- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 08 June 2016 17:59
- Hits: 1417
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> INET, KOOL, PTT, TPCH
Stock S R Comment
INET 4.84 5.16 ส่งซิกผลงาน Q2/59 โตได้อีก
KOOL 2.00 2.20 ฮีโร่สู้ร้อน
PTT 306.00 315.00 ปลอดภัยที่สุดในหุ้นกลุ่มพลังงาน
TPCH 15.30 15.80 ตัวเต็งชนะประมูล biomass กลางปีนี้
Foreigner bought Thai bonds the most in nearly 3 years
PROP : จากการที่ครม.มีมติอนุมัติการเก็บภาษีสิ่งปลูกสร้างที่มีราคาเกินกว่า 50 ล้านบาท เราคาดว่าจะมีผลกระทบต่อ Developer รายที่เน้นขายโครงการที่มีราคาขายสูง (เช่น SIRI ,LH) เนื่องจากการจัดเก็บภาษีจะเป็นการเพิ่มรายจ่ายให้แกลูกค้า ทั้งนี้การเก็บภาษีจะยกเว้นให้แก่ผู้ที่มีสิ่งปลุกสร้างในครอบครองหลังแรก และที่มีมูลค่าต่ำกว่า 50 ล้านบาท แต่หากว่าเป็นการครอบครองหลังที่สองจะมีการจัดเก็บภาษีทันที เรามองว่า Developer ที่ขายแต่โครงการที่เป็นคอนโด (เช่น LPN) จะได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่อย่างไรก็ดีการจัดเก็บภาษีนี้จะเป็นแรงกดดันให้ Landlord อยากขายที่เพื่อลดค่าใช้จ่ายลง ซึ่งส่งผลให้ Developer สามารถหาซื้อที่ได้ง่ายขึ้น
MEDIA : ยังคงเป็น Sector ที่ Laggard ตลาดอย่างมากหากนับตั้งแต่ต้นปี โดยให้ผลตอบแทนติดลบ 3.4% ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้เนื่องจากเม็ดเงินโฆษณายังคงอ่อนตัวตามการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัว และได้สะท้อนออกมายังผลประกอบการของบริษัทต่างๆช่วงไตรมาส 1/59 ที่หดตัวทั้ง QoQ และ YoY อย่างไรก็ดีมองผลประกอบการไตรมาส 2 จะฟื้นตัวขึ้น QoQ เนื่องจากเป็น High season ดังนั้นมองเป็นกลุ่มที่เข้าข่าย Downside risk ต่ำและมี Earning momentum ในช่วงสั้น มองบริษัทที่ยังคงมี Upside จากราคาเป้าหมาย Consensus ได้แก่ MAJOR, PLANB, WORK, RS, MONO, GRAMMY
Fund flow : เมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิทั้งตลาดหุ้น ตลาดล่วงหน้า และตลาดตราสารหนี้ โดยไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การซื้อสุทธิในตราสารหนี้กว่า 3.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2556 มองปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวหนุน SET Index รวมถึงค่าเงินบาทของไทยในระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน : คาด SET Index ได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันประกอบกับทิศทาง Fund flow ที่แข็งแกร่งต่อเนื่องหลัง Fed มีแนวโน้มชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไป อย่างไรก็ดีมองการปรับตัวขึ้นจะเต็มไปด้วยความผันผวน เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงภายนอกอื่นที่เหลืออยู่ในเดือนนี้ได้แก่ 1) ความเป็นไปได้ที่ MSCI จะนำดัชนีหุ้นจีน A-Shares เข้าสู่ดัชนี MSCI EM และ 2) การลงประชามติของอังกฤษในวันที่ 23 มิถุนายน
สำหรับกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ยังคงเลือกกลุ่มธนาคารพาณิชย์เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีระดับ Valuation น่าสนใจที่สุด ส่วนหุ้นกลุ่มอื่นๆแนะนำโฟกัสการลงทุนในกลุ่ม Laggard เนื่องจาก Valuation ของดัชนีที่อยู่ในระดับสูง ได้แก่ 1) กลุ่มประกันฯ 2) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ 3) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง 4) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และ 5) กลุ่มท่องเที่ยว
แนวรับ 1,430 แนวต้าน 1,452
Today's Event :
CMR เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้จาก 10.00 บาทเป็น 0.10 บาท
XO-W1 เข้าซื้อขายเป็นวันแรก (69mn sh 1:1 @ Bt. 4.00)
นักวิเคราะห์ :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932) E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]
