- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 June 2016 16:41
- Hits: 524
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
รอตัวเลขจ้างงานสหรัฐวันนี้
คาด SET น่าจะซื้อขายในกรอบแคบเพราะนักลงทุนรอตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่จะออกมาในวันนี้ซึ่งจะชี้วัดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินครั้งที่จะถึงกลางเดือน มิ.ย. นี้หรือไม่ ด้านการประชุมโอเปคประสบความล้มเหลวไม่สามารถกำหนดเพดานการผลิตได้ กดดันราคาน้ำมันและราคาหุ้นพลังงานด้วยเช่นกัน แต่ความกดดันน่าจะจำกัดเนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐได้ลดลง ปัจจัยในประเทศมีทั้งบวกและลบ ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจลดลงเป็นเดือนที่สองเพราะเป็นหน้าโลว์ซีซั่นของท่องเที่ยวแต่มีตัวเลขเชิงบวกของการตั้งเครื่องจักรสายการผลิตใหม่และเม็ดเงินลงทุน 5 พัน ลบ. เพื่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุน
หุ้นเด่นวันนี้ : SAMART (ราคาปิด 17.20 บาท; NR; Bloomberg 17.68 บาท)
เราเลือก บมจ.สามารถคอร์ปเรชั่นเป็นหุ้นเด่นวันนี้เนื่องจากเป็นเครือธุรกิจไอซีทีครบวงจร ซึ่งแนวโน้มดีขึ้นในปีนี้จากธุรกิจไอซีทีน่าจะได้รับประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลที่จะเร่งเบิกจ่ายและผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล และการพัฒนาจากระบบดั้งเดิมเป็นดิจิทัล กลุ่มสามารถยังมีความสัมพันธ์อันดีอย่างยาวนานกับหน่วยงานรัฐซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการได้งาน บริษัทลูกของสามารถน่าจะได้ประโยชน์ต่างๆ SAMTEL บริษัทลูกที่เป็นผู้นำรับเหมางานวางระบบไอซีทีและโทรคมนาคมมีแนวโน้มได้งานส่วนหนึ่งในโครงการวางระบบเครือข่ายด้านอินเทอร์เน็ตทั่วประเทศมูลค่า 2 หมื่น ลบ. ล่าสุดได้เซ็นสัญญา 2 โครงการใหญ่คือโครงการระบบคลาวด์ของสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรมมูลค่า 170 ลบ. และอีกโครงการกับกองทัพไทยเพื่อวางระบบมูลค่า 124.5 ลบ. บริษัทลูกอีกบริษัทคือ SIM น่าจะได้รับประโยชน์จากโอกาสขายเครื่องมือถือ 4จีด้วย สามารถวิศวกรรมก็มีโอกาสขายตู้สถานีฐานให้แก่ค่ายมือถือและผู้รับเหมา แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิค เซอร์วิส (CATS) ได้สัมปทานยาวนานถึง 32 ปีเพื่อทำธุรกิจควบคุมการจราจรทางอากาศและความปลอดภัยในประเทศกัมพูชานับแต่ปี 2544 Teda ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ถือทางอ้อมก็มีธุรกิจกับการไฟฟ้านครหลวงและยังมีโอกาสได้งานจากนโยบายนำสายไฟลงดินด้วย
SAMART ยังมีโอกาสที่หนุนกำไรด้วยการเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานขยะด้วยกำลัง 6-8 เมกะวัตต์ต่อโรงในประเทศไทย โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในประเทศลาว ตลอดจนโรงไฟฟ้าถ่านหิน 2 พันเมกะวัตต์ในกัมพูชา ตามคาดการณ์เฉลี่ยบลูมเบิร์กกำไรสุทธิน่าจะกลับมาโตได้ถึง 33% ได้ในปี 59 และ 13% ในปี 60 ทั้งนี้คาดการณ์เฉลี่ยของ Bloomberg อาจจะยังไม่รวมผลจากโครงการที่ SAMTEL พึ่งเซ็นสัญญาไป Price Pattern ของ SAMART กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่แล้วทำให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นในระยะสั้น และหากปิดตลาดรายสัปดาห์นี้ได้เหนือ 16.50 บาท ก็จะทำให้กลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ เพิ่มความแข็งแกร่งในระยะกลางเข้ามาอีก และหากสามารถปิดตลาดรายเดือน (มิถุนายน 2559) ได้เหนือ 16.80 บาท ก็จะกลับมาเกิด Monthly Buy Signal ครั้งใหม่ เปลี่ยนแนวโน้มหลักจากแนวโน้มขาลงไปสู่ขาขึ้นทันที ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ SAMART ในการฟื้นตัวขึ้นรอบนี้มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 21.50 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 25.75 บาท โดย SAMART มีจุด Stop Loss ระยะสั้นรอบนี้อยู่ที่ 15.80 บาท (แนวต้าน: 17.40, 17.60, 18.00; แนวรับ: 17.10, 16.90, 16.50)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงเป็นเดือนที่สอง จากรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทยกล่าวว่าดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจได้ปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกันมาอยู่ที่ 49.7 ในเดือน พ.ค. ลดลงจาก 49.8 ในเดือน มี.ค. ตัวเลขในเดือน พ.ค. เป็นผลรวมกันของความเชื่อมั่นในภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากออเดอร์ใหม่ของรถยนต์ภายในประเทศ, กระดาษ, และอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ขณะที่ธุรกิจโรงแรมและอาหารมีความเชื่อมั่นลดลงเนื่องจากเข้าสู่โลว์ซีซั่นของภาคการท่องเที่ยว (Bangkok Post)
เครื่องจักรใหม่เพิ่มขึ้น 8% จากตัวเลขจดทะเบียนเครื่องจักรสำหรับการผลิตใหม่ในช่วง 5M59 มีผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นเป็น 508 รายซึ่งมีเครื่องจักรจดทะเบียน 3,353 เครื่องมูลล่า 3.4 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้น 8% YoY จากผู้ประกอบการ 470 รายและเครื่องจักร 2,085 เครื่องในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน รายงานวานนี้โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรม 5 อย่างที่มีเครื่องจักรจดทะเบียนใหม่มากสุดได้แก่ ผลิตภัณฑ์โลหะ, พลาสติก, สิ่งพิมพ์, ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่โลหะและเครื่องจักรในธุรกิจที่เกี่ยวกับการขัด การบดและการสี (Bangkok Post)
ลงทุน 5 พันลบ.ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ รัฐบาลมีแผนลงทุนมูลค่า 5 พันลบ.สำหรับสร้างอาคารในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จังหวะสระแก้วเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจขยายธุรกิจไปยังกัมพูชา กล่าวโดย นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม ปัจจุบัน โครงการยังอยู่ในขั้นตอนศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และคาดว่าจะรู้ผลในเดือน ก.ค. รมว. กระทรวงคมนาคมมีแผนเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีและจะเริ่มก่อสร้างในเดือน ต.ค. (Bangkok Post)
ต่างประเทศ
การประชุมของ ECB และการประชุม OPEC เกิดขึ้นก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ ซึ่งอาจทำลายความคาดหวังว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนนี้หรือไม่ ตลาดหุ้นสหรัฐดีดกลับจากการเทขายในช่วงเช้าและปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน ส่วนตลาดพันธบัตรปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนรอดูข้อมูลการจ้างงานในสหรัฐเพื่อหาเบาะแสเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งถัดไป (Reuters, Bloomberg)
การประชุมกลุ่มโอเปก เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.59 ณ กรุงเวียนนา กลุ่มโอเปกล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงสำหรับเพดานใหม่สำหรับการส่งออกน้ำมัน เป็นการสื่อว่าสมาชิก OPEC คงจะสูบน้ำให้มากที่สุดเท่าที่พวกเขาต้องการ ความล้มเหลวในการประชุมทำให้ราคาน้ำมันลดลง แต่ขณะเดียวกัน เมื่อ EIA รายงานปริมาณสำรองปิโตรเลียมของสหรัฐฯ ลดลดง 1.4 ล้านบาร์เรล เป็นการลดติดต่อกัน 12 สัปดาห์ ราคาน้ำมันในช่วงท้ายก็ปรับตัวขึ้น WTI ขึ้นมาเกือบ 50 เหรียญฯ ขณะที่ Brent ขึ้นมาอยู่ที่ 50.04 เหรียญฯ (Reuters, Bloomberg)
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปิดเพิ่มขึ้น 0.1% อยู่ที่ระดับ 95.555 จุด ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเทียบกับเงินยูโรหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้เช่นเดิม เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.3% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 1.115 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงอยู่ที่ 108.5 เยนในช่วงแรกของการซื้อขายซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่วันที่ 16 พ.ค. โดยลดลง 2.5% จากระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ 111.45 เยนเมื่อวันจันทร์ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเล็กน้อยเมื่อวันพฤหัส หลังจากข้อมูลใหม่ ๆ ให้มุมมองเศรษฐกิจที่สดใสและหุ้นในกลุ่มสุขภาพปรับตัวขึ้น ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง (Reuters)
นักลงทุนในวันนี้รอข้อมูลการจ้างงานที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์นี้ เพื่อสรุปว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดระหว่างการประชุมในวันที่ 14-15 มิ.ย. นี้หรือไม่ (Reuters)
จำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงกว่าที่คาด บริษัทเอกชนในสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. และจำนวนผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานเป็นครั้งแรกลดลงในสัปดาห์ก่อนซึ่งกระตุ้นแนวโน้มเศรษฐกิจในไตรมาส 2/59 โดยจำนวนผู้ที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานฯ อยู่ที่ระดับ 267,000 รายน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 270,000 ราย นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกฉบับหนึ่งเกี่ยวกับจำนวนพนักงานที่บริษัทมีแผนจะเลิกจ้างลดลง 53% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน (Reuters)
ยุโรป :
ECB คงอัตราดอกเบี้ย และคงดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่ประกาศไว้ วานนี้ที่การประชุม ECB ในกรุงเวียนนา ECB ได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยการรีไฟแนนซ์ไว้ที่ศูนย์ อัตราดอกเบี้ยในการให้กู้ยืมมาร์จิ้น และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไว้ที่ร้อยละ 0.25 และลบ 0.40 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ และประกาศจะมีการซื้อสินทรัพย์สกุลยูโร 8 หมื่นล้านยูโร หรือ 8.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ECB จะเริ่มซื้อ Corporate Bonds ตั้งแต่ 8 มิถุนายน ตามคำสั่งของประธาน ECB มาริโอ ดรากี ส่วนที่มีความกังวล Brexit กันนั้น ดรากีได้ให้ความเห็นว่า สหราชอาณาจักรจะได้รับประโยชน์จากคงเป็นสมาชิกกลุ่มสหภาพยุโรป(Reuters, Bloomberg)
เอเชีย :
ตัวเลขค่าจ้างแท้จริงของญี่ปุ่นเติบโตข้าลงในเดือน เม.ษ. อัตราค่าจ้างแท้จริงหลังปรับปรุงเงินเฟ้อในเดือน เม.ษ. เพิ่มขึ้น 0.6% YoY เพิ่มขึ้นลดลงกว่าตัวเลขในเดือน มี.ค. ที่เพิ่มขึ้น 1.6 YoY ตัวเลขดังกล่าวเป็นสัญญาณเตือนต่อแรงกดดันก่อการจับจ่ายใช้สอยที่อาจเติบโตชลอตัวลง (Reuters)
อัตราดอกเบี้ยติดลบผลักดันนักลงทุนญี่ปุ่นซื้อพันธบัตรและหุ้นกู้ของสหรัฐมากขึ้น เงินลงทุนจากญี่ปุ่นไหลเข้าหุ้นกู้สหรัฐมากสุดในรอบหลายปีในเดือน มี.ค. หลังนโยบายของญี่ปุ่นพยายามที่จะอัดฉีดเงินเพื่อให้เศรษฐกิจหลุดพ้นจากภาวะซบเซา จากข้อมูลพันธบัตรของสหรัฐ นักลงทุนญี่ปุ่นในเดือน มี.ค.ได้ซื้อพันธบัตรซึ่งออกโดยหน่วยงานที่รัฐบาลสหรัฐสนับสนุนเพิ่มขึ้น 1.17 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีมูลค่าใหญ่เป็นอันดับสามของสหรัฐ ในขณะที่ ตัวเลขธุรกรรมการซื้อหุ้นกู้ของนักลงทุนสหรัฐและนักลงทุนต่างชาติ พบว่านักลงทุนญี่ปุ่นได้เข้าซื้อหุ้นกู้สุทธิ 3.13 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือน มี.ค. สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2555 (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาทองทรงตัวในวันพฤหัส เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ออกมากล่าวว่าได้ปรับเพิ่มส่วนต่างของเงินเฟ้อในประมาณการอัตราเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงระมัดระวังต่อตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ ราคาทองในตลาดจรลดลง 0.2% มาอยู่ที่ 1,210.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันพฤหัส ราคาน้ำมันเบรนท์ปิดเหนือ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือนหลังล่าสุดตัวเลขน้ำดิบสหรัฐในสต็อกลดลงกลบข่าวลบจากการที่โอเปคล้มเหลวในการกำหนดเพดานการผลิตน้ำมัน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 50.04 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 49.17 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331