- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 31 May 2016 18:57
- Hits: 1231
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
"เลือกซื้อ/ถือด้วยค่าบวก"
Stock Picks-May 2016 : Fundamental : ADVANC, AOT, BA, LPH, TMT
Dark Horse : FSMART, RS
Fundamental Pick -Today: EPG(ดู Theme ลงทุนด้านใน)
Top Picks-High Div Yield : ADVANC, INTUCH, TMT, JASIF, DIF, CPNRF, SC, QH, SIRI, BCP
Shot Sell-Prev : DTAC 16.8% PTTEP 10.6% PTTGC 6.9% CPN 6.1%
Technical View ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ โดยมีลุ้นเด้งก่อนลงต่ำต่อ
Support Resistance Stop Loss
SET -- 1430,(1440,1450) ต่ำกว่า 1410
SET50 -- 920, (930) ต่ำกว่า 900
Technical Picks - Today KTB STEC KTP SCN VGI VIH BWG BA
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : นักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างชาตินำซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ ปิดตลาด SET Index +11.45 จุดที่ 1424.12 นำโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ สื่อสาร และหุ้น Big Cap อื่นๆ เช่น SCC, PTT, CPALL เป็นต้น
สำหรับ ปัจจัยในตลาด วันนี้ (31 พ.ค.) เป็นวันที่ MSCI Quarterly Review มีผลบังคับใช้ โดยในดัชนี MSCI Thailand หุ้นเข้ามาคำนวณใหม่ คือ ROBINS, EGCO และไม่มีหุ้นออก ส่วน MSCI Global Small Cap หุ้นไทยที่เข้ามาคำนวณใหม่เป็น DNA, GL, S ส่วนหุ้นออก คือ EFORL, SAMTEL, SAT, SRICHA, TIPCO, TTCL ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่มีน้ำหนักยังคงเป็นข่าวความเคลื่อนไหวของรายบริษัท โดยยังคงเฟ้นหาหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งและราคาหุ้นยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน ขณะที่ปัจจัยมหภาคของไทยยังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก เงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงนี้เนื่องจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐหลังตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 2/59 พลิกฟื้นดีขึ้นจากไตรมาสแรกที่ชะลอตัวไป แต่ค่าเงินบาทก็ไม่ได้แกว่งรุนแรงมาก กลยุทธ์ : การลงทุนหรือเก็งกำไรในช่วงนี้ยังคงเน้นเลือกเป็นรายบริษัท ส่วนภาพรวมตลาด เราประเมินกรอบล่าง-บนของ SET Index ในระยะ 1 เดือนข้างหน้าไว้ที่ 1380-1370, 1350 จุด และ 1430, 1440-1450 จุด หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้เป็น EPG
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ ต่อ โดยมีสิทธิรีบาวด์ต่อได้ในวันนี้ แนวต้านระยะสั้น 1430,(1440,1450) จุด แนวตัดขาดทุน คือ ต่ำกว่า 1410 จุด กลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไรตามด้วยค่าบวกและไม่ควรหวัง Gap มาก
สำหรับ การ SCAN หุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคดีและมีโอกาสปรับขึ้น พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ KTP, SEAFCO, VGI, SCN ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ RATCH, MALEE, GLOBAL, PTTGC, TNH, SIRI, BEM, SPA หุ้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ KAMART, CKP, VIH, CPN, BWG หุ้นที่หลุด List -ไม่มี-
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
ญี่ปุ่น : เลื่อนการปรับขึ้นอัตราภาษีขายออกไป
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยแผนเลื่อนการปรับขึ้นอัตราภาษีขายจาก 8% ในปัจจุบันเป็น 10% ออกไป จากที่จะต้องปรับขึ้นในเดือนเม.ย.60 ทั้งนี้เพราะเศรษฐกิจญี่ปุ่นซบเซามาก ส่วนหนึ่งถูกกระทบจากสึนามิและแผ่นดินไหว และอีกส่วนมาจากการฟื้นตัวที่ล่าช้าของเศรษฐกิจโลก...นับว่าเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
- ญี่ปุ่น : ยอดผลิตรถยนต์เม.ย.หดตัว
ยอดการผลิตของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงในเดือนเม.ย.59 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ซึ่งส่งผลให้โรงงานหลายแห่งต้องระงับการผลิต รวมทั้งมีข่าวเกี่ยวกับการโกงผลทดสอบการประหยัดพลังงานของค่ายมิตซูบิชิด้วย ทั้งนี้บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป มียอดการผลิตลดลง 18.8%YoY ในเดือนเม.ย.59 เป็น 200,675 คัน เนื่องจากการจัดหาชิ้นส่วนต้องสะดุดลงจากเหตุแผ่นดินไหวที่จังหวัดคูมาโมโตะเมื่อเดือนเม.ย.ส่วนค่ายนิสสันยอดผลิตลดลง 5.1%YoY เป็น 60,086 คัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มียอดการผลิตลดลง 16.7%YoY มาอยู่ที่ 38,713 คัน โดยมิตซูบิชิได้ระงับการผลิตรถยนต์ขนาดเล็กที่โรงงานในจังหวัดโอคายามานับตั้งแต่เกิดข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับการโกงผลการทดสอบการประหยัดน้ำมันช่วงปลายเดือนเม.ย.59 สำหรับยอดการผลิตรถยนต์ของบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ โค ลดลงน้อยกว่าบริษัทอื่น (-0.7%YoY) มาอยู่ที่ 51,581 คัน
จีน : คาดอัตราเงินเฟ้อจีนเดือนพ.ค.59 ยังคงทรงตัว
แบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชันส์ (BOCOM) คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของจีนในเดือนพ.ค.59 มีแนวโน้มว่าจะอยู่ในระดับเดียวกับเดือนเม.ย.เนื่องจากราคาอาหารขยับขึ้นช้าลง โดยประมาณการว่า CPI เดือนพ.ค.จะ +2.3%YoY เท่ากับเดือนเม.ย.
ตลาดหุ้นและตลาดเงินสหรัฐปิดทำการในวันจันทร์ที่ 30 พ.ค.59 เนื่องในวัน Memorial Day
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+/- MSCI Quarterly Review มีผลบังคับใช้ 31 พ.ค.59
สำหรับดัชนี MSCI Thailand หุ้นเข้ามาคำนวณ คือ ROBINS, EGCO และไม่มีหุ้นออก ส่วน MSCI Global Small Cap หุ้นไทยที่เข้ามาคำนวณในดัชนีเป็น DNA, GL, S ส่วนหุ้นออก คือ EFORL, SAMTEL, SAT, SRICHA, TIPCO, TTCL
PTT (ราคาปิด 310 บาท) : กพช.อนุมัติให้สร้างคลัง LNG แห่งที่ 2
ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแ)ห่งชาติ (กพช.) อนุมัติให้ PTT สร้างคลังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แห่งที่ 2 ที่จ.ระยองขนาด 5 ล้านตัน/ปี ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 65 รวมทั้งให้ขยายคลัง LNG แห่งที่ 1 ที่มาบตาพุด อีก 1.5 ล้านตัน/ปี มูลค่าเงินลงทุน 1.5 พันล้านบาท ก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 62 เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ แต่โรงไฟฟ้าถ่านหินมีความล่าช้าจึงต้องใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากแผนเดิม
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : เป็นไปตามคาดการณ์ของบริษัทและนักวิเคราะห์ DBSV และเราเชื่อว่าธุรกิจก๊าซยังเป็น Key growth ของบริษัท โดยธุรกิจ LNG มีโอกาสเติบโตสูง เพราะเป็นอีกแหล่งพลังงานที่จะใช้ได้ในอนาคต เนื่องจากมีต้นทุนต่อหน่วยที่ต่ำและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่มาก และสอดคล้องกับแผน PDP ที่จะหาแหล่งพลังงานอื่นมาทดแทนก๊าซธรรมชาติที่มีปริมาณสำรองเหลืออยู่ไม่มาก ไม่ว่าจะเป็นถ่านหิน พลังงานทางเลือก และอื่นๆ ซึ่งความคืบหน้าของการหาแหล่งพลังงานใหม่ๆ ก็ค่อนข้างล่าช้ากว่าเป้าหมายพอควร ฝ่ายวิจัยฯ DBSV คาดว่าส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจก๊าซ (รวม PTTEP) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั้งในระยะสั้นและยาว เพราะบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของ PTTEP และขาดทุนจาก NGV น้อยลง รวมถึงจะมีส่วนแบ่งกำไรจาก LNG Terminal ในระยะต่อไปด้วย แนะนำซื้อ PTT โดยให้ราคาพื้นฐาน 320 บาท (Sum-of-parts)
EPG (ราคาปิด 12.80 บาท) : กำไรปี 59 เติบโต 123%YoY
บริษัทรายงานกำไรสุทธิปี 59 (สิ้นสุดมี.ค.59) 1.4 พันล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 123%YoY แต่ต่ำกว่าที่เราประมาณการไว้ เนื่องจากมีการตั้งสำรองด้อยค่าในสินค้าล้าสมัยและหมุนเวียนช้ารวมถึงมูลค่าสินค้าคงคลังที่อาจขายได้ในราคาต่ำกว่าตลาดทั้งหมดจำนวน 154 ล้านบาท สำหรับผลการดำเนินงานปกติ ถือว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยรายได้เติบโต 27%YoY และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 33% จาก 26% ในงวดเดียวกันของปีก่อน แนวโน้มประมาณการกำไรปี 60 (สิ้นสุดมี.ค.60) ไม่เปลี่ยนแปลงจากที่ประมาณการไว้ โดยในปีนี้จะไม่มีผลขาดทุนจากการปิดโรงงานของบริษัทลูกเข้ามาแล้ว และยอดขายของ JTM และ AFC ในต่างประเทศเติบโตได้ดี ขณะที่ประสิทธิภาพในการผลิตของ EPP ก็ดีขึ้นหลังติดตั้งเครื่องจักรใหม่ ด้านต้นทุนเม็ดพลาสติกก็ยังไม่ได้กดดัน ทำให้มาร์จิ้นปีนี้จะยังอยู่ในระดับสูงได้ บริษัทประกาศจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.12 บาท/หุ้น กำหนด XD 2 ส.ค.59 และชำระเงิน 24 ส.ค.59 ฝ่ายวิจัยฯ DBSV คงคำแนะนำซื้อให้ราคาพื้นฐาน 17 บาท/หุ้น
+ คลังชงกระตุ้นลงทุนเพิ่มลดภาษี 2 เท่าเข้าครม.วันนี้
ปลัดคลังระบุเตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนเข้า ครม.วันนี้ สิทธิ์หักลดหย่อนภาษี 2 เท่า ของเงินลงทุนจริง แต่ต้องเริ่มโครงการภายในปีนี้เท่านั้น เดินหน้าเร่งเบิกจ่ายดันจีดีพีขยายตัว 3.3% ด้านดัชนีเชื่อมั่นเศรษฐกิจครึ่งปีหลังสดใส
ผลกระทบ: เป็นบวกกับหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรม เช่น AMATA, HEMRAJ (WHA), ROJNA รวมทั้งการให้เช่าโรงงาน และคลังสินค้าให้เช่า เช่น WHA, TICON เป็นต้น
+ อิโตชู-3 พันธมิตรลุยไฮสปีด
รองนายกฯสมคิด เปิดเผยระหว่างการโรดโชว์การลงทุนที่ญี่ปุ่นว่ากลุ่มพันธมิตร อิโตชู-ซีพี-สหพัฒน์-อมตะ ลุยลงทุนรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-ระยอง และ BOI ได้จัดให้พบบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอาหารที่ญี่ปุ่นคือ อายิโนะโมะโต๊ะ และ โอซึกะ ฟาร์มาซูติคอล ที่ต้องการใช้ไทยเป็นฐานในการผลิตอาหาร
+ นายกฯลั่นซื้อรถเมล์เอ็นจีวี และลงทุนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินต้องโปร่งใส
นายกฯให้ ขสมก. เร่งรัดจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน และให้ รฟม. เร่งแก้ปัญหาการดำเนินการโครงการรถรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทั้งระบบให้เสร็จภายใน 3 เดือน (โพสต์ ทูเดย์)
ผลกระทบ: เป็นบวกกับหลักทรัพย์ที่ให้ความสนใจเข้าประมูลการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี เท่าที่ติดตามข่าวมีผู้สนใจ 2 รายคือ LOXLEY และ CHO โดยจะเข้าซื้อซองประมูล มี กำหนดยื่นเอกสารประกวดราคา 8 มิ.ย.นี้ และประกาศรายชื่อผู้เข้ารอบ 23 มิ.ย. 59 กำหนดเคาะราคาอี-อ็อคชั่น 8 ก.ค. 59 ด้านการลงทุนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เป็นที่คาดกันในตลาดฯอยู่แล้วว่าผู้ที่จะได้รับคือ BEM เพราะมีความพร้อมทั้งประสบการณ์ และเกิดการประหยัดในการต่อเชื่อมกับเส้นทางรถไฟฟ้ในปัจจุบัน คงคำแนะนำ ถือ สำหรับ BEM
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]