- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 01 June 2016 17:39
- Hits: 1371
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ระมัดระวัง
คาดหุ้นไทยขยับลงวันนี้ ตามทิศทางหุ้นโลกที่นักลงทุนกลับมาระมัดระวัง หลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลง และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาทั้งดีและไม่ดี แต่ตัวเลขที่ Fed จับตาเฝ้ามองอย่างแท้จริง 2 ตัว คือ การใช้จ่ายผู้บริโภค และเงินเฟ้อที่วัดจากรายจ่ายส่วนบุคคล บ่งชี้ไปในทางให้ขึ้นดอกเบี้ย ก่อนที่จะมีการประกาศตัวเลขการว่าจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐในวันศุกร์ ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ ค่อนไปในทางบวก ธปท.มองว่าเศรษฐกิจไตรมาส 2 น่าจะขยายตัวได้ใกล้เคียงไตรมาส 1 ที่ 3.2% ผลผลิตอุตสาหกรรมเพิ่มชึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนเม.ย. มาตรการภาษีเร่งผู้ลงทุนภาคเอกชน และการตัดสินใจเข้าร่วม TPP ถือเป็นปัจจัยบวกเช่นกัน
หุ้นเด่นวันนี้ : THCOM (ราคาปิด 27.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย 49 บาท)
บมจ.ไทยคมเป็นหนึ่งเดียวในภูมิภาคเอเชียที่ให้บริการทั้งดาวเทียมถ่ายทอดรายการโทรทัศน์และบริการบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียมด้วย ซึ่งทำให้บริการมีความอเนกประสงค์และครบวงจรเมื่อเทียบกับคู่แข่งในภูมิภาค THCOM พึ่งยิงดาวเทียมไทยคม 8 ขึ้นสู่วงโคจรในวันที่ 28 พ.ค. 59 ซึ่งเป็นดาวเทียมที่อยู่ในวงโคจร 78.5 องศาตะวันออกอันเป็นตำแหน่งที่นิยมที่สุดในภูมิภาคนี้ การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีจากช่องความคมชัดมาตรฐาน (SD) เป็นช่องความคมชัดสูง (HD) ไปจนถึงความคมชัดสูงมาก (UHD) น่าจะหนุนอุปสงค์ต่อบริการดาวเทียมได้เป็นอย่างมาก อุปสงค์ต่อบริการเสริมความสามารถในการให้บริการมือถือด้วยดาวเทียม (mobile backhaul) ก็ยังเติบโตได้ดีด้วย เพราะเทรนด์การใช้ข้อมูล เปลี่ยน 2จี ไป3จี 4จีและ 5 จี ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากสำหรับตลาด CLMV เพราะน่าจะพัฒนาตามประเทศไทยได้ นอกจากอาเซียนแล้ว บริษัทยังได้วางตลาดอินเดียเป็นเป้าหมายการเติบโต โดยได้เซ็นสัญญากับบริษัทที่มีชื่อเสียงในอินเดียและพม่า เมื่อคิดจากยอดที่ได้เพิ่มจากพม่า อัตราการใช้ช่องสัญญาณน่าจะเพิ่มเป็น 38% ซึ่งเลยจุดคุ้มทุนไปแล้วเรียบร้อย เราคาดการณ์ไว้ว่ากำไรอาจเติบโต 9% ปีนี้และเร่งขึ้นเป็น 14% ในปีหน้า ราคาเป้าหมายตามวิธี DCF ของเราอยู่ที่ 49 บาท ซึ่งถือเป็นอัพไซด์ราว 81% คาดการณ์ปันผลตอบแทนดีที่ 3% Price Pattern ของ THCOM ยังมีแนวโน้มหลักที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิด Monthly Buy Signal และได้กลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่แล้ว จึงทำให้กลับมาเกิดความแข็งแกร่งในระยะสั้น รอเพียงการกลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่เพื่อให้มีความแข็งแกร่งในระยะกลาง โดยจะเกิดก็ต่อเมื่อสามารถปิดตลาดรายสัปดาห์ได้เหนือ 28.75 บาท คาดว่ามีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 28.75 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 31.25 บาท โดย THCOM มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 24.70 บาท (Resistance: 27.50, 28.00, 29.00; Support: 26.50, 26.00, 25.00)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ : พร้อมเข้าร่วม TPP รองนายกฯ สมคิด วานนี้แถลงจุดยืนประเทศไทยต่อความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (TPP) ระบุว่าไทยพร้อมจะเข้าร่วมข้อตกลงทางการค้านี้ทันทีที่เปิดรับสมาชิกใหม่ แถลงในการประชุม Nikkei Forum 22 International Conference on the Future of Asia (2016) ที่กรุงโตเกียว และยังได้ระบุอีกว่าไทยจะขอการสนับสนุนจากชาติสมาชิกรวมถึงญี่ปุ่น และจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนด้วย (Bangkok Post)
เศรษฐกิจในไตรมาส 2/59 น่าจะโตพอกับไตรมาส 1/59 คาดว่าอยู่ที่ระดับ 3.2% เทียบปีก่อน กล่าวโดยผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย แม้ว่าในไตรมาสสองจะเป็นโลว์ซีซั่นสำหรับการท่องเที่ยว แต่การใช้จ่ายภาครัฐและภาคบริการจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลักขณะที่ภาวะเศรษฐกิจโลกในไตรมาสสองก็ไม่น่าแย่ลงถ้าไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิด ขณะเดียวกันการลงทุนภาคเอกชนยังต่ำและกระจุกตัวในภาคโทรคมนาคมและพลังงานทดแทน (Bangkok Post)
อนุมัติหักลดหย่อนภาษีสองเท่า คณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ได้อนุมัติแผนหักลดหย่อนภาษีเป็นสองเท่าแก่นักลงทุนภาคเอกชนในปีนี้เพื่อกระตุ้นการลงทุน โดยเฉพาะมาตรการที่ให้นักลงทุนสามารถหักลดหย่อนภาษีได้เป็นสองเท่าหากเริ่มโครงการหรือเริ่มต้นงานก่อสร้างภายในปีนี้ โดยโครงการไม่จำเป็นต้องแล้วเสร็จภายในหนึ่งปี (Bangkok Post)
ผลิตผลอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สอง รมว. กระทรวงอุตสาหกรรมวานนี้ได้รายงานว่าดัชนีชี้วัดผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในเดือน เม.ษ. เพิ่มขึ้น 1.54% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสองเดือนติดต่อกันหลังปรับเพิ่มขึ้น 2.2% YoY ในเดือน มี.ค. ผลผลิตเดือน เม.ษ.โดยหลักเพิ่มขึ้นจากรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์, เครื่องปรับอากาศ, และปีโตรเลียม อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวยังคงเป็นไปอย่างอ่อนแอเนื่องจากการส่งออกและการใช้จ่ายในประเทศที่ยังอ่อนกำลัง (Bangkok Post)
SCB (134.00 บ., ซื้อ, 59 AWS TP 152.00 บ.) จากแหล่งข่าวกล่าวว่า เอไอเอกรุ๊ปและบริติซพรูเด็นเชียลเป็นหนึ่งในบริษัทประกันที่กำลังพิจารณาเข้าซื้อหุ้นอย่างน้อย 49% ของหน่วยประกันของ บมจ. ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต ซึ่งมีมูลค่ารวม 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ยังมีบริษัทประกันรายอื่นที่สนใจได้แก่ สวิสเซอร์แลนด์เอซีอีกรุ๊ปและบริษัทแคนาดาเมนูไลฟ์ไฟแนนซ์เชียลกรุ๊ป แหล่งข่าวยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่ากระบวนการขายหุ้นคาดว่าจะเริ่มต้นในไตรมาส 3/59 (Bangkok Post) ความเห็น: SCB ยังคงปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อความลือเกี่ยวกับธุรกรรมดังกล่าว
ต่างประเทศ
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงหลังจากที่แตะระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์เมื่อวันอังคาร หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงตามข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาทั้งบวกและลบ ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ซึ่งอ่อนไหวมากที่สุดต่อการคาดการณ์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดลดลงจากระดับสูงสุดในช่วงกว่า 2 เดือนในช่วงต้นของการซื้อขาย ส่วนราคาพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลง 2/32 ผลตอบแทนอยู่ที่ 1.842% ลดลงจาก 1.854% เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (Reuters)
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐถอยออกจากระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นในวันนี้ หลังจากการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแบบผสมผสานทำให้นักลงทุนลดความคาดหวังลงเล็กน้อยว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ถอยกลับจากระดับสูงสุดในช่วง 2 เดือนเมื่อวันจันทร์ที่ 95.895 มาอยู่ที่ระดับ 95.802 จุด (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐส่วนมากปิดลดลงเมื่อวันอังคาร โดยถูกฉุดลงจากห้นกลุ่มพลังงานเนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลง ข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารมีทั้งบวกและลบ นักลงทุนจะวิเคราะห์ข้อมูลมากขึ้นรวมทั้งรายงานการจ้างงานที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มิ.ย. นี้หรือไม่ (Reuters)
การใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 6 ปีในเดือนเม.ย. ด้วยครัวเรือนต่างๆซื้อรถยนต์มากขึ้น การใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งมากกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมเศรษฐกิจในสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนก่อน การเพิ่มขึ้นในเดือนก่อนเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับแต่ส.ค. 52 และสูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.7% (Reuters)
อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. หลังจากที่ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค. ซึ่งทำให้การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (core CPE) เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ระดับ 1.6% ดัชนีดังกล่าวเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อของเฟดและอยู่ต่ำกว่าเป้าของเฟดที่ 2% (Reuters)
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงในเดือนพ.ค. Conference Board รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงอยู่ที่ 92.6 จุด ในเดือนพ.ค. จาก 94.7 จุดในเดือนเม.ย. (Reuters)
การผลิตในย่านมิดเวสต์ชะลอตัวในเดือนพ.ค. สถาบันจัดการซัพพลาย-ชิคาโกระบุว่าดัชนีธุรกิจของสถาบันลดลง 1.1 จุด อยู่ที่ระดับ 49.3 ในเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งบอกถึงกิจกรรมการผลิตหดตัวในแถบมิดเวสต์ (Reuters)
ยุโรป :
หุ้นยุโรปปรับตัวลดลงในวันอังคาร จากความอ่อนแอในหุ้นกลุ่มธนาคารและโฟล์คสวาเกน ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวลงหลังจากค่ายรถชื่อดังแห่งนี้รายงานผลประกอบการแย่ลงใน 1Q59 ตลาดได้รับปัจจัยจากค่าเงินยูโรอ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ก็นับว่าเป็นตัวช่วยสำหรับผู้ส่งออกในยุโรป (Reuters)
โพลล์สำรวจจากสองค่ายชี้ให้เห็นการสนับสนุนเพิ่มขึ้นในการให้อังกฤษออกจากยูโรโซน (Brexit) สร้างความประหลาดใจต่อนักลงทุนที่คิดว่าจะมีแรงหนุนเบาบางลง ค่าเงินปอนด์สะท้อนให้เห็นด้วยการ ลดลง 1.1% เมื่อวันอังคาร มาอยู่ที่ 1.4487 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ (Reuters)
เอเชีย :
นายกรัฐมนตรี Shinzo Abe คาดว่าจะเลื่อนการประกาศอย่างเป็นทางการในการเสนอปรับขึ้น ภาษีการขายของปีถัดไป ให้ล่าช้าออกไป ในการแถลงข่าววันนี้ เพื่อป้องกันการทรุดของเศรษฐกิจ แผนการของเขาที่จะชะลอการปรับขึ้นภาษีและ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ได้ ขจัดการเก็งกำไร เพื่อให้ BOJ สามารถนำนโยบายการการผ่อนคลายทางการเงินมาใช้ได้ต่อไปเป็นช่วงต้นเดือนนี้ (Reuters)
งบลงทุน (CAPEX) ของญี่ปุ่นใน 1Q59 เพิ่มขึ้น 1.4 %QoQ และ 4.2%YoY โดยอัตราการเพิ่มของงบลงทุนนี้เพิ่มขึ้น QoQ แต่ลดลง YoY เมื่อเทียบกับของ 4Q58 ที่ โต 8.5%YoY แสดงให้เห็นการคาดการณ์การเติบโตของ GDP จะได้รับการ ปรับประมาณการขึ้นในเบื้องต้น แสดงให้เห็นว่า GDP ใน 1Q59 ขยายตัว 1.7%YoY ส่วนการลงทุนที่เป็นองค์ประกอบของ GDP ยังมีอัตราปรับตัวลดลง 1.4%QoQ. (Reuters)
ผลกำไรของบริษัทญี่ปุ่น ลดลง 9.3% YoY ใน 1Q59 เป็นการลดลงที่มากที่สุดนับตั้งแต่ 4Q54 ซึ่งเป็นข้อมูลที่แสดงโดยกระทรวงการคลังเมื่อวันพุธ (Reuters)
อุตสาหกรรมการให้บริการของจีนยังคงขยายตัวในเดือนพฤษภาคม แต่เป็นอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อน เป็นผบการสำรวจอย่างเป็นทางการที่ประกาศออกมาเมื่อวันพุธ PMI นอกภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 53.1 ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 53.5 โดยในระดับที่สูงกว่า 50 จุด ยังแสดงถึงเศรษฐกิจมีการเจริญเติบโตที่ดี ไม่อยู่ในขั้นหดตัว (Reuters)
ภาคการผลิตของจีนขยายตัวเล็กน้อยในเดือนพฤษภาคม ดัชนี PMI ภาคการผลิตอย่างเป็นทางการสำหรับเดือนพฤษภาคมไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 50.1 ดีกว่าที่นักวิเคราะห์โพลล์รอยเตอร์คาดการณ์ที่ 50.0 (Reuters)
หุ้นจีนปรับตัวขึ้นในรอบวันสูงสุดในรอบสามเดือน ในวันอังคาร เป็นการทำนิวไฮในรอบสามสัปดาห์ นำโดยกลุ่มการเงินชั้นนำ จากการที่นักลงทุนคาดหวังการที่ MSCI จะเพิ่มหุ้นของจีนแผ่นดินใหญ่ เข้าไปคำนวณในดัชนีเป็นครั้งแรก (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันร่วงวันอังคาร เพราะดอลลาร์ที่แข็งค่าและราคาหุ้นที่เป็นลบทำให้เกิดการขายทำกำไร แต่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบรายเดือนยังเป็นบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 เพราะนักลงทุนเก็งว่าสต็อกน้ำมันจะค่อยๆ ลดลง Brent ล่วงหน้าปรับลง 7 เซนต์ ปิดที่ 49.69 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันสหรัฐลดลง 23 เซนต์ (-0.5%) จากปิดวันศุกร์ที่ 49.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ราคาทองบวก 1% ในวันอังคาร ดีดกลับจากวันก่อนที่แตะจุดต่ำสุดรอบสามเดือนครึ่ง แต่รายเดือนยังเป็นลบมากสุดอยู่นับแต่ พ.ย. เพราะดอลลาร์แข็งค่าและคาดการณ์กันมากขึ้นว่าจะขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐ ราคาทองคำตลาดจรเพิ่มขึ้น 1% ปิด 1,216.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) Tel: 02 680 5094
Ms. Sukanya Leelarwerachai (No.68790) Tel: 02 680 5331