WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1400
  SET Index: 1417.99 ปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1425-1430 จุดลงไป กลายเป็นแนวต้านสำคัญสำหรับการฟื้นตัวในระยะสั้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคขึ้นไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเราคาดว่า แนวโน้มของ SET Index ยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1400 จุดบริเวณเส้นแนวโน้มขาขึ้นเป็นแนวรับสำคัญ ในขณะที่โครงสร้างหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1460 และ 1500 จุด


  แนวต้าน : 1420 และ 1424
  แนวรับ : 1415 และ 1412

JAS = 4.80 / 4.90, CPALL = 47.00 / 48.00, IVL = 31.00 / 31.50, PTT = 310 / 314, KBANK = 166 / 168

Asian Phytoceuticals (APCO TB; THB 1.63) - ซื้อ
  แนวต้าน : 1.80 และ 1.88
  แนวรับ : 1.62 และ 1.60
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ราคาหุ้นเริ่มทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันขึ้นไปได้แล้ว
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 70
  แนะนำซื้อ APCO โดยมีแนวรับที่ 1.62 และ 1.60 และมีแนวต้านที่ 1.80 และ 1.88 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.57 ลงไป

Power Solution Technologies (PSTC TB; THB 0.61) - ซื้อ
  แนวต้าน : 0.68 และ 0.70
  แนวรับ : 0.61 และ 0.60
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
  แนะนำซื้อ PSTC โดยมีแนวรับที่ 0.61 และ 0.60 และมีแนวต้านที่ 0.68 และ 0.70 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 0.58 ลงไป

SET50 Index Futures
  S50M16 ปรับตัวลดลงไปสร้างฐานที่บริเวณ 900 ซึ่งเราแนะนำให้ขายทำกำไรสถานะ Short ทำกำไรออกไปก่อน เพื่อรอการปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 895 ลงไป แต่เมื่อพิจารณาการสร้างฐานเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 908-910


  แนวต้าน : 904 และ 908
  แนวรับ : 900 และ 898
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ขายสถานะ Short ใน S50M16 ออกที่บริเวณแนวรับ 900 แต่ถ้าปรับตัวลดลงหลุดระดับ 895 ลงไป จะเป็นจังหวะกลับเข้าไป Open Short
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50M16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 910 ขึ้นไป

TPIPLM16
  เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 2.20 หลังจากฟื้นตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.35 บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ และมีแนวรับสำคัญที่ 2.14 ถ้าหลุดจะมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 2.00 และมีแนวต้านสำคัญที่ 2.40 ในขณะที่โครงสร้างหลักยังเคลื่อนไหวในแนวโน้มขาลง
  แนวต้าน : 2.24 และ 2.30
  แนวรับ : 2.20 และ 2.16
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน TPIPLM16 ที่แนวรับ 2.20 และ 2.16 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.30 และ 2.36
  STOP LOSS สถานะ Long ถ้า TPIPL16 ปรับตัวลดลงหลุด 2.14 ลงไป

JASM16
  ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคไปทดสอบแนวต้านที่ 4.90 บริเวณแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานหลังจากทดสอบแนวต้านสำคัญ ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้น น่าจะอยู่ในกรอบจำกัด และยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 4.50


  แนวต้าน : 4.90 และ 4.98
  แนวรับ : 4.80 และ 4.74
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ขายสถานะ Long ใน JASM16 ที่แนวต้าน 4.90 และรอ Open Short ที่แนวต้าน 5.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 4.80
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า JASM16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 5.05 ขึ้นไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET...ปรับฐานลงต่อ
  เมื่อดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ขึ้นมาสร้างสถิติสุงสุด หลังจากนี้จะไปต่อหรือปรับตัวลง ส่วนที่ Bullish มองไปต่อได้อีก หลังมีสัญญาณว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจและกำไรของตลาดใน Q2/16 จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับ Q1/16 ส่วนพวกที่ Bearish มองกรอบการขึ้นจะจำกัด หลังขึ้นมาสูง จนมองไม่เห็นปัจจัยหนุน รวมทั้งกำลังขึ้นไปเทรดกันที่ค่า P/E แพง นอกจากนั้นมองการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในช่วงแรกๆ จะเป็นตัวสะกัดกั้นการขึ้นของตลาดหุ้น
  สัญญาณตัวหนึ่งที่น่าจะนำมาพิจารณาถึงทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ นั่นก็คือการขึ้นของหุ้นสาธารณูโภคหรือ Utilities ซึ่งปกติจะเป็นหุ้นจ่ายปันผลและมีความเสี่ยงต่ำ จึงเหมาะกับการลงทุนในช่วงที่ตลาดมีความกลัวหรือเน้นความปลอดภัย ซึ่งในขณะนี้ภาพดังกล่าวเริ่มเกิดในตลาดหุ้นสหรัฐ หากมาดูดัชนีกลุ่ม Utilities ของสหรัฐ นับตั้งแต่ปี 1942 ถึงปัจจุบัน พบว่า รอบการขึ้นแรงๆ มี 3 รอบ คือ 1.ตั้งแต่เดือน พ.ย.1942 ถึง ธ.ค. 2000 2. ต.ค. 2002 ถึง ธ.ค. 2007 และ 3. มี.ค. 2009 ถึงปัจจุบัน พบว่ารอบการขึ้นทั้ง 3 รอบเริ่มเหมือนกัน คือเพิ่มขึ้นในลักษณะที่ใกล้เคียงกัน และที่สำคัญคือ กำลังขึ้นไปแตะสัญญาณการขาย หากเป็นไปตามคาด การปรับฐานกำลังจะเกิดในตลาดหุ้นสหรัฐ
  ในส่วนของตลาดหุ้นไทยเอง หลังดัชนีขึ้นไปแตะ 1450 จุดแต่ไม่ผ่าน สัญญาณในเชิงบวกตอนนี้ก็มีแค่ยังไม่มีปัจจัยลบ ส่วนสัญญาณในเชิงลบมาจากตลาดกำลังเทรดกันที่ค่า p/E 12 เดือนล่วงหน้าที่แพง เมื่อเทียบกับภูมิภาค ดูรูปด้านขวา จะพบว่าสัดส่วนดังกล่าวขึ้นไปเล่นที่ค่า +2SD ซึ่งจากข้อมูลในอดีด 15 ปี สัดส่วนดังกล่าวขึ้นไปที่ค่า +2SD แค่ 2 ครั้งและครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โอกาสที่จะทะลุยังมองไม่เห็นปัจจัยหนุนใหม่ๆ
  ปัจจัยที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้ายังคงเป็นการประชุมสำคัญของธนาคารกลางทั่วโลก โดยเริ่มจาก 1) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 14-15 มิ.ย. ซึ่ง Bloomberg consensus คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% 2) การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ในวันที่ 16 มิ.ย. ซึ่งตลาดก็คาดว่าจะไม่มีการออกนโยบายการเงินใหม่มากระตุ้นเศรษฐกิจ 3) การประกาศหุ้นเข้าคำนวณในดัชนี SET50 ในงวดครึ่งปีหลังเดือนก.ค. -ธ.ค. โดยคาดว่าจะประกาศในวันที่ 15 มิ.ย. โดยเราคาดว่าหุ้นที่มีโอกาสถูกเลือกเข้าไปในการคำนวณ SET50 คราวนี้ประกอบด้วย KCE GPSC MTLS EPG RATCH และหุ้นที่จะถูกถอดออกประกอบด้วย BEC JAS M SCCC และ TTW ส่วนสัปดาห์หน้าประเด็นสำคัญจะอยู่ที่การลงประชามติของอังกฤษว่าจะออกจากสหภาพยุโรป (EU) หรือไม่ในวันที่ 23 มิ.ย.
  กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ เรายังคงแนะนำให้ขายทำกำไรอย่างต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มหลักอย่าง พลังงาน ธนาคารและให้พักเงินในกลุ่มสื่อสาร (ADVANC INTUCH JASIF) กลุ่มที่ laggard ตลาดอย่าง BDMS CPALL และกลุ่มที่ให้อัตราเงินปันผลสูง (LH SIRI RATCH) โดยกลุ่มพลังงาน (PTT PTTEP) คาดว่าจะถูกขายทำกำไรออกมาหลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 3 วันติด โดยล่าสุดราคาน้ำมันปรับลดลง 1.49 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ -3% ปิดที่ 49.07 ดอลลาร์/บาร์เรลและมีแนวโน้มปรับลดลงต่อหลังค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) คาดว่าจะกลับมาถูกกดดันหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) กลับมาลดลงต่อเนื่องอีกครั้ง สำหรับวันนี้คาด ดัชนี SET เปิดขึ้นมาจะปรับตัวลงไปเล่นในแดนลบ ตามดัชนีในภูมิภาคที่ต่างปรับตัวลง โดยวันนี้มองแนวรับที่ 1422-1418 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1434-1438 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร DTAC

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary…
  SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,417.99 จุด ลดลง 11.22 จุด (-0.79%) มูลค่าการซื้อขาย 26,188.45 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับลงตามตลาดต่างประเทศ หลังราคาน้ำมันปรับลงฐานและความกังวลเกี่ยวกับการลงประชามติของชาวอังกฤษที่จะตัดสินใจว่าจะออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หรือไม่ (23 มิ.ย.) กดดันค่าเงินยูโร และเงินปอนด์

Afternoon Perspective…
  แนวโน้มตลาดบ่าย ถ้ายืนเหนือ 1415 จุดได้ จะมีลุ้นเกิดเทคนิเคลรีบาวน์กลับไปแถว 1430 จุด ช่วงเช้า SET ปรับฐานแต่ไม่หลุด 1415 จุด ซึ่งเป็นระดับเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน โดยหลักการน่าจะเกิดเทคนิเคลรีบาวน์ แต่อย่างไรก็ตาม การปรับฐานลงของ SET ในรอบนี้ คงต้องระมัดระวังในการกลับเข้าไปซื้อ เพราะหุ้นใหญ่ทั้ง พลังงาน ธนาคาร ปรับตัวลง ทำให้มองว่ามีโอกาสจะลงต่อ โดยเฉพาะหาก SET หลุดต่ำกว่า 1415 จุด อาจจะเห็นการลงต่อถึงระดับ 1395 จุด ระยะสั้นปัจจัยที่ต้องต้องจับตาดูคือ 1) แนวโน้มราคาน้ำมันหลังจากนี้ จะยังคงรักษาโมเมนตั้มขาขึ้นต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งในเชิงฟื้นฐานเริ่มมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนแท่นขุดเจาะก๊าซในสหรัฐหลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 50 US$ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นปัจจัยลบต่อตลาดน้ำมัน และหากราคาน้ำมันเริ่มเป็นขาลง SET Index คงจะกลับมาเป็นขาขึ้นลำบาก 2) ความไม่แน่นอนของการลงประชามติของอังกฤษในวันที่ 23 มิ.ย. ประเด็นนี้ ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงลงและหันไปเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในทองในช่วงสั้นๆนี้ 3) การประชุมเฟดในวันที่ 14-15 มิ.ย. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม โดยสรุปตลาดยังดูยังไม่ดีระยะสั้น ดังนั้นหาก SET รีบาวน์จะเป็นจังหวะขายอีกครั้ง กลยุทธ์เน้นรายตัวเป็นหลัก ซึ่งเราสนใจ TASCO BANPU JAS ADVANC

Technical Pick (PM) & Cash Balance...
  Asian Phytoceuticals (APCO TB; THB 1.63) - ซื้อ
  Power Solution Technologies (PSTC TB; THB 0.61) - ซื้อ

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!