับ 12.7 บาทได้ แนะนำ “ถือ / เก็งกำไร” คาดมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 13.8 บาท ... ราคาถ่านหิน BJI สัปดาห์ล่าสุด +2.9% WoW และฝ่ายวิจัยฯประเมิน Downside จำกัด
TPBI (เป้า Consensus 19.3 บาท) ประเมินหากวันนี้ทะลุแนวต้าน 17.0 บาทได้ แนะนำ “เก็งกำไร” มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 17.6 บาท ... ประเมินราคาหุ้นอ่อนตัวสะท้อนความกังวลเรื่องต้นทุนเม็ดพลาสติกไปพอควรแล้ว (แต่ในความจริงราคาเม็ดพลาสติกในไตรมาส 2/59 ลงสวนทางกับราคาน้ำมัน)
COM7 (เป้าเฉลี่ย Consensus 8.0 บาท, สูงสุด Consensus 9.0 บาท) แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 8.25 บาท … ปลายปีนี้จะมีทั้ง iPhone 7 และ MacBook ใหม่ + คาดไตรมาส 2/59 เป็นจุดเริ่มต้นการโตแบบ Inorganic Growth
PACE (เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท) แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้านถัดไปที่ ±3.5 บาท และกำหนด Trailing stop หากต่ำกว่า 3.26 บาท ... คาดไตรมาส 3/59 จะเริ่มมีกำไรจากการดำเนินงาน (โครงการมหานครเริ่มโอนบางส่วนในไตรมาส 2/59)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
BCP* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 36 บาท (Re-initiate) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินธุรกิจพลังงานทดแทนของ BCP* เตรียม IPO ในปลายปีนี้ จะเป็น Catalyst บวกต่อ BCP ขณะที่ราคาเหมาะสมที่ประเมิน 36 บาท ยังไม่รวม Upside อีก 5.5 บาท จากโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่น
DTAC* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 34 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/59 ลดลง -60% YoY และ -56% QoQ เป็น 554 ล้านบาท
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยสี่วัน 1431 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1431 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1431-1450 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1431 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1431-1423 จุด
แนวรับวันนี้: 1432/1424 แนวต้านวันนี้: 1440/1449
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]