- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 14 June 2016 17:18
- Hits: 628
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily 14-6-16
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดในทิศทางกระโดดลงทันที 9.83 จุด พร้อมกับแกว่งตัวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยมีแรงขายนำจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ พลังงาน และขนส่ง กดดัชนีจุดต่ำสุดของวันที่ 1414.89 จุด ลดลง 14.32 จุด ขณะที่จุดสูงสุดของวันที่ 1425.97 จุด ลดลง 3.24 จุดทำให้มีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 11.08 จุด สำหรับหุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวลงของดัชนีได้แก่ KBANK, SCB, BBL, PTTEP, PTT, PTTGC, SCC ก่อนที่ดัชนีจะทำปิดที่ 1421.86 จุด ลดลง 7.35 จุด (-0.51%) มูลค่าการซื้อขาย 54,564 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
จากอิทธิพลของ Dark Cloud Cover และการหลุด neckline ของโครงสร้างในภาพรายสัปดาห์ที่เป็น Head & Shoulders Bottom ส่งผลให้ดัชนีวานนี้มีทิศทางการปรับฐานแรง เปิดกระโดดลงสร้าง Gap ที่มีความกว้าง 2.90 (1425.97-1428.87) ลงไปทำจุดต่ำที่ 1414 จุด ซึ่งยังไม่สามารถปิด Gap ที่สองได้สนิท (1412) ก่อนที่จะมีแรงดีดกลับซึ่งยังไม่มีความแข็งแรงมากพอ และการหลุด Uptrend Line (1426) เส้นแรกลงมา ทำให้แนวโน้มของดัชนีน่าจะยังคงทิศทางปรับฐานต่อ โดยมีเป้าหมายแนวรับที่ 1410-1405 จุด แต่อย่างไรก็ตามระยะสั้นในภาพรายชม.มีโอกาสดีดกลับในกรอบที่จำกัด แนวต้าน 1430-1435 จุด
กลยุทธ์ : แกว่งตัวผันผวนในเชิงลบ
Support 1420 // 1400 // 1380 จุด Resistance 1440 // 1455-1460 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Morning Bell (14-JUN-16)
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST) มองทิศทางตลาดหุ้นไทยในวันที่ 14 มิ.ย. 2559
ว่าตลาดหุ้นไทยกำลังถูกครอบงำด้วยปัจจัยหลักคือ แนวโน้มผลการลงประชามติของคนอังกฤษที่จะอยู่ในอียูต่อไปหรือไม่ (BRExit) ผลสำรวจล่าสุด ฝั่งที่ต้องการออกจากอียูยังมีคะแนนนำ (Bloomberg รวบรวมผลสำรวจจากแหล่งต่างๆ ณ 13 มิ.ย. ผู้ต้องการออกอยู่ที่ 46.0% ; ต้องการอยู่ 42.5%) ส่งผลให้เกิดความวิตกว่ากลุ่มอียู(ที่เหลือ) จะเกิดปัญหาหากอังกฤษออกจากอียูไป เงินลงทุนจึงโยกเข้าสู่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำต่อเนื่อง นำโดย เงินเยนและพันธบัตรรัฐบาล (ดัชนีราคาพันธบัตร Bloomberg Global Developed Sovereign Bond Index สูงขึ้นถึง 2.6% จากเดือน พ.ค.) โดยผลดังกล่าวจะยังคงกดดันตลาดหุ้นต่อมาจนถึงวันนี้ ด้านราคาน้ำมัน OPEC ออกมาคาดการณ์ว่าภาวะ oversupply จะสิ้นสุดลงในปีนี้ (จากเดิมกลางปีหน้า) เป็นบวกต่อราคาน้ำมัน แต่ราคาน้ำมันเองก็ถูก BRexit มากดไว้ ทำให้เดินหน้าต่อไปไม่ได้ เราประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทย มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงจากวันก่อน
ส่วนปัจจัยที่จะมีผลต่อการซื้อขายในระหว่างวัน ได้แก่ การประชุมครม. ในเรื่องแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ และข่าวสารเกี่ยวกับเรื่อง BRExit โดยเฉพาะ ผลการประชุม EC-ECB ในวันนี้ เนื่องจากจะมีผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลกในทันทีหากผลประชุมหรือข่าวมีนัยยะต่อตลาด
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เรายังคงแนะนำให้ชะลอการลงทุน เนื่องจากตัวแปรตลาดที่สำคัญ คือ BRExit นั้นเป็นตัวแปรที่คาดการณ์ทิศทางไม่ได้ และมีผลรุนแรงต่อตลาดหุ้น นักลงทุนควรรอจังหวะที่มีสัญญาณว่าอังกฤษจะไม่ออกจากอียู เข้ามาในตลาดจึงค่อยเข้าซื้อหุ้น โดยหุ้นที่เราคาดว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจสำหรับการเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ในวันนี้ ได้แก่ PTTEP ราคาน้ำมันมีทิศทางที่เป็นบวก, SUSCO ปริมาณการขายนำมันเพิ่มขึ้น จากการขายในต่างประเทศทำให้รายได้เพิ่มขึ้น ทั้งอาจจะเห็น กนง.อาจปรับลดดอกเบี้ยลงได้ในการประชุมคราวหน้า จะเป็นผลบวกต่อหุ้นที่จ่ายปันผลสูงอย่าง DIF และหุ้นอย่าง CSS (ราคาปิด 3.58 บาท; ไม่มีราคาที่เหมาะสม) ผู้บริหารคาดแนวโน้มครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก (Q1/59 มีกำไร 23.76 ล้านบาท ลดลง 61.6% YoY) โดยมีปัจจัยหนุนจากออเดอร์จากงานติดตั้งระบบโทรคมนาคมจากผู้ให้บริการเครื่อข่ายมือถือ (DTAC, AIS, TRUE) ที่มีแผนขยายสถานีโครงข่าย 4G รวมทั้งงานรถไฟทางคู่ของภาครัฐที่มีความล่าช้าในช่วงครึ่งปีแรก