- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 14 June 2016 17:10
- Hits: 583
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET พักตัวสร้างฐาน เพื่อรอขึ้นรอบใหม่ ดังนั้นเลือกหุ้นทยอยซื้อ!
ตลาดหุ้นวานนี้ : ถึงแม้ว่า SET จะปรับตัวลงต่อเนื่องค่อนข้างแรง แต่ก็ยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาพยุงตลาดไว้ได้ทั้งวัน ทำให้ยังมีลักษณะแกว่งทรงตัวในด้านลบให้เห็น แสดงถึงแรงซื้อในตลาดยังมีอยู่พอควร
แนวโน้มตลาดวันนี้ : คาดว่า SET จะยังมีจังหวะแกว่งตัวด้านลบให้เห็นได้อีก เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ไม่สดใสนัก หลังตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 โดยคาดว่ามาจากแรงขายลดความเสี่ยง ก่อนที่จะทราบผลการประชุมของเฟด (14-15 มิ.ย.) รวมทั้งนักลงทุนยังมีความกังวลต่อผลการลงประชามติของอังกฤษเกี่ยวกับการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป(Brexit) ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ด้วย ซึ่งกดดันตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ให้ยังปรับตัวลงค่อนข้างแรง ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดเป็นลบด้วย อย่างไรก็ตามกรอบลบของตลาดหุ้นเอเชียเริ่มแคบลงบ้าง ขณะที่ SET ก็ยังพอที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนอยู่ ดังนั้นแม้ SET ยังมีสิทธิลบต่อ แต่ก็ลุ้นทรงตัวเพื่อรอรีบาวด์ได้
กลยุทธ์ : ถึงแม้ SET ยังมีสิทธิพักตัวลงต่ออีก แต่ FSS คาดว่าเป็นการพักตัวเพื่อสร้างฐานรอการแกว่งขึ้นรอบใหม่ตามคาด ดังนั้นเรายังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยเข้าซื้อสะสมต่อเนื่อง แล้วเน้นถือเพื่อรอขายทำกำไรช่วงบวกต่อไป
แนวรับ 1420-1415 , 1412-1410 จุด
แนวต้าน 1426-1428 , 1432-1435 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : CHG, ICHI, VGI(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$371ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$167ล้าน และไต้หวัน US$148ล้าน ส่วนไทยมีเงินทุนไหลออก US$12.4ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคจากความกังวลต่อผลประชามติของอังกฤษต่อการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 23 นี้ ซึ่งทำให้เงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงหาสินทรัพย์ปลอดภัย
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ความกังวล Bexit โพลล์ Brexit ที่ให้ออกจาก EU มากกว่าให้อยู่ต่อ ยังกดดันราคาสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ราคาน้ำมันปรับลง ดัชนีความกลัว VIX พุ่งเหนือ 21 จุดซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ ก.พ. 2016 ทิศทางเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น Bond yield อายุ 10 ปีของสหรัฐปรับลงเหลือ 1.6113% ต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี และราคาทองคำปรับขึ้นต่อเนื่อง
(0) ติดตาม MSCI ว่าจะนำหุ้นจีน A-shares เข้าคำนวณในดัชนี MSCI EM หรือไม่ 14 มิ.ย. เรารู้ผลเช้า 15 มิ.ย.
(0) AAV กลุ่มคุณธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ขายหุ้น AAV 1,891 ล้านหุ้นในราคา 4.20 บาท (รวม 7,945 ล้านบาท) ให้กลุ่มนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกลุ่ม King Power และเจ้าของเลสเตอร์ซิตี้ เข้า มาถือหุ้นใหญ่ 38.98% ต้องทำ Tender Offer ส่วนคุณธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ (CEO) เหลือหุ้น 5% ราคาซื้อขายที่ต่ำกว่าราคาตลาดถึง 30% เป็นลบต่อราคาหุ้นในระยะสั้น แต่พื้นฐานไม่เปลี่ยน ระยะยาวมีโอกาสเกิด Synergy เช่นขายสินค้า duty free บนเครื่องบินหรือผ่านออนไลน์ เราคิดว่าอ่อนตัวยังน่าซื้อ อย่างน้อยธุรกิจท่องเที่ยวยังสดใส คงราคาเป้าหมายปีนี้ 6.90 บาท
(0) PTTGC การหยุดเดินเครื่องจักรโรงงานโอเลฟินส์ขนาด 1 ล้านตัน/ปีตั้งแต่ 17 พ.ค. จะกลับมาเดินเครื่องกลาง มิ.ย. และจะค่อยๆเพิ่มกำลังการผลิตจนเต็มกำลังในเดือน ส.ค. เราคาดกระทบกำไรไม่เกิน 3% (0.20 บาท/หุ้น) คงราคาพื้นฐาน 70 บาท แนะนำซื้อ
(+) K งาน Opp day วานนี้ เรายังมีมุมมองบวกต่อกำไร 2Q16 ที่คาดทำได้ 18-20 ล้านบาท ฟื้นถึง 28-43% Q-Q และพลิกจากขาดทุน 3 ล้านบาทใน 2Q15 กำไรในครึ่งปีหลังจะฟื้นต่อเนื่องเพราะเป็น High Season ของงานตกแต่งภายในและงานตกแต่งบูธแสดงสินค้า ปัจจุบันงานในมือที่มี 500 ล้านบาทคาดรับรู้ทันทั้งหมดในปีนี้ ทำให้คาดการณ์รายได้ของเราที่ 1,194 ล้านบาทเป็นไปได้มาก และยังมีงานรอผลประมูลในช่วง 2 เดือนนี้อีก 1.21 พันล้านบาท ปัจจุบัน K มี PE 17 เท่า ต่ำสุดตั้งแต่เข้าตลาดและต่ำกว่ากลุ่มที่ 25 เท่า และคาด Dividend yield 4% ต่อปี จึงยังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 6.20 บาท
(+) การประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลในภาคใต้ไม่เกิน 36MW กำลังจะเริ่ม เฟสที่ 1 อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจ.สงขลา รวมไม่เกิน 36MW กกพ.จะเปิดให้เอกชนยื่นขอขายไฟ 15-30 มิ.ย. ประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติ 22 ก.ค. เปิดซองเสนอราคา 8 ส.ค. และประกาศรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือก 11 ส.ค. ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมมี TPCH, PSTC, FER, ECF, GUNKUL, FPI เป็นต้น เราเชื่อว่า TPCH (ราคาเป้าหมาย 19.50 บาท) ได้เปรียบจากประสบการณ์ ความคุ้นเคยในพื้นที่ภาคใต้ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้จำหน่ายวัตถุดิบเชื้อเพลิง เราประเมินว่ากำลังผลิตทุกๆ 10MW ที่เพิ่มขึ้น จะเพิ่มมูลค่าหุ้นประมาณ 1.50 บาท ซึ่งยังไม่รวมในราคาเป้าหมาย ยังคงแนะนำซื้อ
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบต่อเนื่องโดยนักลงทุนลดขายสินทรัพย์เสี่ยงและจับตาดูกาประชุม FED ในวันที่ 14-15 มิ.ย. นี้รวมถึงการลงประชามติ Brexit วันที่ 23 มิ.ย.
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนยังปิดลบแรงต่อเนื่องจากความไม่แน่นอนในเรื่องของการลงประชามติ Brexit นอกจากนี้ยังมีการประชุมธนาคารกลางอังกฤษและสวิสเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้
(-)ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดตลาดในแดนลบตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นจากบรรยากาศการลงทุนที่ไม่สดใส
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกข้าง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.14-35.25 บาท/ดอลลาร์
(0) บาร์เรล มาอยู่ที่ 48.88 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจในยุโรปและเอเชีย
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. พุ่งขึ้น 11.00 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,286.90 ดอลลาร์/ออนซ์ บวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 หลังตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลง และนักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อรอดูผลการประชุม FED และการโหวต Brexit
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
14-15 มิ.ย. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
14-มิ.ย. - สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (พ.ค.)
- MSCI Annual 2016 Market Classification Review
15 มิ.ย. - ยูโรโซน: ดุลการค้า (เม.ย.)
16-มิ.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (พ.ค.)
17-มิ.ย. - สหรัฐ: Housing Starts, Building permits (พ.ค.)
20-มิ.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (พ.ค.)
21-มิ.ย. - ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (มิ.ย.)
22-มิ.ย. - ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการเนื่องในวัน Nuzul Al-quran
- ไทย: กนง. ประชุม (ตลาดคาดดงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch