WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : แนวต้าน เป้าหมาย 1,535-1,540
Technical : แนวรับ 1,523 /1,507 แนวต้าน 1,540 / 1,551
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTTEP แนวรับ 167 / 163 แนวต้าน 170 / 175
หุ้นเด่นรายวัน : GFPT TPOLY

  วันศุกร์ตลาดหุ้นไทยปิดลดลงเล็กน้อย โดยดัชนี SET INDEX ปิดที่ 1,533.41 จุด ลดลง 2.25 จุด (-0.15%) มูลค่าการซื้อขาย 64,967.28 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 796.94ล้านบาท
  แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,500-1,551 แรงขายเกิดขึ้นตามปัจจัยลบเข้ามากระทบรายกลุ่มหลักทรัพย์ (เกิดขึ้นชั่วคราวระยะสั้นๆ) แต่ตลาดหรือนักลงทุนปรับเปลี่ยนการลงทุนด้วยการเปลี่ยนกลุ่มเข้าซื้อทดแทน โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน และยังคงสัญญาณบวกเรื่องต่างชาติซื้อสุทธิ ซึ่งเป็นหุ้นมาร์เก็ตแคบส่งผลให้ทิศทางตลาดยังคงขาขึ้น ในขณะที่ SET50 ทดสอบไม่ผ่านแนวต้าน 1,033-1.035 ปิดตัวด้วยแท่งเทียนโดจิ อาจมีการปรับตัวระยะสั้นแนวรับ 1,028 / 1.023 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,820-20,130 GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 19,870-20,180
  กลยุทธ์ ระดับดัชนีหรือSETผันผวน การปรับตัวลงเป็นการปรับเพื่อขึ้นต่อ เนื่องจากการคาดการณ์ครึ่งปีหลังที่ดีขึ้นซึ่งดีต่อกลุ่มนักลงทุนระยะกลางที่ถือครองหุ้น ระยะสั้นแรงขายPanic / Sell on Fact กลุ่มสื่อสาร คาดจะเกิดขึ้นแต่ไม่มาก การปรับตัวลงแรงส่งผลให้ Div. Yieldของกลุ่มและหุ้นรายหลักทรัพย์สื่อสารเพิ่มสูงขึ้น แนะนำทยอยซื้อเข้า หรือปรับลงแรงเข้าซื้อถือระยะกลางเพื่อหวังเงินปันผลตอบแทน ADVANC DTAC INTUCH กลุ่มพลังงานได้รับปัจจัยบวกเรื่องราคาน้ำมัน PTTEP PTT GUNKUL SPCG กลุ่มขนส่ง AOT RCL BECLกลุ่มธนาคารผันผวนลง ซื้อเมื่อปรับลงแรง ระยะกลาง ถือ และซื้อเพิ่มเมื่อปรับตัวลงแรง

หุ้นแนะนำพิเศษ
  PTTEP (ปิด 165 ซื้อเป้าปี 57: 185 บาท) คาดกำไรสุทธิ 2Q57 ที่ 1.4 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 13%qoq และ 31%yoy โดยมีปัจจัยบวกจาก 1) ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นจากรับรู้ปริมาณขายจากการซื้อสินทรัพย์ของ Hess Thailand เข้ามาเป็นไตรมาสแรก 2)ราคาขายเพิ่มขึ้นตามทิศทางของราคาน้ำมันดิบดูไบที่เพิ่มขึ้นประมาณ 1.6% ส่วนทั้งปีเรายังคงประมาณการณ์ตามเดิมโดยคาดกำไรสุทธิปีนี้ที่ 66,484 ล้านบาทเพิ่มขึ้น18%yoy

หุ้นเด่นรายวัน
  GFPT (14.20 ซื้อเก็งกำไร) เก็งกำไรผลประกอบการโดยคาดผลประกอบการใน 2Q57 จะปรับตัวดีขึ้นทั้ง QoQ และ YoY โดยมีแรงหนุนจากยอดขายที่สูงขึ้น ขณะที่ 3Q57 คาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเพราะเข้าสู่ช่วง High Season
  TPOLY (ปิด 3.38 ซื้อเก็งกำไร) ผลประกอบเริ่มฟื้นตัว มีข่าวพันธมิตรต่างชาติ และไตรมาส 3/57 นำบริษัทลูกเข้าตลาดฯ เก็งกำไรข่าวกลุ่มทุนจากต่างประเทศขอเจรจาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อเตรียมตัวรับงานใหญ่จากภาครัฐ นอกจากนี้ผู้บริหารยังคาดว่ากำไรสุทธิของบริษัทจะทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่ไตรมาส 3/57 จะนำบริษัทลูก TPCH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งจะเพิ่ม Sentiment เชิงบวกต่อการลงทุนใน TPOLY

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* AJD / TFI / TH / TRUE / UV           มีผลบังคับใช้ 16 มิ.ย. - 25 ก.ค. 57
* IFEC / PF / SLC                มีผลบังคับใช้ 23 มิ.ย. - 1 ส.ค.57
* EFORL / TSF                 มีผลบังคับใช้ 30 มิ.ย. - 8 ส.ค.57
* BTC/ KC/ MAX/ NUSA/ TFD/ VIH / VTE      มีผลบังคับใช้ 7 ก.ค. - 15 ส.ค. 57
* ABC / ACAP/ AQ / BKD/ EMC/ WIIK       มีผลบังคับใช้ 14 ก.ค. - 22 ส.ค. 57
* AIRA / MPG / PAE               มีผลบังคับใช้ 21 ก.ค. - 29 ส.ค.57

***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ :เพิ่มขึ้น 123.37 จุด
  ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดเมื่อวันศุกร์เพิ่มขึ้น 123.37 จุด เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ตกในยูเครน และเหตุการณ์สู้รบในฉนวนกาซา ทำให้หุ้นสายการบินที่ปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้ากลับมาฟื้นตัว นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นกูเกิลหลังมีรายงานว่าจำนวนคลิกเพื่อดูโฆษณาบนยูทูบและกูเกิลเสิร์จปรับตัวเพิ่มขึ้น 33% ในไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะเดียวกันกูเกิลยังประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่บนโทรศัพท์มือถือ วีดิโอ และเว็บ เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานในด้านการตลาดให้มากขึ้นส่งผลให้หุ้นกูเกิล อิงค์ เพิ่มขึ้น 4.2% ขณะที่ภาพรวมหลังปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 123.37 จุด หรือ +0.73% ปิดที่ 17,100.18 จุด ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 68.70 จุด หรือ +1.57% ปิดที่ 4,432.15 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 20.10 จุด หรือ +1.03%ปิดที่ 1,978.22 จุด

ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 6 เซนต์
  ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 6 เซนต์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากที่คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ถูกยิงตกในยูเครน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนก.ค.ที่ลดลงสู่ระดับ 81.3 จาก 82.5 ในเดือนมิ.ย.และยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 83.0 ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 103.13 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 65 เซนต์ ปิดที่ 107.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

Analyst – ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!