- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 02 June 2016 17:12
- Hits: 601
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ วานนี้ปรับฐานแล้ว
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ แกว่งแคบ (วานนี้ลง ตามคาด) ภาพใหญ่ของตัวเลขเศรษฐกิจโลกเดือน พ.ค. ไม่ชัดเจน หลัง PMI/ISM ภาคการผลิต ของจีนและสหรัฐฯ ดีกว่าคาดแต่ PMI ของยูโรโซนต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ดีภาวะในสหรัฐฯ ยังเด่นกว่าแถบอื่นๆ หลังรายงาน Fed Beige Book เมื่อคืนชี้ว่าเศรษฐกิจเติบโตเกือบทุกภูมิภาค ด้านราคาน้ำมันฟื้นตัวเล็กน้อยตามกระแสข่าวว่าโอเปกอาจมีการกำหนดเพดานการผลิตน้ำมันในการประชุมวันนี้ ภาพรวมดัชนีฯ จะแกว่งรอปัจจัยต่างประเทศเพิ่มเติม เช่นผลประชุม ธ.กลางยุโรปค่ำวันนี้ (นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาดไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน) และตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯ ค่ำวันที่ 3 มิ.ย. ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ค. ที่จะออกช่วงสายวันนี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร GLOBAL, IFEC
GLOBAL (เป้าพื้นฐาน 13.5 บาท) 1) ราคาหุ้นพักตัวที่แนวรับเทรนไลน์ขาขึ้นที่ 11.6 บาทแล้วฟื้นตัว ประเมินยังเป็นการแกว่งตัวในกรอบขาขึ้น 11.6 – 13.0 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน (Stop loss 11.6 บาท) 2) เราประเมินการฟื้นตัวของราคาสินค้าเกษตร + ปัญหาภัยแล้งคลี่คลาย (ปรากฏการณ์ El Nino จบแล้ว) จะทำให้ Sentiment ของการบริโภคในประเทศโดยเฉพาะในต่างจังหวัดดีขึ้น
IFEC (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) 1) ยืนเหนือแนวรับ 6.70 บาทได้ เราประเมินเป็นการยืนยันสัญญาณการฟื้นตัวของราคา ประเมินมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 7.80 บาท โดยมีแนวต้านแรกที่ 7.0 บาท 2) ในมุม Valuation ประเมิน Downside จำกัด โดยมูลค่า Replacement cost สินทรัพย์ในมือ = 6.1 บาท (COD แล้ว 2.1 บาท, อยู่ระหว่างสร้าง 1.0 บาท, รร ดาราเทวี 2 บาท, เงินสดในมือ 1 บาท) ไม่รวมมูลค่าโครงการที่เตรียมซื้อและประมูล FiT อีกราว 700MW (ในต่างประเทศทั้งพลังงานลมและโซลาร์ฟาร์มรวม 522.96MW และประมูล FiT ในไทยซึ่งได้ LOI แล้วอีก 180MW ซึ่งเราใส่ค่าความน่าจะเป็นของโครงการที่ยังมีความเสี่ยงเข้าไป เพื่อสมมติฐานที่อนุรักษ์นิยม ในการประเมินราคาเป้าหมายของเรา) โดยประมาณการฯของเรายังไม่รวมโซลาร์ฟาร์มประเทศญี่ปุ่นในประมาณการฯ ... ขณะนี้หุ้น IFEC เปรียบเหมือน Call option รอ Upside จากการซื้อกิจการเร็วๆนี้ ขณะที่ Downside จำกัด
หุ้นในกระแส
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (SCB*, KTB*, BBL*, KBANK*) เราประเมินจะเป็นเป้าหมายในการเข้าสะสมของนักลงทุนสถาบัน จาก Valuation ที่ถูกด้วย PBV เฉลี่ย 1 เท่า ขณะที่ GDP ไทยเริ่มฟื้นตัว และวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงใกล้จบ โดยนักลงทุนที่เข้าซื้อเก็งกำไร SCB* ตามที่เราแนะนำก่อนหน้า สำหรับนักเก็งกำไรสั้น อาจพิจารณา “เปลี่ยนตัวเล่น” ไปที่หุ้นในกลุ่มฯที่ยังขึนน้อยกว่าอย่าง BBL* และ KTB* แต่สำหรับนักลงทุนระยะกลาง (>3 เดือน) แนะนำ “สะสม”
หุ้นรับบอลยูโร (CPALL*, TACC, CBG*) เราประเมินบอลยูโร 2016 เริ่มแข่งขันสัปดาห์หน้า คาดจะเป็น Sentiment ต่อยอดขายสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่ม ขณะเดียวกันฝ่ายวิจัยฯประเมินการบริโภคในประเทศจะเริ่มฟื้นตัว จากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับขึ้นขณะนี้ และปัญหาภัยแล้งที่เริ่มคลี่คลาย
กลุ่มพลังงานทดแทน กกพ เปิดประมูล FiT โรงไฟฟ้าชีวมวล (ยื่น 15 – 30 มิ.ย.นี้ และประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติวันที่ 22 ก.ค.) 1) สำหรับประเด็นนี้เราประเมิน ECF และ FPI จะเด่นในด้านมีโอกาสเป็นม้ามืดในการประมูล ขณะที่ประเด็นสำคัญคือการเปลี่ยนสัญญา Adder เป็น FiT สำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวลเดิม (อัตรากำไรดีขึ้น) ซึ่งหุ้นที่คาดจะได้ประโยชน์คือ TPCH, UWC, IFEC 2) ประเด็นต่อเนื่องคือการเปิดใบอนุญาติโรงไฟฟ้าขยะ (ทั้งขยะชุมชนและขยะอุตสาหกรรม) หลังการประมูล FiT โรงไฟฟ้าชีวมวล หุ้นที่ได้ประโยชน์คือ BWG และ 3) และคาดจะต่อเนื่องด้วยการเปิดประมูล FiT พลังงานลม ในไตรมาส 4/59 หรือ อย่างช้า 1H60 โดยหุ้นที่มีการศึกษาพลังงานลมในมือและพร้อมสำหรับการประมูลคือ IFEC, SUPER, EA (พลังงานลมการแข่งขันประมูลจะต่ำ ทำให้โอกาสได้ PPA ค่อนข้างแน่นอน)
หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ + วัสดุฯ: ประเด็นการทยอยเปิดประมูลโครงการภาครัฐฯ (สุวรรณภูมิเฟส 2, รถไฟฟ้า รถไฟรางคู่, มอเตอร์เวย์) แนะนำเก็งกำไร i) หุ้นกลุ่มรับเหมาฯตัวหลัก (CK*, STEC*, ITD*, UNIQ*, NWR) ii) งานเสาเข็ม (SEAFCO, PYLON, TMC) iii) วัสดุฯ + เหล็ก + ระบบไฟฟ้า (SCC*, TMT, ASEFA, EPG*)
หุ้นมีข่าว
(+/-0) CPI เดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน กระทรวงพาณิชย์รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ในเดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น +0.46% YoY ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงานเพิ่มขึ้น +0.78% YoY เนื่องจากราคาอาหารสดที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นผลกระทบจากภัยแล้ง (กระทรวงพาณิชย์) อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นมากจาก 2 ปัจจัย คือ ภัยแล้ง และ ราคาน้ำมันในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนเมษายน แต่ในเดือนมิถุนายนอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ลดลงเนื่องจากเข้าฤดูฝน ราคาอาหารสดหลายรายการจะลดลงไปสู่ระดับปกติก่อนเดือนเมษายน ส่วนราคาน้ำมันในประเทศจะเป็นปัจจัยที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อแกว่งตัวเนื่องจากเป็นไปได้ทั้งปรับตัวเพิ่มขึ้นและลดลง อัตราเงินเฟ้อที่กลับขึ้นมาในแดนบวกยังไม่มีผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของ กนง. เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังขยายตัวในระดับต่ำมาก กนง. จะให้ความสำคัญไปที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมากกว่าการเปลี่ยนแปลงของระดับราคา
(+) GLOW* คาดว่าจะสรุปการต่อสัญญาสำหรับ SPP 2 โครงการ ในมิถุนายน 2016 (ผู้จัดการรายวัน) ข่าวนี้เป็นบวกในมุมมองของเรา โดยการต่อสัญญาในครั้งนี้จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่กำไรปี 2560-61 และ ราคาเป้าหมายปี 2559 ให้แก่บริษัท แต่เราไม่ได้คาดว่ามูลค่าเพิ่มดังกล่าวจะมีนัยสำคัญมาก จากขยายระยะเวลาของสัญญาเพียง 3 ปี กำลังการผลิตที่จะรับซื้อสูงสุดของ 60MW และอัตราค่าไฟฟ้าของ Bt2.3753 ต่อหน่วย เราประเมินมูลค่าเพิ่มต่อกำไร 25560-61 จะเป็น 2% และ 3% พร้อมทั้ง ราคาเป้าหมายส่วนเพิ่ม 0.5 บาท ในขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณากรการต่อสัญญาดังกล่าว โดยเรามองโอกาสสูงที่บริษัทจะรับข้อตกลงนี้มากก่ากว่าปล่อยให้สัญญาหมดอายุ นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน SPP ใหม่ แต่เราเห็นไม่คาดว่าจะน่าสนใจมาก จากการนโยบายการขายไฟฟ้าสูงสุดที่ 30MW เท่านั้น คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมายเป้าหมาย 2559 ที่ Bt83.0
(+) TRC ลุ้นรับงาน คลังน้ำมันอาเซียน หวังปีนี้โตเกินเป้า (กรุงเทพธุรกิจ) 'ทีอาร์ซี' ลุ้นรายได้ปีนี้เกินเป้าที่วางไว้ 8,600 ล้านบาท หากบริษัทได้งานประมูลทุกโครงการตามแผน มั่นใจได้งานท่อส่งก๊าซ 2 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท คาดทำสัญญารับงานก่อสร้างเหมืองโปแตชไตรมาส 3 นี้ เผยอยู่ระหว่างศึกษารับงานก่อสร้างคลังน้ำมันในอาเซียน และท่อส่งในประเทศ
(+) NWR ลุ้นคว้าสิทธิ์สร้างสนามบินเบตง (ไทยโพสต์) "เนาวรัตน์ พัฒนาการ" จ่อคว้าสิทธิ์ปั้นสนามบินเบตง หลังลงสนามชิงเพียงรายเดียวและเสนอราคาต่ำสุด 1.3 พันล้านบาท เตรียมเสนอคมนาคมพิจารณาก่อนส่งเข้า ครม.เห็นชอบเพื่อลงนามสัญญาจ้าง
(+) DEMCO คงเป้ารายได้ปีนี้โต15% โชว์แบ็กล็อก 7 พันล้าน-ลุยประมูลงานเพิ่ม (ข่าวหุ้น) “เด็มโก้” ลั่นปี 59 รายได้โตไม่ต่ำกว่า 10-15% หลังตุนงานในมือ 7,000 ล้านบาท ลุยประมูลงานภาครัฐ-เอกชนเพิ่ม มองทั้งปีไม่มั่นใจจะมีกำไร แย้มโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมเขาค้อ COD ใน Q3/59
(+) SAMTEL* มือดีคว้า 294ล. เสริมแบ็กล็อกรอรับรู้ยาว (ทันหุ้น) SAMTEL มือขึ้นคว้างานใหม่ 2 โครงการ มูลค่ารวม 294.80 ล้านบาท เสริมแกร่งงานในมือเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 8,000 ล้านบาท ส่งซิกไตรมาส 2/2559 ฟื้นตัวดีจากไตรมาสแรก จับตาผลงานครึ่งปีหลัง 2559 เติบโตเร้าใจ มีโอกาสได้รับงานใหม่มากขึ้น
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
BWG (เป้า Consensus 2.62 บาท) ราคาย่อตัวลงมาหลังยังไม่สามารถผ่านแนวต้านแรกบริเวณ 2.0 บาทได้ เราแนะนำ ซื้อสะสม แนวรับ ±1.85 บาท โดยยังคงประเมินแนวต้าน 2.0 และ 2.5 บาท เป็นจุดขายทำกำไร ... COD โรงไฟฟ้าขยะ (อุตสาหกรรมฯ) กำลังการผลิต 9MW + คาด กกพ เปิดใบอนุญาตโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมเพิ่มเติม
SCB* (เป้าพื้นฐาน 155 บาท) หากวันนี้ยืนเหนือแนวต้าน 137.5 บาทได้ แนะนำ “Let profit run” รอขายที่แนวต้านถัดไป ±145 บาท แต่ถ้าไม่สามารถยืนเหนือ 137.5 บาท แนะนำ “ขายทำกำไร” (สำหรับนักลงทุนระยะ > 3 เดือน แนะนำ “สะสม”)
BJCHI* (เป้าพื้นฐาน 8.8 บาท) ส่ง แนะนำ “เก็งกำไร” โดยประเมินแนวรับ 6.10, 6.05 บาท แนวต้านแรก ±6.60 บาท ... ประเด็นเรื่องการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน จะทำให้การประมูลงานรับเหมาฯ ด้านพลังงาน เริ่มฟื้นตัว รวมทั้ง Dividend yield ±8%
SMT (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 7.82 บาท) ประเมินแนวรับ ±6.5 บาท แนะนำ “สะสม” ... ประเด็น Fed ขึ้นดอกเบี้ยเป็นบวกต่อการส่งออก (บาทอ่อน + เศรษฐกิจโลกฟื้น)
COM7 (เป้าเฉลี่ย Consensus 8.0 บาท, สูงสุด Consensus 9.0 บาท) ประเมินแนวรับ ±8.10 บาท และประเมินเป้าหมายระยะกลางที่ ±8.50 บาท … ปลายปีนี้จะมีทั้ง iPhone 7 และ MacBook ใหม่ + คาดไตรมาส 2/59 เป็นจุดเริ่มต้นการโตแบบ Inorganic Growth
PACE (เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท) แนะนำ “สะสม” แนวรับ 3.16 บาท และ Stop loss 3.0 บาท (เป็นราคาเพิ่มทุนแบบ PP) ประเมินแนวต้าน 3.4 บาท ... คาดไตรมาส 3/59 จะเริ่มมีกำไรจากการดำเนินงาน (โครงการมหานครเริ่มโอนบางส่วนในไตรมาส 2/59)
สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
SCB* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 155 บาท Reuters ลงประเด็นข่าวบริษัท AIA และ Prudential มีความสนใจที่จะเข้าซื้อหุ้นของ SCB Life ซึ่งการได้พันมิตรเชิงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งจะเป็นบวกต่อการเติบโตในระยะยาว
CPN* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 70 บาท (ปรับขึ้นจาก 65 บาท) จากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้มุมมองเป็นบวก สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันเริ่มฟื้นตัว และผู้บริโภคเริ่มมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ฝ่ายวิจัยฯปรับเป้าหมายขึ้นโดยปรับสมมติฐานอัตราการเติบโตระยะยาวจาก 4.0% เป็น 4.5%
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- ค่าเฉลี่ยสี่วันที่รับ 1415 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1415 จุด อาจกดราคาลงทดสอบแนวรับ 1404 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1415 จุดได้นั้น อาจสะสมแรงผลักราคาขึ้นทดสอบต้าน 1430 จุด
แนวรับวันนี้: 1415/1403 แนวต้านวันนี้: 1420/1430
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]