- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 07 June 2016 18:26
- Hits: 3341
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'ซื้อ/ถือเมื่อบวก,Switch&ขายเมื่อถึงเป้าหมาย'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : SRICHA (จากขายเป็น Fully Valued)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยปิด +6.99 จุดที่ 1443.42 หนุนโดยกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมกลางเดือนมิ.ย.นี้หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.เพิ่มน้อยกว่าคาดอย่างมาก ทำให้เม็ดเงินลงทุนยังอยู่ในตลาดหุ้นเอเชียต่อนักลงทุนต่างชาติ สถาบันในประเทศ และพอร์ตบล.ซื้อสุทธิ ส่วนรายย่อยขายสุทธิประธานเฟดกล่าวสุนทรพจน์ว่าภาคแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐยังขยายตัวต่อ แม้ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.จะออกมาน้อยกว่าคาด และหนุนให้สหรัฐปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม ตลาดประเมินว่าเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 14-15มิ.ย.นี้ สำหรับ DBS Group Research คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยใน 2 ครั้งสุดท้ายของการประชุมปีนี้ โดยเพิ่มครั้งละ 25bps
สำหรับการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์นั้นน้อยลงหลังดัชนีฯร่วงแรงในวันศุกร์ที่ผ่านมา จาก 95.54 เป็น 94.039 ส่วนเช้าวันนี้อ่อนต่อเล็กน้อยเป็น 93.95 (เริ่มอยู่ตัว) ด้านราคาน้ำมันดิบรีบาวด์เนื่องจากไนจีเรียผลิตน้ำมันได้น้อยลง 1.7 แสนบาร์เรล/วันหลังถูกโจมตีท่อส่งน้ำมัน เรามองว่าราคาน้ำมันดิบจะแกว่งตัวระดับ 50 (+/-5) ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงนี้ ซึ่งเป็นบวกต่อผลประกอบการ 2Q59 ของกลุ่มพลังงานเพราะสูงกว่าระดับปิดในสิ้น 1Q59 ราว25% (BRENT ปิดสิ้น 1Q59 ที่ 40.33 ดอลลาร์/บาร์เรล) หุ้นเด่นเป็น PTTGC, PTT ส่วนกลุ่มที่อิงอุปสงค์ในประเทศ อยู่ในภาวะฟื้นตัวช้าๆ ขณะที่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราภาษีที่ดินเปล่าและบ้านหลังที่สองซึ่งกระทบการลงทุน/เก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ (โดยเรื่องจะเข้าพิจารณาในครม.วันนี้) หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น IVL
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวก แนวต้านระยะสั้น 1450, 1460-1470 จุด แนวตัดขาดทุน คือ ค่าลบ หรือต่ำกว่า 1420 จุด กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวกและไม่ควรหวัง Gap มาก และควรพิจารณา Take Profit หุ้นที่ราคาถึงเป้าหมายแล้วการ SCAN หุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคดีและมีโอกาสปรับขึ้น พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ ANAN, BJC, BWG, RML ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือRATCH, CENTEL, KAMART, SYNEX, EASTW หุ้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ BEM, WORK, QH, SENA, LH, VGI หุ้นที่หลุด List –ไม่มี-
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : ประธานเฟดมองเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวต่อ และจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปประธานเฟดได้การกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุม "World Affairs Council of Philadelphia" เมื่อคืนนี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง แม้ตัวเลขการจ้างงานเดือนพ.ค.ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ก็ตาม โดยมีน้ำหนักบวกมากกว่าลบที่หนุนการขยายตัวของการจ้างงานและการปรับตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ ทำให้เศรษฐกิจยังคงขยายตัวต่อไปโดยตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้น และจีดีพีมีขยายตัวได้ในระดับปานกลาง และยังกล่าวว่าเฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ไม่ได้มีการระบุถึงกำหนดเวลาที่เฉพาะเจาะจงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
+ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดพุ่งขึ้น...รับมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐของประธานเฟดนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ กล่าวสุนทรพจน์ครั้งล่าสุดว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง แม้ตัวเลขการจ้างงานเดือนพ.ค.ของสหรัฐออกมาต่ำกว่าการคาดการณ์ก็ตาม และตลาดยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นกว่า 2% ด้วย ปิดตลาดดัชนี DJIA +113.27 จุด หรือ +0.64% ดัชนี NASDAQ +26.19 จุด หรือ +0.53% ดัชนีS&P500 +10.28 จุด หรือ +0.49%
+ ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น…มีการโจมตีท่อส่งน้ำมันไนจีเรียสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 49.69 ดอลลาร์/บาร์เรล และ BRENT ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 50.55 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะการผลิตน้ำมันในประเทศไนจีเรียลดลงราว 170,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากเกิดเหตุการณ์โจมตีท่อน้ำมันในประเทศ รวมทั้งท่อส่งน้ำมันของบริษัทเอ็กซอน โมบิลได้รับความเสียหายที่โรงกลั่นใกล้เมืองลอสแองเจลิสช่วยหนุนด้วย
+ ตลาดทองคำดีขึ้นต่อ หนุนโดยดอลลาร์อ่อนสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 4.50 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ระดับ1,247.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยหนุนคือ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลงอย่างรวดเร็วในวันศุกร์ที่ 3 มิ.ย.และอ่อนลงอีกเล็กน้อยถึงเช้าวันนี้
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
•/- วันนี้ครม.พิจารณาภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างวันนี้คณะรัฐมนตรีจะพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยในเบื้องต้นมีข่าวว่าจะยกเว้นภาษีให้กับบ้านหลังแรกที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท (ซึ่งในวงการประเมินว่าบ้านหลังแรกที่ราคาเกิน 50 ล้านบาทมีไม่ถึง 5% ของตลาดที่อยู่อาศัยทั้งหมด) จัดเก็บภาษีบ้านหลังที่สองในอัตรา 0.5% (มีประมาณ 10% ในระบบ) รวมทั้งจะจัดเก็บภาษีที่ดินเพื่อเกษตรกรรมอัตรา 0.2% ที่ดินเพื่อการพาณิชย์ 2% ที่ดินว่างเปล่า 5%
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : เราประเมินว่า การปรับอัตราภาษีดังกล่าวนี้จะทำให้ตลาดบ้านหลังที่สองชะลอตัวลง และจะทำให้อัตราค่าเช่าที่พักอาศัยเพิ่มขึ้นในระยะยาว กลุ่มที่จะได้รับผลกระทบมาก คือ ผู้รับมรดกเป็นที่ดินว่างเปล่าที่ต้องหาเงินสดมาจ่ายภาษีทุกปีขณะที่ที่ดินยังไม่ก่อให้เกิดรายได้ อีกส่วนที่จับตา คือ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างส่วนกลางในโครงการที่พักอาศัยต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรได้เสนอไปยังกระทรวงการคลังว่าไม่ควรจัดเก็บภาษี
• ผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ในดัชนี FTSE SET Index Series สำหรับรอบครึ่งหลังของปี 2559ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell) ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนี FTSE และดัชนี Russell ประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index Series ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20มิถุนายน 2559 เป็นต้นไป สรุปได้ดังนี้
* ดัชนี FTSE SET Large Cap Index ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อ
* ดัชนี FTSE SET Mid Cap Index มี 5 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ คือ BEAUTY, IMPACT, PLAT, SPRC, TKN
* ดัชนี FTSE SET Shariah Index มี 15 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ คือ AJD, ANAN, AQUA, FORTH, JWD, KCE,LPH, PDI, PREB, PS, RANCH, SPRC, TPBI, UMI, VNG
• กลุ่มอาหารส่งออก : พบเชื้อไข้หวัดนกที่ฮ่องกง...แต่คาดว่าจะควบคุมได้ในระยะเวลาอันสั้นเจ้าหน้าที่ฮ่องกงจะทำการฆ่ากำจัดสัตว์ปีก และห้ามการจำหน่ายสัตว์ปีก หลังมีการตรวจพบเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์H7N9 ในตัวอย่างที่นำมาจากตลาดสดแห่งหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว โดยจะมีการกำจัดสัตว์ปีก 4,500 ตัวที่ตลาดค้าส่งเฉิง ชาวาน เพื่อให้มีการฆ่าเชื้ออย่างเต็มรูปแบบ และคำสั่งห้ามขายสัตว์ปีกทั่วฮ่องกงจะถูกยกเลิก หากไม่พบการแพร่เชื้อของไวรัสดังกล่าวอีก
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : เราคาดว่าทางการฮ่องกงจะสามารถควบคุมเชื้อไข้หวัดนกได้ในระยะเวลาอันสั้น และการนำเข้าไก่จากไทยยังเป็นไปในระดับใกล้เคียงปกติ ซึ่งประเมินว่าฮ่องกงมีการนำเข้าไก่จากไทยมากขึ้นหลังจากเกิดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกระบาดในประเทศจีน
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]