- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 08 June 2016 17:48
- Hits: 560
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ไปไหนไม่ได้ไกล
คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบวันนี้ แม้ว่าความต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงจะเพิ่มขึ้นหลังจากคำกล่าวของประธาน Fed ทำให้ตลาดลดคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ลง แต่นักลงทุนมีแนวโน้มระมัดระวังก่อนการประกาศตัวเลขส่งออก-นำเข้าของจีนวันนี้ แม้ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นจะช่วยหนุนหุ้นพลังงาน แต่ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ส่วนใหญ่เป็นลบ ความเชื่อมั่นนักลงทุนลดลงในเดือน พ.ค. ภาษีที่ดินอาจทำให้อุปสงค์ อสังหาริมทรัพย์ลดลง และสหภาพยุโรปกดดันไทยเรื่องการประมงอีก
หุ้นเด่นวันนี้ : TASCO (Bt26.75; BUY, AWS TP Bt31.25)
TASCO เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายยางมะตอยรายใหญ่ของเอเชีย เป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลในระดับภูมิภาค แม้ว่าการเติบโตของกำไรปกติคาดว่าจะลดลง 8.7% ในปีนี้ แต่จะเพิ่มเป็น 7.7% ในปี 2560 เราเชื่อว่าการทำกำไรและแนวโน้มธุรกิจของบริษัทยังคงแข็งแกร่ง หลังจาก TASCO สร้างผลประกอบที่ดีเป็นประวัติการณ์ ในช่วงราคาน้ำมันลง และส่วนต่างราคาขายยางมะตอยและราคาน้ำมันดิบกว้างมากในปี 2557-2558 แม้ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวขึ้นกว่า 80% นับตั้งแต่กลางเดือน ม.ค. แต่เราคาดว่าส่วนต่างราคาระหว่างยางมะตอยและน้ำมันดิบจะยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ประมาณ 10-11 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล บริษัทยังมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 17-18% ในปี 2559-2560 ดีกว่าในอดีตที่ผ่านมาอย่างมาก หุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ 2016PE ที่คาดหวังเพียง 9.4x เราประเมินราคาเหมาะสมที่ 31.25 บาท เทียบกับค่าในอดีตที่ PER 11 เท่า มี Upside Gain ประมาณ 17% Price Pattern ของ TASCO ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ พร้อมๆกับ Volume ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้หาก Price Pattern ของ TASCO สามารถปิดตลาดรายสัปดาห์ได้เหนือ 25.50 บาท ก็จะทำให้กลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ และหาก Price Pattern ของ TASCO สามารถปิดตลาดรายเดือนได้เหนือ 25 บาท ก็จะทำให้กลับมาเกิด Monthly Buy Signal ครั้งใหม่ด้วยเช่นกัน เมื่อดูจาก Price Pattern ของ TASCO ที่ได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่แล้ว จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะกลับมาเกิดทั้ง Weekly & Monthly Buy Signal ครั้งใหม่ ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ TASCO ที่ได้กลับมาเกิดความแข็งแกร่งในระยะสั้นแล้วนั้น คาดว่ามีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 27.25 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 30.25 บาท ตามลำดับ โดย TASCO มีจุด Stop Loss ระยะสั้นในรอบนี้อยู่ที่ 24.40 บาท (Resistance: 27.50, 28.25, 29.50; Support: 26.25, 25.50, 24.20)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ครม. ผ่านภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยจะเก็บภาษีเริ่มตั้งแต่ปีหน้าสำหรับอสังหาริมทรัพย์และที่ดินทั่วประเทศตามการใช้งาน รัฐบาลท้องถิ่นสามารถเก็บที่ 0.03%-0.3% สำหรับบ้านหลังที่สอง 0.05%-0.1% สำหรับบ้านหลังแรกที่มีมูลค่ามากกว่า 50 ลบ. 0%-0.1% สำหรับที่ดินเพื่อการเกษตร 0.3%-0.1% สำหรับอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรม 1%-3% สำหรับที่ดินที่ไม่ได้ใช้งาน สมาคมคอนโดมีเนียมไทยเชื่อว่าผลต่อเจ้าของบ้านจะน้อยมาก ด้านลบคือการกดดันอุปสงค์ต่อโครงการคอนโดใหม่เนื่องจากภาษีนี้จะเพิ่มภาระทางการเงินและน่าจะกระทบอุปสงค์ต่อบ้านหลังที่สองและตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวม คอนโดคิดเป็นราวครึ่งหนึ่งของจำนวนที่อยู่อาศัยที่จะออกขายในแต่ละปี ด้านบวกคือบริษัทพัฒนาอสังหาฯ อาจได้ที่ดินซึ่งเจ้าของที่ดินปล่อยออกมาให้พัฒนามากขึ้น (The Nation)
ความเชื่อมั่นนักลงทุน พ.ค. ลดลง เนื่องจากความกังวล Fed ขึ้นดอกเบี้ยและเศรษฐกิจไทยและโลกที่อ่อนแอ สภาตลาดทุนไทยได้รายงานดัชนีความเชื่อมั่นสำหรับสามเดือนหน้าถึง ส.ค. พบว่าลดลง 9.01% เหลือ 93.48 ใน พ.ค. ความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติร่วงสู่ 77.78 จาก 111.11 ใน เม.ย.และความเชื่อมั่นรายย่อยลดสู่ 94.46 จาก 101.19 ขณะที่ของสถาบันเพิ่มขึ้นสู่ 109.38 จากเดิม 100 ทั้งนี้ภาคก่อสร้างเป็นที่น่าสนใจมากที่สุดในขณะภาคธนาคารถูกสนใจน้อยสุด (Bangkok Post)
ครม.อนุมัติร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฉบับปรับปรุง และเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อพิจารณาต่อไป โดยที่ประชุมครม.ได้มีมติเพิ่มทางเลือกระบบบริหารจัดการทรัพยากรปิโตรเลียมให้รัฐบาลสามารถนำระบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต และระบบสัญญาจ้างสำรวจและผลผลิตมาใช้ นอกเหนือจากระบบสัมปทานแบบเดิม (Bangkok Post)
อียูกดดันให้ไทยปรับปรุงการประมง หัวหน้ากลุ่มประมงและผลกระทบต่อสังคม ในจดหมายที่ได้ยื่นถึงรองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ กล่าวถึงการพูดคุยที่จะเกิดขึ้นในเดือน ก.ค. ที่กรุงเทพถึงการต่อสู้กับการประมงและการใช้แรงงานที่ผิดกฎหมายครั้งนี้ นับเป็นโอกาสที่สำคัญของไทยที่จะสร้างมาตราป้องกันที่แข็งแกร่ง ในจดหมายยังกล่าวถึงการยกเว้นหรือเปิดช่องทางเล็ดลอดในประเด็นดังกล่าวในเดือนหน้าและความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมภายในสิ้นปีนี้ซึ่งมีผลต่อการห้ามนำเข้าสินค้าประมงจากไทยที่อาจตามมา (Bangkok Post)
BA (24.50 บ.) สายการบินบางกอกแอร์แวย์ เมื่อเร็วๆ นี้ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานรัฐของประเทศจีนในการเริ่มให้บริการบินระหว่างสมุยและกรุงเทพฯ 4 เที่ยว/สัปดาห์ โดยจะเริ่มบินกลางเดือนหน้าด้วยเครื่องบินแอร์บัส 319 เจ็ทไลเนอร์ บริษัทได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานเอเจนซี่ของจีนเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารของเส้นทางใหม่นี้ในระดับสูง บริษัทยังได้เริ่มเจาะตลาดจีนซึ่งมีขนาดใหญ่อีกครั้งและมีแผนจะเพิ่มเที่ยวบินไปยังฉงชิ่ง 3 เที่ยวต่อสัปดาห์และไปยังกวางโจว 1 เที่ยวต่อสัปดาห์ (Bangkok Post)
ต่างประเทศ
ธนาคารโลกปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจโลกเมื่อวันพุธอยู่ที่ 2.4% จาก 2.9% ที่ได้คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนม.ค. เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ต่ำลง ความต้องการที่ชะลอตัวในประเทศที่มีเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว ยอดการค้าที่ลดลง และการไหลของเงินทุนที่อ่อนกำลังลง ธนาคารโลกปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของ GDP สหรัฐปี 2559 อยู่ที่ 1.9% จาก 2.7% ส่วนคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยุโรปปี 2559 ถูกปรับลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 1.6% ในบรรดาประเทศต่าง ๆ ในตลาดเกิดใหม่ ธนาคารโลกยังคงประมาณการการขยายตัวเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 6.7% หลังจากในปี 2558 ที่ขยายตัว 6.9% อีกทั้งมีการคาดว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของอินเดียจะยังคงเสถียรอยู่ที่ 7.6% (Reuters)
ประเด็นที่จับตาในวันนี้เกี่ยวกับข้อมูลการค้าของจีน ซึ่งจะแสดงถึงความแข็งแกร่งของจีนซึ่งมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
ราคาพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันอังคาร จากความเห็นของนางเยลเลน ประธานเฟดเมื่อวันจันทร์ได้ผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ในขณะที่เน้นความเห็นว่าเฟดไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย ราคาพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้น 3/32 ผลตอบแทนอยู่ที่ 1.713% ลดลงจาก 1.723% เมื่อวันจันทร์ (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อวันอังคาร หลังจากนางเยลเลน ประธานเฟดไม่ได้ระบุช่วงเวลาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลง 0.1% อยู่ที่ 93.811 จุด อยู่เหนือระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ที่ 93.745 จุดเมื่อวันจันทร์ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันจันทร์ โดยดัชนี S&P500 ปิดเพิ่มขึ้นสูงสุดนับแต่เดือนก.ค. ปีก่อน โดยได้แรงหนุนจากราคาหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นมากและความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะไม่ทำให้เศรษฐกิจชะงักงัน (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันอังคารปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ หลังจากที่ Janet Yellen ประธาน Fed ให้ความเห็นถึงการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยแต่ในขณะเดียวหันก็ให้มุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในเชิงบวก (Reuters)
เอเชีย :
ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนในเดือนพฤษภาคม ลดลงสู่ 3.19 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่ำสุดตั้งแต่ ธันวาคม 2554 ตามข้อมูลของธนาคารกลางจีนในวันอังคารที่ผ่านมา น่าจะเกิดจากผลกระทบของเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่ง และการแทรกแซงอย่างเป็นทางการเป็นระยะ ๆ นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ว่าทุนสำรองเงินตราต่างประเทศณ สิ้น เดือนพฤษภาคม จะลดลงเป็น 3.20 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปริมาณสำรองที่ลดลงในเดือนพฤษภาคม เท่ากับ 27.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการลดลงรายเดือนที่มากที่สุดนับจากเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งที่ผ่านมามีเพิ่มขึ้น 7.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในเดือนเมษายนและ 10.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯในเดือนมีนาคม (Reuters)
จีนกล่าวว่าจะ ให้โควต้าการลงทุนซื้อหุ้น พันธบัตร และสินทรัพย์อื่น ๆ ของจีนเป็นครั้งแรก เป็นเงิน 250 พันล้านหยวน (ราว 38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.3 ล้านล้านบาท) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการเงินและการพึ่งพาระหว่างสองประเทศที่ใหญ่ที่สุดของโลก (สหรัฐฯ) ซึ่งมีประกาศนี้ในการสนทนายุทธศาสตร์และเศรษฐกิจในระดับทวิภาคีในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันอังคารนี้ (Reuters)
เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัว 1.9% YoY ในงวด 1Q59 ปรับปรุงจากตัวเลขเบื้องต้นก่อนหน้าซึ่งเป็นการขยายตัวอยู่ที่ 1.7% ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 1.9% (สำรวจโดย Reuters) (Reuters)
ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดญี่ปุ่นเดือน เม.ย. อยู่ที่ 1.88 ล้านล้านเยน (1.75 หมื่นล้านดอลลาร์) โดยมูลค่าการนำเข้าอยู่ในระดับต่ำจากผลบวกของราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ ขณะที่รายรับจากการลงทุนในต่างประเทศยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้แม้ว่ายอดเกินดุลดังกล่าวจะน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 2.32 ล้านล้านเยน แต่นับเป็นการเกินดุลต่อเนื่องกันเป็นเดือนที่ 22 และต่อเนื่องจากยอดเกินดุลในเดือน มี.ค. ที่ 2.98 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2550 (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันในวันอังคารปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1% แตะจุดสูงสุดของปี 59 น้ำมันดิบสหรัฐปิดเหนือ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบเกือบปี ด้วยความคาดหวังว่าสต็อกน้ำมันจะถูกถอนออกไปและความกังวลเรื่องการโจมตีอุตสาหกรรมน้ำมันไนจีเรียกระทบอุปทานน้ำมัน ราคาน้ำมันสหรัฐล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 67 เซนต์ (+1.4%) ปิดที่ 50.36 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ (+1.8%) ปิดที่ 51.44 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองคำปรับลดลงวันอังคาร เพราะนักลงทุนกลับระมัดระวังหลังทองยังไปต่อไม่ได้ ราคาทองคำตลาดจรลดลง 0.1% ไปที่ 1,243.43 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองคำล่วงหน้าส่งมอบ ส.ค. ปิดลง 40 เซนต์อยู่ที่ 1,247 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทองคำตลาดจรแตะจุดสูงสุดเมื่อจันทร์ที่ 24 พ.ค. ที่ 1,248.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331